ศุกร์ 24 ก.ย.----รู้ทันหุ้น :
ที่มา : บมจ.เคจีไอ

มีช่วงลง ให้ซื้อเมื่ออ่อนตัว
        KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันศุกร์จะอ่อนตัวลง แต่ทางลงจะน้อยเพราะต่างชาติน่าจะซื้อหุ้นไทยอยู่ จิตวิทยาทั้งต่างประเทศและในประเทศเปลี่ยนเป็นลบในระยะสั้น หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สูงขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาด และยุโรปรายงานตัวเลขภาคการผลิตและภาคบริการในเดือน ก.ย. อ่อนลงเช่นกัน ขณะที่ในประเทศนั้นไม่มีข่าวร้ายที่ร้ายจริงๆ แต่มีข่าวที่รบกวนตวิทยาการลงทุนได้ เช่นการที่ กลต. จะตรวจสอบการสร้างราคาหุ้นผ่านระบบซื้อขายแบบอินเตอร์เนท การกำหนดมูลค่าซื้อขายของพอร์ต บล. ต่อวันไม่เกิน 75% ของส่วนผู้ถือหุ้นของ บล. นั้น หรือว่าการที่หุ้นกลุ่มสื่อสารบางตัวเช่น TRUE* อาจถูกบังคับขายหลังร่วงแรง และอาจกระทบหุ้นเก็งกำไรตัวอื่นๆ เป็นต้น KGI มองว่าดัชนีฯ จะมีช่วงอ่อนลงทดสอบแนวรับทางเทคนิคที่ 944 จุด และถัดไปที่ 937 จุด คาดว่าทางลงจะจำกัดเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มเข้ารับหุ้นต่อไป เนื่องจาก ธปท. ยังคงส่งสัญญาณย้ำๆ ถึงความจำเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้แนวโน้มเงินบาทแข็งต่อ และการที่ตัวเลขสหรัฐฯ แย่ลงนั้นก็เป็นการเพิ่มความเป็นไปได้ที่มาตรการเสริมสภาพคล่องสหรัฐฯ จะออกมาเร็วกว่าเดิมด้วย
        กลยุทธ์: ยังคงแนะนำให้ถือพอร์ตหุ้นหลัก เนื่องจากมองว่าตลาดมีทางลงไม่มาก หากมีอ่อนตัวจริงแนะสะสมหุ้นที่เป็นเป้าหมายของต่างชาติเช่น BBL*, PTTCH*, BANPU*, SCC* รวมทั้งหุ้นที่มีแนวโน้มอุตสาหกรรมแข็งแกร่งเช่น HEMRAJ, AMATA รวมทั้งหุ้น AOT* เป็นต้น
ความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
        นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. สายนโยบายการเงิน ให้ความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้อยู่ในระดับต่ำเกินไป หากปล่อยให้อยู่ในระดับต่ำนานเกินไปจะสร้างความไม่สมดุลต่อระบบการเงิน ภายใต้กรอบนโยบายการเงิน อัตราดอกเบี้ยมีไว้ดูแลเสถียรภาพระบบราคา และเสถียรภาพระบบการเงิน ไม่ให้เกิดความไม่สมดุล ไม่ได้ใช้ดอกเบี้ย ดูแลอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากปัจจุบัน จะไม่เป็นสาเหตุหลักที่ดึงให้เงินทุนไหลเข้ามาในประเทศ  เราคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีกครั้งละ 0.25% ในการประชุมที่เหลืออีก 2 ครั้งในปีนี้ จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขึ้นมาอยู่ที่ 2.25% สิ้นปี และ ยังขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีหน้า โดยการฟื้นตัวของความต้องการในประเทศและการขยายตัวภาคการลงทุนเป็นปัจจัยหลักผลักดันให้เงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นใกล้ 3.0% ในปีหน้า
