พุธ 20  ต.ค.--ไทยรัฐ :
สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
หุ้นลุ้นมาตรการสกัดเงินไหลเข้า จ่อปรับขึ้นเป้าหมายดัชนีอีกระลอกสิ้น ต.ค.นี้
    ตลาดหลักทรัพย์เล็งจัดมหกรรม "SET in the City" กระหึ่มขน 90 องค์กรให้ข้อมูลนักลงทุน สมาคมนักวิเคราะห์ฯ จ่อสำรวจความคิดเห็นโบรกเกอร์ ทิศทางเศรษฐกิจ-หุ้นไทยคาดปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นปีนี้ ระบุหุ้นยังฝ่าด่าน 1,000 จุดไม่ได้ เพราะหวั่นมาตรการสกัดเงินไหลเข้ารัฐบาล

ทุกหัวระแหงกดดัน กนง.คงดอกเบี้ย
    ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลการสำรวจความคิดเห็น พบว่านักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ ซึ่งทำงานในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์วิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศ 25 แห่ง ในช่วงเสนอให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ในการประชุมวันนี้ (20 ต.ค.) เพื่อช่วยลดการไหลเข้าของเงินทุน และการแข็งค่าของเงินบาท

คนงานเฮ! โกอิสราเอล
    นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. อนุมัติร่างความตกลงด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอิสราเอล และร่างความตกลงความร่วมมือระหว่างกรมการจัดหางานและองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานภาคเกษตรในประเทศอิสราเอล ทั้งนี้ ผลจากากรมีข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้การจัดส่งแรงงานไทยภาคเกษตรไปทำงานในอิสราเอล โดย IOM เสียค่าบริการและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานลดลง จากเดิมที่ต้องจ่ายให้บริษัทจัดหางานรายละ 193,000 บาท ลงมาเหลือไม่เกิน 3,402 เชคเกล หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 28,000 บาท (1 เชคเกล เท่ากับ 8.23 บาท) หรือลดลง 165,500 บาท แต่เมื่อรวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวของคนงานเป็นเงินทั้งสิ้น 63,650 บาท

ธนาคารโลกเตือนไทยรับมือส่งออกลด ฉุดปีหน้าโตร่วง 3.2%
    นายเฟรดเดอริโก จิล ซานเดอร์ นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลกประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารโลกประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยปีนี้จะขยายตัว7.5% โดยปรับขึ้นจากที่ประมาณการครั้งก่อนที่คาดจะขยายตัว 6.1% โดยการปรับประมาณการเพิ่มขึ้นมากจากการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกของไทยที่ขยายตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกประมาณการว่าจีดีพีของไทยในปี 2554 จะขยายตัว 3.2% เพราะฐานการขยายตัวในปีนี้ค่อนข้างสูง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหลัก 3 ประเทศยังคงถดถอย ทำให้เกิดผลลบต่อความต้องการสินค้าทั่วโลก

ลดหย่อนภาษีอุ้มคนชรา
    นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) ครม.ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการออมในรูปแบบประกันชีวิตแบบบำนาญ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมไว้ใช้หลังเกษียณอายุ ตลอดจนกระตุ้นการขยายตัวของกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มการออมของประเทศในระยะยาวและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

ท่องเที่ยวผวาเงินบาทมากกว่าน้ำท่วม
    นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบไปยังสำนักงาน ททท. จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก ในเบื้องต้นพบว่าผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ตต่าง ๆได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วม รวมทั้งนักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพักแล้ว มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คงต้องสำรวจความเสียหายในภาพรวมอีกครั้งหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว

ชิ้นส่วนยานยนต์แห่เข้าไทย บริษัทแม่สบช่องเงินเยนแข็งค่าย้ายฐาน
    ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากญี่ปุ่นกว่า 100 ราย จ่อย้ายฐานผลิตเข้าไทยหลังเงินเยนแข็งค่าหนัก ด้านสถาบันยานยนต์มั่นใจปี 54 ยอดผลิตรถยนต์ได้ 1.8 ล้านคันตามเป้า ด้าน ครม.ไฟเขียวมาตรการภาษีหนุนผุดศูนย์จัดหาสินค้าเพื่อการผลิตในไทยรองรับเปิดเสรีเออีซี

