จันทร์ 18 ต.ค.--Daily Direction :
ที่มา : บล.บีฟิท
Market Attitude
ตลาดรอดูการประชุม กนง.ในวันพุธที่ 20 นี้
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ ก็อยู่ที่การประชุมกนง. ในวันพุธที่ 20 ต.ค. เราได้เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่า กนง. น่าจะมีการปรับเปลี่ยนท่าทีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ดำเนินการมา 2 ครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้รวมทั้งตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก แรงกดดันที่มีมากขึ้นจากผู้ส่งออก ที่ได้รับผลกระทบ เรามองความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยหรือแม้แต่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% แต่ข้อเรียกร้องของ สอท. ที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ยนโยบายถึง 0.5% อาจจะมากเกินไปสำหรับกนง. เพราะนั้นอาจทำให้ดูเหมือนว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมาไม่มีความเหมาะสม มาดูปัจจัยต่างประเทศ ประธานเฟดของสหรัฐก็ได้ระบุในเรื่องที่ดูเหมือนจะพูดมาหลายครั้งแล้วว่า การว่างงานในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อต่ำ ได้บ่งชี้ถึงความจำเป็นที่เฟดจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ก็ถือเป็นการตอกย้ำการที่จะใช้มาตรการมากขึ้น หุ้นเมื่อวันศุกร์ของสหรัฐผันผวน โดยมีปัจจัยลบเข้ามากระทบในกลุ่มธนาคาร จากข่าวการทุจริตด้านธุรกรรมจำนองของสถาบันการเงินในสหรัฐ อย่างไรก็ดี ตลาดรอดูการประกาศผลประกอบการกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำในสัปดาห์นี้ด้วย มาที่ตลาดหุ้นไทยก็ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1000 จุด อย่างไรก็ตามปัจจัยที่มีอยู่ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ก็ยังคงเดิมตลาดจึงอาจแกว่งตัวรอดูการประชุมกนง. รวมทั้งประเด็นการเมืองก็มีเรื่องตึงๆ กันของพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย แต่เท่าที่ประเมินดูแล้วก็น่าจะทนๆ กันไป ไม่น่ามีอะไร
กลยุทธ์การลงทุน
* ระยะกลาง : ถือต่อ ... (จุดถอยอยู่ที่ 967 จุด)
* ระยะสั้น : ถือต่อ-เก็งกำไรต่อ ลุ้นตีฝ่าด่าน 1,000 จุด
Market Viewpoint
ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ -31.79 จุด หรือ -0.29% ปิดที่ 11,062.78 ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวนจากปัจจัยลบเรื่องความวิตกกังวลต่อข่าวอื้อฉาวกรณีทุจริตรับจำนองของสถาบันการเงินในสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงทั่วทั้งกระดาน ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการของกูเกิลที่แข็งแกร่งเกินคาดช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวสูงขึ้น
น้ำมันดิบ NYMEX -1.44 ดอลลาร์ หรือ -1.74% ปิดที่ 81.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบรับแรงหนุนในช่วงเช้าจากการร่วงลงของดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและราคาน้ำมันร่วงลงในช่วงต่อมาเมื่อนักลงทุนมองว่า ตลาดได้ปรับตัวรับการคาดการณ์เรื่องการดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณของเฟดไปแล้ว
สหรัฐ - ประธานเฟดระบุ การว่างงานในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อต่ำ ได้บ่งชี้ถึงความจำเป็นที่เฟดจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
เงินบาท - ธปท. ระบุ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและท่องเที่ยวบ้างแล้ว เพราะเป็นกลุ่มที่ต้องใช้เงินตราต่างประเทศ แต่ก็ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ในการปรับปรุงหรือนำเข้าเครื่องจักรด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
อัตราดอกเบี้ย - ส.อ.ท. ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% มาที่ 1.25% ในการประชุมวันที่ 20 ต.ค.นี้
กระแสเงินทุน - กระทรวงการคลัง เผยว่า ยังไม่มีแนวคิดนำมาตรการภาษีมาใช้สกัดเงินทุนไหลเข้า เพราะดำเนินการได้ยาก และ ไม่ต้องการส่งสัญญาณว่า ไทยไม่รับเงินทุนจากต่างประเทศ
