พุธ 20 ต.ค.--Daily Direction :
ที่มา : บล.บีฟิท
วิตกจีนขึ้นดอกเบี้ยชะลอการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
จู่ๆ ธนาคารกลางจีน ก็สร้างความประหลาดใจด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ระยะสั้น 0.25% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป ถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของจีนนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550 ซึ่งก็สะท้อนความวิตกเกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น และเงินเฟ้อที่ระดับสูง การตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีน ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ดิ่งลงแรง รวมทั้งราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล หุ้นทั่วโลกต่างก็ปรับลง เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลง ด้านหุ้นสหรัฐก็ยังมีปัจจัยลบจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทแอปเปิลและไอบีเอ็ม และยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องในภาคธนาคารของสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าแบงค์ ออฟ อเมริกา กำลังถูกบีบให้ซื้อคืนตราสารหนี้จำนองมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ก็จะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยลบภายนอกด้วย ในขณะที่ปัจจัยในประเทศ วันนี้ก็รอดูการประชุมกนง. โดยคาดว่า กนง. น่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ หลังมีกระแสกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่าและเงินทุนไหลเข้า ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยนัก
กลยุทธ์การลงทุน
* ระยะกลาง: ถือต่อ ... (จุดถอยอยู่ที่ 967 จุด)
* ระยะสั้น: ถือต่อ-เก็งกำไรต่อ ลุ้นตีฝ่าด่าน 1,000จุด (เผื่อจุดถอยไว้ที่ 980จุด)
Market Viewpoint
ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ -165.07 จุด หรือ -1.48% ปิดที่ 10,978.62 ตลาดได้รับผลกระทบจากการคุมเข้มสินเชื่ออย่างไม่คาดคิดของจีน และผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทแอปเปิลและไอบีเอ็ม นอกจากนี้ ตลาดมีความวิตกมากที่สุดจากข่าวที่ว่า แบงก์ ออฟ อเมริกาและธนาคารอื่นๆ อาจถูกบังคับให้ซื้อคืนตราสารหนี้จำนองมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
น้ำมันดิบ NYMEX -3.59 ดอลลาร์ หรือ -4.32% ปิดที่ 79.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากมีคำสั่งซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินที่มีความปลอดภัยสูงหลังจากจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และนักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีนอาจส่งผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลก และอาจส่งผลให้อุปสงค์ในน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆชะลอตัวลง
จีน - ธนาคารกลางจีนประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสะท้อนความวิตกเกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น และเงินเฟ้อที่ระดับสูง
สหรัฐ - จะจัดการไต่สวนเรื่องการยึดบ้าน เมื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติกลับจากการปิดสมัยประชุมสภาหลังการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.
ประชุม จี-20 - รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าว กระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามาในประเทศเกิดใหม่มากเกินไปกำลังทำให้ค่าเงินของประเทศเหล่านี้แข็งค่าขึ้น และเขาหวังว่า รมว.คลังกลุ่มจี-20 จะหาทางทำให้ค่าเงินมีเสถียรภาพ
เอเชีย - ธนาคารโลกปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกในปีนี้ โดยเป็นผลจากการฟื้นตัวทางการค้าและการบริโภคภาคเอกชน แต่ปรับลดตัวเลขคาดการณ์สำหรับปี 2011
เศรษฐกิจไทย - ธนาคารโลกปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยปรับขึ้นสู่ 7.5 % จากเดิมที่เคยคาดที่ 6.2 % ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าเติบโตเพียง 3.2 % จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 4.0 %
ที่มา : บล.บีฟิท
วิตกจีนขึ้นดอกเบี้ยชะลอการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
จู่ๆ ธนาคารกลางจีน ก็สร้างความประหลาดใจด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ระยะสั้น 0.25% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป ถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของจีนนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550 ซึ่งก็สะท้อนความวิตกเกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น และเงินเฟ้อที่ระดับสูง การตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีน ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ดิ่งลงแรง รวมทั้งราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล หุ้นทั่วโลกต่างก็ปรับลง เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลง ด้านหุ้นสหรัฐก็ยังมีปัจจัยลบจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทแอปเปิลและไอบีเอ็ม และยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องในภาคธนาคารของสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าแบงค์ ออฟ อเมริกา กำลังถูกบีบให้ซื้อคืนตราสารหนี้จำนองมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ก็จะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยลบภายนอกด้วย ในขณะที่ปัจจัยในประเทศ วันนี้ก็รอดูการประชุมกนง. โดยคาดว่า กนง. น่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ หลังมีกระแสกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่าและเงินทุนไหลเข้า ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยนัก
กลยุทธ์การลงทุน
* ระยะกลาง: ถือต่อ ... (จุดถอยอยู่ที่ 967 จุด)
* ระยะสั้น: ถือต่อ-เก็งกำไรต่อ ลุ้นตีฝ่าด่าน 1,000จุด (เผื่อจุดถอยไว้ที่ 980จุด)
Market Viewpoint
ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ -165.07 จุด หรือ -1.48% ปิดที่ 10,978.62 ตลาดได้รับผลกระทบจากการคุมเข้มสินเชื่ออย่างไม่คาดคิดของจีน และผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทแอปเปิลและไอบีเอ็ม นอกจากนี้ ตลาดมีความวิตกมากที่สุดจากข่าวที่ว่า แบงก์ ออฟ อเมริกาและธนาคารอื่นๆ อาจถูกบังคับให้ซื้อคืนตราสารหนี้จำนองมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
น้ำมันดิบ NYMEX -3.59 ดอลลาร์ หรือ -4.32% ปิดที่ 79.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากมีคำสั่งซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินที่มีความปลอดภัยสูงหลังจากจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และนักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีนอาจส่งผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลก และอาจส่งผลให้อุปสงค์ในน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆชะลอตัวลง
จีน - ธนาคารกลางจีนประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสะท้อนความวิตกเกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น และเงินเฟ้อที่ระดับสูง
สหรัฐ - จะจัดการไต่สวนเรื่องการยึดบ้าน เมื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติกลับจากการปิดสมัยประชุมสภาหลังการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.
ประชุม จี-20 - รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าว กระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามาในประเทศเกิดใหม่มากเกินไปกำลังทำให้ค่าเงินของประเทศเหล่านี้แข็งค่าขึ้น และเขาหวังว่า รมว.คลังกลุ่มจี-20 จะหาทางทำให้ค่าเงินมีเสถียรภาพ
เอเชีย - ธนาคารโลกปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกในปีนี้ โดยเป็นผลจากการฟื้นตัวทางการค้าและการบริโภคภาคเอกชน แต่ปรับลดตัวเลขคาดการณ์สำหรับปี 2011
เศรษฐกิจไทย - ธนาคารโลกปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยปรับขึ้นสู่ 7.5 % จากเดิมที่เคยคาดที่ 6.2 % ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าเติบโตเพียง 3.2 % จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 4.0 %