พาณิชย์ชงโควตาน้ำตาลปี 54 ท่วมท้น
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากคณะกรรมการน้ำตาลทราย (กน.) ที่มีนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม กน.ได้กำหนดปริมาณน้ำตาลเพื่อการบริโภคภายในประเทศ (โควตา ก.) ฤดูการผลิตปี 2553/54 ที่ระดับ 25 ล้านกระสอบ ถือเป็นปริมาณน้ำตาลบริโภคในประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยประเมินว่าจะมีอ้อยเข้าหีบฤดูกาลผลิตนี้เฉลี่ย 68 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกลงมามาก ประกอบกับมีพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มจากปีที่ผ่านมาอีก 700,000 ไร่ ทั้งนี้ สาเหตุที่มีการกำหนดโควตา ก.สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจาก กน.ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาน้ำตาลตึงตัว เช่น ฤดูการผลิตปี 2552/53 ที่กำหนดไว้ 21 ล้านกระสอบ แต่ในที่สุดเกิดปัญหาตึงตัวจนนำไปสู่การเพิ่มโควตา ก.พิเศษอีก 1 ล้านกระสอบและยังให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) ซื้อคืนจากเทรดเดอร์อีกว่า 700,000 กระสอบ

ไทยพาณิชย์ลุยสินเชื่อเอสเอ็มอี ตั้งเป้า 3 ปีติดทำเนียบท็อป 3 แน่
    นายศิริชัย สมบัติศิริ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าธนาคารพร้อมทำตลาดสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) และในปีหน้าจะมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ใช้บริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินอื่นๆ และใช้เงินกู้นอกระบบมารีไฟแนนซ์กับธนาคารสูงถึง 80% ของเป้าหมาย และเชื่อว่าในปีหน้าสินเชื่อเอสเอ็มอีจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เพราะนอกจากธนาคารพาณิชย์ที่เน้นปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอี ยังมีธนาคารของรัฐเข้ามาแข่งด้วย "ธนาคารตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะมีมาร์เกตแชร์สินเชื่อเอสเอ็มอีติด 1 ใน 3 ของตลาด และมีพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีลด 20% ของตลาด จากปัจจุบันมีมาร์เกตแชร์อันดับ 5 มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ไม่ถึง 10% ของตลาด"

บาทพ่นพิษฉุดผักผลไม้รายได้วูบ ผู้ค้า-ส่งออกเตือนรัฐปีหน้ากดราคารับซื้อแน่
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้(19 ต.ค.) ได้สั่งให้สำนักงบประมาณและกระทรวงพาณิชย์ ไปรวบรวมงบประมาณในโครงการต่างๆ ที่ใช้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่จะได้ประโยชน์จากการแข็งของค่าเงินบาท ส่วนกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้ไปดูแลเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีสัดส่วนหรือต้นทุนของการนำเข้าสูง และมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตประชาชน เพราะหลังจากค่าเงินบาทแข็งขึ้น จะทำให้ต้นทุนการนำเข้าถูกลง ทำให้ราคาสินค้าเหล่านี้สามารถปรับราคาลงได้ เช่น ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงเป็นต้น

แอลจียึดหัวหาดตลาดแอร์บ้าน ใช้ไทยเป็นฐานผลิตตีตลาดโลก
    นายเฮียน วู ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนลงทุนใหญ่ในไทยระหว่างปี 2553-54 ในกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศคือ อุปกรณ์ระบายความร้อนเครื่องปรับอากาศภายนอกอาคาร (Outdoor unit) จากเดิมต้องนำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น ส่งผลให้ไทยกลายเป็นฐานผลิตสินค้าเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยรองรับการเปิดเสรีการค้าอาเซียนหรืออาฟตา ที่ใช้ฐานจากไทยส่งออกไปในตลาดอาเซียนทุกประเทศ--จบ--