        กระทรวงอุตสาหกรรมยื้อออกใบอนุญาตโครงการที่ไม่เข้าข่าย 11 กิจการรุนแรง เนื่องจากเกรงว่าจะถูกโจมตี หากออกให้รายหนึ่งรายใดก่อน จึงรอออกออกให้ในคราวเดียว โดยขณะนี้ มีกิจการที่รอการออกใบอนุญาต 22 กิจการ ประเด็นข่าวนี้อาจก่อให้ความกังวลบ้างเกี่ยวกับความล่าช้าของการได้รับใบอนุญาตโครงการอย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าความล่าช้าดังกล่าวไม่น่าจะยืดเยื้อยาวเกินไป โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องในกลุ่ม PTT* และ SCC*  ที่ได้มีการยื่นขอใบอนุญาตไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ เชื่อว่าโครงการส่วนใหญ่จะสามารถเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายปีนี้
        รมว.ไอซีที คาดว่าในสัปดาห์หน้าสภาจะลงมติเรื่องตั้งคณะกรรมาธิการร่วมสองสภา เพื่อร่วมกันพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นฯ โดยตั้งเป้าหมายจะทำให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อให้ทันประกาศใช้ภายในสิ้นปีนี้ และในต้นปี 2554 น่าจะมีกระบวนการตั้ง กสทช.และสรรหา กรรมการกสทช.ได้ ส่วนในประเด็นของการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญนั้น ภายในต้นสัปดาห์หน้าจะหารือกับฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อดูว่าจะให้องค์กรใดเป็นผู้ยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยว่า กทช. มีอำนาจเปิดประมูลใบอนุญาต 3G หรือไม่
จิตวิทยาตลาดวันนี้:  --- 'ขาย.
        จุดสูงสุดที่เกิดวานนี้ของ SET ที่ 957  จะเป็นแนวต้านสำคัญสำหรับวันนี้ นัยแนวรับวันนี้ของ SET ที่ 944 จุดมีความหมายว่า หากเมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 944 จุด จะเริ่มต้นแรงกดลงสู่รับมีนัยที่ 927 จุดก่อน๊
แนวรับวันนี้:         944/937/920                         
แนวต้านวันนี้:        950/957
แนวโน้มดัชนี SET ระยะกลาง:  ปรับฐานลง           เป้าหมายระยะกลาง: 875/---
ศุกร์ 24 ก.ย.--Market Focus :
ที่มา : บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป

กลยุทธ์การลงทุน: Selective trading กรอบ 940-954
     แนวโน้มตลาดวันนี้: ผันผวนระหว่างวันสูง รอดูการปรับตัวของค่าเงินหลัง ธปท.ออกมาตรการลดแรงกดดันค่าเงินบาท
     ภาพรวมตลาดดูไม่เลวร้ายมากนัก แม้ตลาดต่างประเทศจะได้รับแรงกดดันจากตัวเลข ตลาดแรงงานของสหรัฐที่น่าผิดหวัง และการออกมาตรการลดแรงกดดันค่าเงินบาท ของธปท. จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยมาที่ 30.70 บาท/ดอลลาร์ หากแต่ดู เหมือนกระแสเงินลงทุนไหลเข้ายังไม่มีสัญญาณสะดุดตัว อาจชะลอลงบ้าง โดยวานนี้ หลังออกมาตรการฯ ต่างชาติยังคงมียอดซื้อสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นไทยกว่า 2 พันล้านบาท ดังนั้น แนวโน้มกระแสเงินทุนทั่วโลกยังไหลเข้ามาในภูมิภาค จะยังประคอง การลงทุนในตลาดหุ้นได้ดี เว้นเสียแต่ว่าความกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐ/โลกจะทวี ความรุนแรงมากขึ้นจนทำให้เงินทุนเริ่มไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง
     กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นยังคงเน้นการเก็งกำไรหุ้นรายตัวเป็นหลักต่อไปในกรอบ 940-954
     แนวต้าน : 954-960    แนวรับ : 941-935
ปัจจัยเด่นวันนี้ 
     +    นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิในหุ้นไทยจำนวน 2,066.85 ล้านบาท วานนี้ 
     +    ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดบวก 47 เซนต์ มาที่ 75.18 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล หลังข่าวการปิดเครื่องผลิตน้ำมันบางเครื่องในโรงกลั่นน้ำมันสำคัญแห่ง หนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ
     -    ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 76.89 จุด ในวันพฤหัสบดี จากตัวเลขที่อ่อนแอในตลาด แรงงานของสหรัฐทำให้นักลงทุนกังวลว่าการไต่ขึ้นของตลาดในช่วงก่อนหน้านี้เป็น สิ่งที่ไม่มีความมั่นคง ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 7.6% ในเดือน ส.ค. แต่เป็น ปรับขึ้นจากระดับต่ำมากในเดือน ก.ค. ที่ร่วงลงกว่า 27%
     -    กท.คลังลงนามในประกาศ 5 มาตรการผ่อนคลายระเบียบควบคุมอัตราแลก เปลี่ยนเปิดทางนิติบุคคลลงทุนตปท.-ซื้ออสังหาฯ ในต่างแดนลดแรงกดดันบาทแข็ง   ด้านธนินทร์ เจียรวนนท์ ประธานฯ กลุ่มซีพี ชี้ปลายปีนี้มีโอกาสบาทจะหลุด 30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เพราะยังมีเงินลงทุนไหลเข้ามาต่อเนื่อง และธปท. ไม่ควรเข้าไป ต่อสู้กับค่าเงินบาท แต่อาจจำเป็นต้องแทรกแซงบางจังหวะเพื่อช่วยเอกชนปรับตัว
     -    IMF รายงานในการประชุมเอเปกว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีทิศทางจะ ชะลอลงในช่วง 2H53 และ อาจจะต่อเนื่องถึง 1H54 เนื่องจากยังมีความเสี่ยงด้าน ฐานะการคลังของประเทศต่างๆ และความอ่อนแอในการกำกับดูแลภาคการเงิน บางประเทศ
     0    วิปรัฐบาลมีมติตั้งกรรมการร่วม 2 รัฐสภาพิจารณาร่างกฎหมายกสทช. กำหนด กรอบ 2สัปดาห์ แล้วเสร็จ
     0    ตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ
ศุกร์ 24 ก.ย.--เด็กแนว :
ที่มา : บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

     ขึ้นแรงก็ต้องเหวี่ยงแรง ตลาดหุ้นไม่ใช่ขึ้นทางเดียวได้ทุกวัน  พอปรับลงกลับถามหาข่าวกันวุ่นว่าทำไมหุ้นลง  คงเพราะนักลงทุนชินกับหุ้นขึ้นและคาดหวังว่า SET จะเดินหน้าเต็มๆ  พอเจอปรับฐานช่วงที่เพิ่งเข้าไปซื้อก็เลยหวาดเสียวขึ้นมา   อย่างที่เตือนนั่นแหละตลาดมันจะเหวี่ยงแรงในภาวะแบบนี้ คนที่มีต้นทุนสูงควรระมัดระวังไว้ คนมีต้นทุนต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ถือต่อได้ เพราะบรรยากาศโดยรวมเด็กแนวว่ายังโอเครรรร
     KSL ยังไม่ลืมชื่อนี้กันนะ  น้ำตาลขอนแก่นยังไงล่ะ  ราคาหุ้นเคยร้อนแรงตามฤดูกาลช่วงที่ราคาน้ำตาลดี  ผลผลิตดี ทำให้มีการเก็บอ้อยได้เยอะ แถมยังมาผลิตเอทานอลได้อีกตะหาก  แต่หลังจากหมดข่าว และไปเจอผลขาดทุนจากการเปิดสถานะน้ำตาลในตลาดโลกผิดทางทำให้บันทึกขาดทุนจนงบทรุดนั่นเอง  จากนี้ไปไม่มีแล้วสำหรับสิ่งร้ายๆ  ที่เคยเกิดขึ้น  เพราะโรงงานใหม่ทั้งน้ำตาล  โรงไฟฟ้า   โรงงานเอทานอล จะกลับมาในเร็ววันและรายได้ปี 54 จะพุ่งทยานให้เห็นเลย  ดังนั้นผลประกอบการครึ่งแรกที่แย่จึงจัดเป็นช่วงระยะสุดท้ายแล้วก็ว่าได้  ราคาหุ้นที่ลงต่ำจึงเหมือน discount ไปเยอะแล้วนั่นเอง ล่าสุดข่าวจากอินเดียวานนี้น่าสนใจมาก
     อินเดียเป็นผู้ผลิตน้ำตาลมากเป็นอันดับสองของโลก บอกว่าภัยพิบัติที่ผ่านมาส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกเสียหาย และปริมาณการผลิตน้ำตาลจะลดลง เด็กแนวกลับมาดูราคาน้ำตาลในตลาดโลกก็พบว่าราคาดีดตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ  ซึ่งแบบนี้ก็ส่งผลบวกกับผู้ผลิตนั่นเอง และ KSL จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน   เมื่อกลับมามองที่ราคาหุ้น KSL ก็พบว่าขณะนี้อยู่ที่แนว Oversold คนเล่นกราฟต้องสะสมไม่ใช่ขายทิ้ง ซื้อตรงนี้ คือไม้แรกโอกาสเด้งได้เล็กๆ คือไป 12 บาทเลย ด้านผลประกอบการนักวิเคราะห์บอกว่าดูเหมือนแย่นะในปี 53 แต่ราคาพื้นฐานก็ยัง 12.60 บาท สูงกว่าราคากระดานอยู่ดี   ประเมินจากทุกอย่างแล้ว นี่คือจังหวะซื้อดักทางราคาที่ต่ำ ข่าวที่เข้ามา และการสะท้อนปัจจัยลบไปแล้วนั่นเอง   ซื้อของถูกดีกว่าซื้อของแพงเนอะ
     SMT กลุ่มอิเล็คฯ บางตัวดีดตัวขึ้นแรงเหมือนอัดอั้นอะไรบางอย่างเมื่อวานนี้   วันนี้เด็กแนวหันมาหาสตาร์ไมโครอิเล็กทรอนิกส์  หุ้นตัวนี้น่าสนใจเพราะมีรายได้อย่างชัดเจนมากตัวหนึ่ง ล่าสุดได้รับคำสั่งซื้อผลิตจอมือถือยี่ห้อดังจำนวนอย่างน้อย 15 ล้านชิ้นส่งมอบให้จบในปีหน้า มูลค่าก็ไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท ยังไม่นับงานสำคัญที่กำลังจะเข้ามาอีกเช่นผลิตโปรเจคเตอร์ขนาดพกพา  หรือการผลิตบัตรเครดิตดิจิตอล ล้วนแล้วแต่เป็นเงินเป็นทอง นักวิเคราะห์ตบโต๊ะผางๆ  บอกว่าแรงแน่งานนี้เพราะ Q3 กำไรไม่ตกเลย ไป Q4 ก็เจ๋งไม่แพ้กัน  เผลอๆ จะจ่ายปันผลก้อนโตเมื่อปิดงบกันยายนด้วยแบบว่า Surprise นักลงทุนมองเป้าสั้นๆ ก็ต้องมี 13.80 บาท
     BLS อย่าเพลินกับแบงก์ หรือพลังงาน  จนลืมนึกไปว่าปริมาณการซื้อขายของตลาดตอนนี้โตขึ้นอย่างมากขยายตัวเกิน 68% 
     ลองมาดูตารางที่เด็กแนวนำมาแสดง ช่วง Q2 นั้นขยายตัวแค่ 8.5% แต่ตัวเลข Q3 นับช่วงเวลาเท่ากันพบว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันพุ่งขึ้น 68.8% แบบนี้กลุ่มหลักทรัพย์คงโชว์กำไรกันสนุกเลย   BLS หลักทรัพย์บัวหลวงอาจจะมากกว่านั้นเพราะกำไรครึ่งปีโตตาเหลือกไปแล้ว 155%และโตกว่ากำไรปี 52 ทั้งปีซะอีก
     ถ้าให้กำไรในอัตราเนียะต่อไปถึงปลายปี จะมี EPS ประมาณ 19 บาท ให้ PE ถูกๆ แค่ 10 เท่าก็ต้องมีราคาเหมาะสม 19 บาทเข้าไปแล้ว  ดูจากราคาหุ้นในกระดาน ถือว่ามี gap เล่นได้พอมันส์ๆ แนะซื้อเมื่ออ่อนตัว มองต้าน 17.50 บาท
ศุกร์ 24 ก.ย.--หยิบเงินหยิบทอง :
ที่มา : บล.กิมเอ็ง

กลยุทธ์วันนี้  650 Again
     ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงเดินหน้าขยับขึ้นเป็นวันที่ 3 ปิดที่ 947.10 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ถึงแม้ว่าฮ่องกงและสิงคโปร์ปิดทำการ แต่กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าสะสมหุ้นไทยอย่างหนาแน่นถึง 2,067 ล้านบาทต่อเนื่องเป็นวันที่ 5
     ทิศทาง SET INDEX คาดว่าจะฟื้นตัวจากวานนี้ที่ปรับฐานลงในช่วงชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย หลัง TRUE ปรับฐานลงแรง คาดว่าจะเป็นการ Force Sales จากบัญชีหุ้นมาร์จิ้น หลังศาลปกครองสูงสุดยืนคำสั่งศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบช่วงสั้นๆ เท่านั้น ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ SET INDEX วันนี้เชื่อว่าจะกลับมายืนเหนือ 950 จุดได้อีกครั้ง ด้วยกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นในเอเชีย รวมถึงไทยต่อเนื่อง แม้ว่าจะขาดปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุนการลงทุนก็ตาม ทั้งนี้ติดตามการประชุมเรื่องค่าธรรมเนียมระหว่างธปท. และธนาคารพาณิชย์ รอบ 2 และควบคืบหน้าการออกใบอนุญาตโครงการที่ไม่เข้าข่าย 11 โครงการอันตราย หลังมีประเด็นการชะลอการพิจารณา รวมถึงสัปดาห์หน้าจะมีการนัดชุมนุมคัดค้านเรื่องดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อ PTT / PTTCH ในวันนี้ได้เช่นกัน
     สำหรับสัปดาห์หน้าคาดว่า SET INDEX จะยังคงเดินหน้าไต่ระดับขึ้นต่อจากสัปดาห์นี้ พร้อมกับความผันผวนที่สูงขึ้น ด้วยกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าเอเชียและไทย หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สัปดาห์หน้าออกมาส่งสัญญาณชะลอตัวเพิ่มขึ้น ยิ่งเป็นการผลักดันให้เงินทุนไหลออกจากสหรัฐฯ เข้าเอเชียมากขึ้น บวกกับหากตัวเลขเดือนส.ค.ของไทยออกมาเป็นบวก โดยเฉพาะภาคการบริโภค และการลงทุนภายในประเทศด้วยแล้ว ยิ่งเป็นการตอกย้ำมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทย
     กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: KimEng ยืนยัน "ถือพอร์ตการลงทุน" และเริ่มทยอยสะสมหุ้นเป็นรายหุ้น (Selective Buy) BAY / DTAC พร้อมแนะนำขายทำกำไร MCOT/ HEMRAJการลงทุนทางเลือก: แนะนำให้นักลงทุน "ปิดสถานะ Long ใน S50U10 บริเวณ 660 จุด และถือเงินสด" Stop Loss: S50U10 < 645 จุด ปิด Long และ Wait&See
