พุธ 20 ต.ค.--Market Focus :
ที่มา : บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป
กลยุทธ์การลงทุน: ถือเฉพาะหุ้นผลประกอบการเป็นหลัก
แนวโน้มตลาดวันนี้: ปัจจัยภายนอกและค่าเงินกดดัน
แม้วานนี้ตลาดจะฟื้นตัวขึ้นได้พอสมควร แต่ดูเหมือนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีน เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ได้สร้างความประหลาดใจ และเพิ่มความวิตกให้กับนัก ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง โดยส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐ และภูมิภาคเช้านี้อ่อนตัว ลงแรง รวมถึงการดีดกลับของดอลลาร์สหรัฐในฐานะแหล่งเงินทุนปลอดภัยได้ส่งผลลบ ต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ค่อนข้างมาก ดังนั้น SETI ในวันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงตาม บรรยากาศลงทุนของตลาดอื่น ขณะที่ปัจจัยภายในยังต้องจับตาการประชุมกนง. เพื่อดู การตัดสินใจด้านนโยบายการเงินที่จะสะท้อนแนวโน้มค่าเงินบาทต่อไป อย่างไรก็ดี คาดจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม ขณะที่เช้านี้ (7.35 น.) ค่าเงินบาท อ่อนค่ามาที่ระดับ 30 บาท/ดอลลาร์
กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นเน้นการถือหุ้นที่คาดจะมีผลประกอบการดีเป็นหลัก ระหว่างจับตาการไหลของกระแสเงินทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิด หากค่าเงินบาทอ่อนค่า ลงแรง อาจเป็นการกระตุ้นแรงขายทำกำไรมากขึ้น
แนวต้าน : 1000-1010
แนวรับ : 984-979
ปัจจัยเด่นวันนี้
+ เวิลด์แบงก์เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเอเซียตะวันออกปีนี้โต 8.9% เตือนปัจจัย เสี่ยง"เงินเฟ้อ-ค่าเงินแข็ง" แนะรักษาสมดุลเงินทุนเคลื่อนย้าย
+/- จับตาการประชุมกนง.ในวันนี้ เพื่อดูแนวโน้มค่าเงินบาทต่อไป แม้คาดจะคงอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 165.07 จุด ในวันอังคาร จากความวิตกที่ว่าภาคธนาคาร อาจต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการซื้อคืนตราสารหนี้จำนอง อีกทั้ง ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทแอปเปิล และไอบีเอ็ม รวมถึงการคุมเข้ม สินเชื่อของจีน
- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดดิ่งลง 3.59 ดอลลาร์ หรือ 4.32% มาที่ 79.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในฐานะสกุลเงินที่มีความปลอด ภัยสูงหลังจากจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างพลิกความคาดหมาย
- ธนาคารกลางจีนประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ระยะ 1 ปี 0.25% สู่ระดับ 2.5% และ 5.56% ตามลำดับ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ซึ่งเป็นการปรับขึ้น ครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี สะท้อนความวิตกเกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ในประเทศที่เพิ่ม ขึ้น และเงินเฟ้อที่ระดับสูง
+ นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ 778.22 ล้านบาทเมื่อวานนี้
0 ครม. มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคลังในการเพิ่มวงเงินการให้หักลดหย่อน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่า เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญจากเดิมไม่เกิน 1 แสนบาท เป็น 3 แสนบาท ทั้งนี้ วงเงินส่วนที่เพิ่มขึ้นจำนวน 2 แสนบาท ดังกล่าวต้อง ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน และเมื่อรวมกับเงินได้ที่จ่ายเข้ากองทุนประเภท เดียวกันอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท
ที่มา : บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป
กลยุทธ์การลงทุน: ถือเฉพาะหุ้นผลประกอบการเป็นหลัก
แนวโน้มตลาดวันนี้: ปัจจัยภายนอกและค่าเงินกดดัน
แม้วานนี้ตลาดจะฟื้นตัวขึ้นได้พอสมควร แต่ดูเหมือนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีน เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ได้สร้างความประหลาดใจ และเพิ่มความวิตกให้กับนัก ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง โดยส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐ และภูมิภาคเช้านี้อ่อนตัว ลงแรง รวมถึงการดีดกลับของดอลลาร์สหรัฐในฐานะแหล่งเงินทุนปลอดภัยได้ส่งผลลบ ต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ค่อนข้างมาก ดังนั้น SETI ในวันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงตาม บรรยากาศลงทุนของตลาดอื่น ขณะที่ปัจจัยภายในยังต้องจับตาการประชุมกนง. เพื่อดู การตัดสินใจด้านนโยบายการเงินที่จะสะท้อนแนวโน้มค่าเงินบาทต่อไป อย่างไรก็ดี คาดจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม ขณะที่เช้านี้ (7.35 น.) ค่าเงินบาท อ่อนค่ามาที่ระดับ 30 บาท/ดอลลาร์
กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นเน้นการถือหุ้นที่คาดจะมีผลประกอบการดีเป็นหลัก ระหว่างจับตาการไหลของกระแสเงินทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิด หากค่าเงินบาทอ่อนค่า ลงแรง อาจเป็นการกระตุ้นแรงขายทำกำไรมากขึ้น
แนวต้าน : 1000-1010
แนวรับ : 984-979
ปัจจัยเด่นวันนี้
+ เวิลด์แบงก์เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเอเซียตะวันออกปีนี้โต 8.9% เตือนปัจจัย เสี่ยง"เงินเฟ้อ-ค่าเงินแข็ง" แนะรักษาสมดุลเงินทุนเคลื่อนย้าย
+/- จับตาการประชุมกนง.ในวันนี้ เพื่อดูแนวโน้มค่าเงินบาทต่อไป แม้คาดจะคงอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 165.07 จุด ในวันอังคาร จากความวิตกที่ว่าภาคธนาคาร อาจต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการซื้อคืนตราสารหนี้จำนอง อีกทั้ง ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทแอปเปิล และไอบีเอ็ม รวมถึงการคุมเข้ม สินเชื่อของจีน
- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดดิ่งลง 3.59 ดอลลาร์ หรือ 4.32% มาที่ 79.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในฐานะสกุลเงินที่มีความปลอด ภัยสูงหลังจากจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างพลิกความคาดหมาย
- ธนาคารกลางจีนประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ระยะ 1 ปี 0.25% สู่ระดับ 2.5% และ 5.56% ตามลำดับ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ซึ่งเป็นการปรับขึ้น ครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี สะท้อนความวิตกเกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ในประเทศที่เพิ่ม ขึ้น และเงินเฟ้อที่ระดับสูง
+ นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ 778.22 ล้านบาทเมื่อวานนี้
0 ครม. มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคลังในการเพิ่มวงเงินการให้หักลดหย่อน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่า เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญจากเดิมไม่เกิน 1 แสนบาท เป็น 3 แสนบาท ทั้งนี้ วงเงินส่วนที่เพิ่มขึ้นจำนวน 2 แสนบาท ดังกล่าวต้อง ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน และเมื่อรวมกับเงินได้ที่จ่ายเข้ากองทุนประเภท เดียวกันอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท