พฤหัสฯ 21  ต.ค.--Daily Focus :
ที่มา : บมจ.ฟินันเซีย ไซรัส

Today's Report : CPALL, DELTA, KTB, TCAP
Our Portfolio Oct 2010 : BANPU, PTTEP, SCB, TUF, STEC
ยังต้องระวังแกว่งในกรอบ 980-1000 จุด ดังนั้นรอซื้อตอนอ่อนตัวดีกว่า!
     แนวโน้ม : SET ยังมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง แม้ว่าในระหว่างวันจะปรับตัวลงไปพอควร ทำให้ FSS คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะแกว่งในกรอบ 980-1000 จุดต่อเนื่อง แต่ถ้ายังไม่สามารถขยับผ่าน 1000 จุดขึ้นไป ก็ถือว่ายังมีความเสี่ยงต่อการที่จะแกว่งย้อนกลับลงไปแถว 980-960 จุดได้ใหม่ โดยเฉพาะความกังวลจากค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าอยู่ รวมทั้งการที่นักลงทุนต่างประเทศเริ่มมียอดขายสุทธิบ่อยครั้งมากขึ้น ดังนั้นเรายังมองว่าจังหวะที่จะเลือกหุ้นเข้าทยอยรับยังสามารถรอช่วงปรับพักตัวลงของ SET ได้
     กลยุทธ์ : แนะนำถือหุ้นได้แต่จำกัดพอร์ตไว้ไม่เกิน 50% ของเงินลงทุน ส่วนจังหวะทยอยเข้าซื้อแนะนำให้รอตลาดปรับตัวลง หรือเมื่อดัชนียืนเหนือ 995 จุด ได้ก่อนจึงพิจารณาซื้อเพิ่ม โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ กลุ่มแบงก์(SCB, KBANK, BBL, TCAP) ที่เริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงาน รวมทั้งหุ้นพื้นฐานที่ราคาพักฐานลงมาบ้างแล้วเช่น TASCO, TTCL, ITD, STEC, CK, SEFCO, LPN เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
     * (+) กนง. คงดอกเบี้ยตามตลาดคาด ที่ 1.75% แต่ยอมรับว่าทิศทางยังเป็นขาขึ้นเพราะอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (ดอกเบี้ยหักเงินเฟ้อ) ติดลบไม่เหมาะกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดี
     * (+) ส่งออกของไทยเดือน ก.ย. +9.8% M-M และ +21.2% Y-Y สูงกว่าที่ตลาดคาด ครึ่งหนึ่งของยอดส่งออกที่เพิ่มมาจากอัญมณี (ส่วนใหญ่ทอง) ซึ่ง+169% M-M ถ้าหักส่วนนี้ออกไป ยอดส่งออกจะโต 3.5% M-M เติบโตในอัตราที่ชะลอลง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องถึง 4Q10 จากที่ฐานปีก่อนที่โตขึ้นและเศรษฐกิจของประเทศ G7, OECD ที่ยังไม่ฟื้นตัว
     * (+) KTB กำไรมากกว่าคาดเกือบ 20% จากรายได้ดอกเบี้ยรับที่สูงเกินคาดสะท้อนว่าแนวโน้ม NIM ดีขึ้นจากสินเชื่อที่ปล่อยใหม่ เราปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 19 บาท
     * (+) TCAP กำไรดีกว่าคาดเล็กน้อย เราปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 45 บาท
     * (+) DELTA เติบโตสวนกระแสบาทแข็ง คาดกำไร 3Q10 +40%Q-Q, +131%Y-Y จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของอุปกรณ์ Power supply ที่ใช้กับ Solar invertor และพัดลมที่ใช้ในรถยนต์ ซึ่งมีมาร์จิ้นสูง ชดเชยผลกระทบจากบาทแข็งได้ เราปรับประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าขึ้น 26% และ 24% ตามลำดับ และปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 40 บาท
     * (+) CPALL คาดกำไรครึ่งหลังชะลอตามฤดูกาล แต่ทั้งปีกำไรยังเติบโต 28% ปีหน้าโตอีก 22% สาขาที่ถูกน้ำท่วมคาดว่ามีไม่เกิน 2% ของสาขาทั้งหมดกว่า 5 พันสาขา ขณะที่การเจรจาต่ออายุสัญญา (ที่จะหมดอายุปี 2012) กับ PTT อาจเป็นข่าวดี ส่วนเงินปันผลพิเศษจะจ่ายหรือไม่ จะได้ข้อสรุป 9 พ.ย.นี้ เรายังคงแนะนำซื้อ CPALL เป้าหมาย 48 บาท
     * Fund Flow วานนี้กลับมาไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาค แต่ปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแตะเบรกเศรษฐกิจทำให้เกิดผลกระทบระยะสั้นกับอัตราแลกเปลี่ยนทันทีโดยค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าชั่วคราวเนื่องจากเป็นมาตรการที่สวนทางการสหรัฐที่กำลังจะอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับแนวโน้มวันนี้คาดว่า Fund Flow น่าจะกลับมาไหลเข้า โดยสังเกตุจากค่าเงินของสกุลเงินเอเชียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงค่าเงินบาทก็ขึ้นค่าขึ้นมาอยู่ที่ 29.85 บาท/ดอลลาร์ หลังจากที่เรียนรู้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะยิ่งทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าจีนและเอเชียต่อเนื่อง เพราะหากเฟดอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ก็จะยิ่งทำให้ปริมาณเงินท่วมโลก และเงินก็จะวิ่งไปหาผลตอบแทนที่สูงกว่าเป็นปกติ
     * ดัชนีดาวโจนส์กลับมาปิดทะยานขึ้น 129.35 จุด หลังค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนแอลงอีกครั้ง กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อในสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดหุ้น นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ บจ.ต่างๆ ด้วย
     * ตลาดหุ้นในยุโรปก็สามารถดีดขึ้นมาปิดเป็นบวกได้เช่นกันโดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และรถยนต์ อย่างไรก็ตามผลประกอบการที่ไร้ทิศทางของบริษัทเอกชนต่างๆ ในยุโรปจะเป็นแรงกดดันให้ตลาดหุ้นในยุโรปไต่ขึ้นได้ไม่มากนัก
     * ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ยังเปิดทำการด้วยการแกว่งตัวเป็นบวกและลบแคบๆ เท่านั้น
     * ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดพุ่งขึ้น 2.28 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 81.77 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง การขยับขึ้นของตลาดหุ้น และตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด
     * ราคาทองคำ COMEX เดือน ธ.ค. ปิดบวก 8.20 ดอลล์ อยู่ที่ 1,344.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง
     * ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดลบ 15 จุดอยู่ที่ 2729 จุดโดยลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 4
ข่าวภายในประเทศ
     * AH-IHL-SATหุ้นเด่น กำไรหรูอย่ามองข้าม หุ้นตกต้องสวนเก็บยานยนต์ AH-IHL-SAT กำไรเด่นจงอย่ามองข้าม "เย็บ ซู ชวน" การันตีอุตสาหกรรมดีหนุนงบไตรมาส 3 AH หรูแน่ วงการเชื่อกำไรกระฉูด 100 ล้านบาท ฟาก SAT เตรียมทุบสถิติกันอีกหน ยอดขายพุ่งเกิน 1,500 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-10-2010)
     * DCC รายได้พุ่ง สบช่องน้ำท่วมปันผลปีนี้ 3.20 บ. DCC ได้อานิสงส์น้ำท่วมหนักต่างจังหวัด ดันยอดขายวัสดุก่อสร้างพุ่ง หวังโชว์งบไตรมาส 4/53 หรู ขณะที่มั่นใจปีนี้รายได้ขยับไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนทำได้ 5.90 พันล้านบาท แนะซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเป้าหมายเท่ากับ 63 บาท ปีนี้ปันผล 3.20บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-10-2010)
     * PTTAR ลุ้น Q3 พลิกเป็นกำไร ขานรับกำไรค่าการกลั่น-สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น PTTAR ลุ้น Q3 พลิกเป็นกำไร 1,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 313% จาก Q2 ขาดทุน หลังตัวเลขกำไรค่าการกลั่นดีขึ้น แถมมีกำไรจากมูลค่าสินค้าคงเหลือจากราคาผลิตภัณฑ์ปรับเพิ่มขึ้น ส่วน Q4 แนวโน้มรายได้ดีต่อเนื่อง ทิศทางราคาน้ำมันและค่าการกลั่นพุ่ง โบรกฯแนะซื้อราคาเป้าหมาย 35 บาท รอรับจ่ายปันผล 1 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-10-2010)
     * ROBINS รายได้ปีนี้โตเกิน 12% ทุ่ม 650 ล้านผุดสาขาใหม่ที่ตรัง ROBINS การันตีรายได้ปีนี้โตทะลุ 12% รับเศรษฐกิจดี-กำลังซื้อสูงโดยเฉพาะไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น ลุยขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทุ่มงบ 650 ล้านบาท จ่อเปิดสาขาที่ จ.ตรังในรูปแบบ "ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์" วันที่ 11 พ.ย.นี้ ดันยอดสาขาปีนี้ครบ 24 สาขา ส่วนปีหน้าตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 3-4 สาขา ใช้งบลงทุน 2,000 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 21-10-2010)
     * NINE พร้อมเข้า mai เทรดวันแรก 17 พ.ย .ขายไอพีโอ 2.40 บาท NINE พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดเอ็ม เอ ไอ 17 พ.ย.นี้ เชื่อหุ้นได้รับความสนใจเหตุให้ส่วนลด 20% ลั่นแต่งตั้ง 3 อันเดอร์ไรเตอร์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ บล.ฟินันเซีย ไซรัส และบล.ซีไอเอ็มบีฯ ร่วมขายหุ้น IPO ให้กับนักลงทุนในราคาหุ้นละ 2.40 บาท ระหว่างวันที่ 1-3 พ.ย.นี้ ด้านกำไรปีนี้ทิศทางดีขึ้นจากปีก่อน หลังควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายและบริหารที่ดี (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น21-10-2010)
     * TRUE โชว์ยอดขายสมาร์ทโฟนพุ่ง 30% โบรกแนะขายหมดสตอรี่บวก ราคาเป้าหมายต่ำกว่า 3 บาท TRUE คุยฟุ้งยอดขายมือถือสมาร์ทโฟนพุ่งพรวดกว่า 30% ทั้งบีบี-ไอโฟน 4 ออเดอร์ทะลัก มั่นใจโค้งสุดท้ายของปียอดขายเพิ่มหลายเท่าตัว ดันรายได้นอนวอยซ์เพิ่มขึ้น จากยอดการใช้งานดาต้าเพิ่มถึง 89% ส่วนงบไตรมาส 3 ได้เห็นกำไรกว่า 800-1 พันล้านบาท รวยจากอัตราแลกเปลี่ยน ได้อานิสงส์ค่าบาทแข็ง แต่งบปกติยังขาดทุนอีกเพียบ เหตุธุรกิจหลักในมือทั้งบรอดแบนด์-ทรูวิชั่นส์-ทรูมูฟ ฟื้นตัวช้ากว่าคู่แข่ง โบรกฯชี้หุ้นยังไร้สตอรี่บวก แนะ "ขาย" ลูกเดียว (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น21-10-2010)
ข่าวต่างประเทศ
     * สหรัฐอเมริกา: FED ออกรายงาน Beige Book ชี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวปานกลาง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐ ครั้งล่าสุดเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวในระดับปานกลาง โดยกิจกรรมด้านการผลิตในเกือบทุกเขตมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของปริมาณการผลิตและยอดสั่งซื้อในภาคการผลิต ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคยังคงฟื้นตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงอ่อนไหวต่อราคาสินค้าและเลือกซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็นที่สุด ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยในเกือบทุกเขตยังคงอ่อนแอ โดยมีรายงานว่ายอดขายที่อยู่อาศัยในปีนี้ยังต่ำกว่าปีที่แล้ว (ที่มา: อินโฟเควสท์ 21-10-2010)
     * สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 667,000 บาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 15 ต.ค.เพิ่มขึ้น 667,000 บาร์เรล แตะระดับ 361.2 บาร์เรล แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 2.16 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 170.06 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 1.16 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 219.33 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น 0.6% แตะระดับ 82.5% มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.1% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 21-10-2010)