พุธ 20  ต.ค.--เดลินิวส์ :
สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ธ.โลกเสนอสกัดเงินไหลเข้า
    นายเฟรดเดอริโก จิล ซานเดอร์ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก ประจำประเทศไทยเปิดเผยว่าธนาคารโลกปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยปี 53 ขยายตัวที่ 7.5% จากที่คาดว่าจะขยายตัว 6.1% เนื่องจากการส่งออกช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวเร็วเกินกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้

ปลื้มปีทองหนังไทยโกย 'เมเจอร์ฯ' ปรับรายได้ใหม่
    นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์กรุ้ป ผู้บริหารโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนปรับเป้าหมายผลประกอบการในสิ้นปี 53 ใหม่ และคาดว่าจะเติบโตสูงกว่าที่คาดไว้ จากเดิมตั้งเป้าหมายเติบโต 10-15% และคาดว่าจะมีกำไรเติบโตมากกว่า550 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลดีจากยอดรายได้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เติบโตดีมาก ทั้งจากหนังไทยที่เข้าฉายสามารถสร้างรายได้ดีในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก และ กวน มึน โฮ ที่มียอดขายตั๋วมากกว่า 100 ล้านบาท ประกอบกับรายได้จากการขายสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์เติบโตสูงถึง 30%รวมถึงธุรกิจโบว์ลิ่งก็สร้างรายได้ดีเช่นกัน

ตลาดหุ้นถอดใจดัชนีพุ่งพันจุด
    นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังไม่สามารถผ่านระดับ 1,000 จุดได้ เป็นผลจาก 1,000 จุดเป็นตัวเลข 4 หลักซึ่งเป็นตัวเลขทางจิตวิทยา และยังมีเหตุการณ์ที่บุคคลสำคัญในวงการเศรษฐกิจออกมาให้ความเห็น และเสนอแนะเกี่ยวกับการสกัดป้องปรามเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้นักเก็งกำไรจับตาดูว่าในช่วง 2-3 วันนี้ ภาครัฐจะออกมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่เช่น ข้อเสนอให้มีการเก็บภาษีเงินทุนไหลเข้าส่งผลทำให้เงินบาทเริ่มทรงตัว

ไฟเขียวเพิ่มลดหย่อนรายได้ เบี้ยประกันชีวิต 3 แสน รุกตั้งศูนย์สินค้าไอพีซี
    นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับมาตรการภาษี 2 ประเด็น คือ เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ จากเดิมไม่เกิน 100,000 บาท เป็น 300,000 บาท และสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ (ไอพีซี)

ดิ้นหาประโยชน์จากบาทแข็ง จี้ก้นพาณิชย์ดูต้นทุนสินค้า
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า ได้สั่งการในการประชุม ครม.ให้สำนักงบประมาณและกระทรวงพาณิชย์ ไปพิจารณาดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ  ที่จะได้ประโยชน์จากกรณีที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยขอให้สำนักงบประมาณไปรวบรวมงบประมาณในโครงการต่าง ๆ ที่ใช้สินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศที่จะลดลง เพราะการแข็งค่าของเงินบาท จะทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศลดลง ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณได้ ส่วนกรณีของกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้ไปดูแลเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีสัดส่วนหรือต้นทุนของการนำเข้าสูงและมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตประชาชน 

น้ำตาลโควตา ก .25 ล้าน กระสอบ
    รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการน้ำตาลทราย (กน.) ได้กำหนดปริมาณน้ำตาลทรายบริโภคภายในประเทศ (โควตา ก.) ของฤดูการผลิตปี 53/54 ไว้ที่ระดับ 25 ล้านกระสอบ สูงกว่าปีนี้ 2 ล้านกระสอบ และถือเป็นปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากปริมาณความต้องการน้ำตาลทรายของไทยปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มเครื่องดื่มและขนมหวาน ที่สำคัญภาครัฐไม่ต้องการให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำตาลจนผู้บริโภครายย่อยได้รับความเดือดร้อนเหมือนกับปีนี้--จบ--