ที่มา : บล.บีฟิท
Market Attitude
ตลาดรอดูการประชุม กนง.ในวันพุธที่ 20 นี้
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ ก็อยู่ที่การประชุมกนง. ในวันพุธที่ 20 ต.ค. เราได้เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่า กนง. น่าจะมีการปรับเปลี่ยนท่าทีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ดำเนินการมา 2 ครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้รวมทั้งตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก แรงกดดันที่มีมากขึ้นจากผู้ส่งออก ที่ได้รับผลกระทบ เรามองความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยหรือแม้แต่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% แต่ข้อเรียกร้องของ สอท. ที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ยนโยบายถึง 0.5% อาจจะมากเกินไปสำหรับกนง. เพราะนั้นอาจทำให้ดูเหมือนว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมาไม่มีความเหมาะสม มาดูปัจจัยต่างประเทศ ประธานเฟดของสหรัฐก็ได้ระบุในเรื่องที่ดูเหมือนจะพูดมาหลายครั้งแล้วว่า การว่างงานในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อต่ำ ได้บ่งชี้ถึงความจำเป็นที่เฟดจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ก็ถือเป็นการตอกย้ำการที่จะใช้มาตรการมากขึ้น หุ้นเมื่อวันศุกร์ของสหรัฐผันผวน โดยมีปัจจัยลบเข้ามากระทบในกลุ่มธนาคาร จากข่าวการทุจริตด้านธุรกรรมจำนองของสถาบันการเงินในสหรัฐ อย่างไรก็ดี ตลาดรอดูการประกาศผลประกอบการกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำในสัปดาห์นี้ด้วย มาที่ตลาดหุ้นไทยก็ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1000 จุด อย่างไรก็ตามปัจจัยที่มีอยู่ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ก็ยังคงเดิมตลาดจึงอาจแกว่งตัวรอดูการประชุมกนง. รวมทั้งประเด็นการเมืองก็มีเรื่องตึงๆ กันของพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย แต่เท่าที่ประเมินดูแล้วก็น่าจะทนๆ กันไป ไม่น่ามีอะไร
กลยุทธ์การลงทุน
* ระยะกลาง : ถือต่อ ... (จุดถอยอยู่ที่ 967 จุด)
* ระยะสั้น : ถือต่อ-เก็งกำไรต่อ ลุ้นตีฝ่าด่าน 1,000 จุด
Market Viewpoint
ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ -31.79 จุด หรือ -0.29% ปิดที่ 11,062.78 ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวนจากปัจจัยลบเรื่องความวิตกกังวลต่อข่าวอื้อฉาวกรณีทุจริตรับจำนองของสถาบันการเงินในสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงทั่วทั้งกระดาน ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการของกูเกิลที่แข็งแกร่งเกินคาดช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวสูงขึ้น
น้ำมันดิบ NYMEX -1.44 ดอลลาร์ หรือ -1.74% ปิดที่ 81.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบรับแรงหนุนในช่วงเช้าจากการร่วงลงของดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและราคาน้ำมันร่วงลงในช่วงต่อมาเมื่อนักลงทุนมองว่า ตลาดได้ปรับตัวรับการคาดการณ์เรื่องการดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณของเฟดไปแล้ว
สหรัฐ - ประธานเฟดระบุ การว่างงานในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อต่ำ ได้บ่งชี้ถึงความจำเป็นที่เฟดจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
เงินบาท - ธปท. ระบุ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและท่องเที่ยวบ้างแล้ว เพราะเป็นกลุ่มที่ต้องใช้เงินตราต่างประเทศ แต่ก็ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ในการปรับปรุงหรือนำเข้าเครื่องจักรด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
อัตราดอกเบี้ย - ส.อ.ท. ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% มาที่ 1.25% ในการประชุมวันที่ 20 ต.ค.นี้
กระแสเงินทุน - กระทรวงการคลัง เผยว่า ยังไม่มีแนวคิดนำมาตรการภาษีมาใช้สกัดเงินทุนไหลเข้า เพราะดำเนินการได้ยาก และ ไม่ต้องการส่งสัญญาณว่า ไทยไม่รับเงินทุนจากต่างประเทศ