Portfolio      Hold: CPF/ MINT/  MAJOR/ BBL/ KTB/ KBANK/ BANPU / PTTEP / CPALL/ TTA/ THCOM/ BLAND/ DELTA / KCE/ AMATA/ RCL
Buy : BAY / DTAC
Profit-taking: MCOT / HEMRAJ
     Technical View แนวรับ 940-945, 930 และ 920-922 จุด   ส่วนแนวต้าน 960 จุด+/-5 และ 975 จุด แนะนำให้เล่นตามกรอบระยะสั้นได้
สรุปข่าวสำคัญประจำวันนี้
     แบงก์ติงธปท.ขึ้นดอกเบี้ยหวั่นเอ็นพีแอลเอสเอ็มอี-อสังหาฯเพิ่ม (ข่าวหุ้น 24/9/53):
     นายแบงก์หวั่น แบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ จะทำให้ความสามารถการจ่ายเงินคืนของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีและกลุ่มอสังหาฯสะเทือนหนัก
SITHAI มั่นใจยอดขาย 5.7 พันล.รุกเพิ่มโปรดักต์ขยายกำลังผลิต (ASTV ผู้จัดการ 24/9/53):
     "ศรีไทยซุปเปอร์แวร์" เปิดแผนครึ่งปีหลัง รุกเพิ่มโปรดักต์ใหม่กลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหาร-เครื่องดื่ม พร้อมขยายกำลังผลิตในเวียดนาม และแตกไลน์การผลิตในศรีไทย ชิน-โอซาก้า ล่าสุดทุ่ม 250 ล้านบาทขยายฐานการผลิตไปอินเดีย มั่นใจทั้งปียอดขายรวมโตตามเป้า 5.7 พันล้านบาท
"ซาบีน่า"คงเป้ารายได้ปีนี้2.1พันล. อัตราส่วนกำไรสุทธิปีนี้มากกว่า4% (กรุงเทพธุรกิจ 24/9/53):
     "ซาบีน่า" คงเป้ารายได้ทั้งปีที่ 2,100 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อน 25% พร้อมระบุรายได้ครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากการขายสินค้าแบรนด์ซาบีน่าเติบโตขึ้น และปลายปีได้งานรับจ้างผลิต (OEM) สินค้า ส่งให้กับยุโรปซึ่งมีมาร์จินสูงกลับเข้ามา หลังจากก่อนหน้าหันไปสั่งซื้อจากจีน
เพิ่มจูงใจเอกชนอัพเกรด2จีสู่3จี (กรุงเทพธุรกิจ 24/9/53):
     "จุติ" เล็งเพิ่มแรงจูงใจเอกชนอัพเกรด 2จี เป็น 3จี ภายใต้เงื่อนไขสัมปทานเดิม ให้คุ้มค่ากับการลงทุน วอนสังคมตั้งสติ ยึดหลักกฎหมายและความถูกต้อง คาดว่าพ.ร.บ.กสทช.คลอดเดือนพ.ย.นี้ ตั้ง กสทช.เสร็จกลางปี 2554 ด้านทีโอทีฉวยจังหวะประมูลคลื่น 3จี ล่ม เดินหน้าลงทุนในระบบ 3จี ด้วยตัวเอง เสนอ ครม.อนุมัติการลงทุนในโครงข่ายดังกล่าวด้วยมูลค่าการลงทุน 1.9 หมื่นล้านบาท
ยื้อโรงแยกก๊าซปตท.หวั่นเอื้อเอกชน (ไทยโพสต์ 24/9/53):
     "ชัยวุฒิ" ยื้อออกใบอนุญาตโรงแยกก๊าซฯ 6 ปตท.รอออกพร้อมกันหมด 22 โครงการ อ้างกลัวกล่าวหาว่าเอื้อเอกชนรายใดรายหนึ่ง กบง.เบรก ปตท.ขอขยายเพดานราคาเอ็นจีวี
ฝรั่งขนเงินเล่นหุ้นพลังงาน PTTEP เคลียร์มอนทาราจบต.ค. (ทันหุ้น 24/9/53):
     ฝรั่งโยกเงินเล่นหุ้นไทย หนุนหุ้นพลังงานคึก จับตา PTTEP ลุ้นรัฐบาลออสเตรเลียประกาศการประเมินค่าความเสียหายแหล่งมอนทาราเดือนตุลาคมส่วนปัญหากับอินโดนีเซียรอรัฐบาลเจรจา พร้อมคาดปลายปีนี้สรุปดีลซื้อกิจกาจ 1 โครงการปีนี้
"SSI" แรงหวังยึดหัวหาดยุโรปบินตรงอังกฤษรุกธุรกิจเหล็ก (ทันหุ้น 24/9/53):
     SSI นอนกินบุญเก่า แหล่งข่าววงในแย้มทีมผู้บริหารติดปีกบินตรงอังกฤษศึกษาดูงานบริษัทย่อย ลั่นงานนี้มีโอกาสสยายปีกธุรกิจต่อเนื่อง จับตาไตรมาส 4 อาจมีเซอร์ไพรซ์อีกระลอกหลังซุ่มลงทุนฟากยุโรปไม่หยุดหย่อน ขณะที่ผลงาน Q3 ยังโตต่อเนื่อง อานิสงส์ค่าบาทฉุดต้นทุนวัตถุดิบลดฮวบ โบรกชี้ฟื้นฐานไปได้สวย
AOT ระรื่นโดยสารก.ย.พุ่ง 6% ติดเครื่งลุยสุวรรณภูมิเฟส 2 (ทันหุ้น 24/9/53):
     บิ๊ก AOT "เสรีรัตน์ ประสุตานนท์" ลั่นผู้โดยสารกระเตื้อง ล่าสุดกันยายนพุ่งแล้ว 6% จากปีก่อน  อานิสงส์ก้าวเข้าไฮซีซัน คาดเดือนหน้าฝรั่งแห่เข้าไทยเพียบหนุนผลงานก้าวกระโดด อุบไต๋ผลงานไตรมาส 4 เชื่อทั้งปีกำไรเหินเวหาจากหลังครึ่งปีกำไรบาน 2.5  พันล้านบาทแย้มเร่งหาที่ปรึกษาลุยสวรรณภูมิ เฟส 2 มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาทด่วนจี๋
PTTAR เซ็นสัญญาเงินกู้ 2.8 หมื่นล.รีไฟแนนซ์หนี้-เงินทุนหมุนเวียน (ทันหุ้น 24/9/53):
     PTTAR  เซ็นสัญญาเงินกู้ระยะยาว 10 ปี รวม 2.82 หมื่นล้านบาท ผู้บริหาร "ชายน้อย เผื่อนโกสุม" เผยดึงเงินรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มความครองตัวในการขยายธุรกิจ
SAMTEL ซึมงานหดเหลือ 4.5 พันล.รับ TOT เลื่อนประมูลโครงการ 3จี (ทันหุ้น 24/9/53):
     SAMTEL เหงื่อตก งาน TOT แว่วเลื่อนประมูลเป็นไตรมาส 4/2553 หรือต้นไตรมาส 1/2554 เหตุอยู่ระหว่างพิจารณาของบอร์ด TOT และ ครม.ฉุดเป้าประมูลงานครึ่งปีหลังหดเหลือ 4.5 พันล้านบาท จาก 5 พันล้านบาท แต่ครึ่งปีแรกตุนงานในมือไว้ถึง 4.4 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2555
TPOLYแตกไลน์ธุรกิจพลังงาน เซ็นสัญญา500ล้านปลายเดือนนี้ (ทันหุ้น 24/9/53):
     "เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล" บิ๊ก ไทยโพลีคอนส์ เตรียมผุดโครงการธุรกิจพลังงานไฟฟ้าหนุนบริษัทมีความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ระบุปลายเดือนนี้จ่อเซ็นสัญญาโครงการภาครัฐมูลค่า 500 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/2553 สดใสต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2553 ที่มีกำไร 17 ล้านบาท ครึ่งปีหลังคาดกวาดรายได้ 1.3 ล้านบาท ปักธงเป้ารายได้ทั้งปีที่ 2 พันล้านบาท
TTAระวังตกเรือ!Q4กำไร300ล้านRCLดีสุดรอบ2ปี (ข่าวหุ้น 24/9/53):
     หาจังหวะดักเก็บหุ้นเรือก่อนลุยไฮซีซั่นตั้งแต่ช่วงเดือนต.ค. วงการเงินชี้ไตรมาส 4 TTA มีลุ้นโชว์กำไร 300 ล้านบาท หลังเตรียมบันทึกกำไรพิเศษจากขายเรือ และขายหน่วยลงทุน ขณะที่ RCL มีสิทธิลุ้นโชว์พลิกกำไรรอบ 8 ไตรมาส ขานรับความต้องการใช้เรือขนส่งคอนเทนเนอร์พุ่งทะลัก
แบงก์ทหารไทยโดน3จีพ่นพิษ (ข่าวหุ้น 24/9/53):
     บิ๊กทหารไทยเซ็งแผนปล่อยกู้ 3 จีชะงัก สินเชื่อหมื่นล้านกลุ่มสื่อสารฝันสลาย  ส่งผลยอดสินเชื่อรายใหญ่ 9 เดือนแรกวูบเหลือแค่ 5% จากเป้า 10%  กัดฟันดันสินเชื่อโรงไฟฟ้า 3 แห่งเข้าป้ายแทนเริ่มทยอยเบิกจ่ายตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/53 ไปจนถึงไตรมาส 4/53
ซีฟโก้กำไรQ3แตะ30ล้านบาทโชว์ครึ่งปีหลัง53พลิกเป็นกำไร (ข่าวหุ้น 24/9/53):
     SEAFCO กำไรไตรมาส 3 ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนแนวโน้มครึ่งหลังปี' 53 พลิกกลับมามีกำไร จากที่ขาดทุนในครึ่งปีแรก โบรกฯคาดปี'54 กำไรจะเติบโตก้าวกระโดด ตามปริมาณงานโครงการภาครัฐที่เข้ามา
ศุกร์ 24 ก.ย.--แนวโน้มตลาดรายวัน..Market on The Moves :
ที่มา : บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ตลาดหุ้นไทยวานนี้  " ขายทำกำไร และทิ้งหุ้น 3G   "
     ดัชนีตลาดหุ้นปิดที่ 947.10 จุด สูงขึ้น 2.10 จุด หรือ 0.2% ด้วยปริมาณการซื้อขาย 4.73 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2.07  พันล้านบาท การประกาศยืนคำตัดสินของศาลปกครองกลางในคดี 3G และการขายทำกำไร เนื่องจากกังวลเรื่องมาตรการค่าเงินบาท ส่งผลให้ดัชนีฯปรับตัวลดลงจากที่ขึ้นไประดับสูงสุดที่ 957.2 จุด (new high ต่อเนื่อง ทุบสถิติ 3 ปีที่แล้วที่ 924 จุด)
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
     * เศรษฐกิจโลกและตลาดหุ้นต่างประเทศ - รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาผสมผสานทั้งบวกและลบ (ตัวเลขเคลมว่างงานสูงขึ้น แต่ยอดขายบ้านมือสองและดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจออกมาดี) ทำให้นักลงทุนหันไปสนใจเรื่องผลประกอบการของภาคธนาคารที่จะชะลอตัวลงมากกว่า ภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯจึงไปในทางลบ และยังลากเอาดัชนีตลาดหุ้นยุโรปตามลงไปด้วย ตลาดหุ้นฝั่งตะวันตกจะยังไม่ดีนัก ราคาทองคำและราคาพันธบัตรยังเดินหน้าต่อ เป็นสัญญาณว่านักลงทุนยังคงลดความเสี่ยงในตลาดหุ้น วันนี้ ตลาดหุ้นเอเชีย (ยกเว้นจีน) จะเปิดทำการอีกครั้ง ความคึกคักของตลาดหุ้นเอเชียจะสูงขึ้น แต่คาดว่าน่าจะไปในทางลบมากกว่า เพราะอิทธิพลของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ยังมีเหนือตลาดหุ้นในย่านนี้ (บางตลาด)อยู่
     * ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ - ราคาน้ำมันดิบ WTI NOV-2010) ล่าสุดอยู่ที่ $74 เหรียญ/บาร์เรล เรายังไม่มั่นใจในทิศทางของราคาน้ำมันในช่วงสั้นๆ ว่าจะลงไปที่ $72 เหรียญอีกหรือไม่ วันนี้ หุ้นกลุ่มที่อิงราคาน้ำมัน ถ้าไม่ได้มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เรามองไปในทางลบ ด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เรายังมองในทางลบอยู่เล็กน้อย หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้านี้
     * การเมืองและเศรษฐกิจ - ข่าวลบของหุ้น 3G ยังน่าจะกดดันหุ้นที่เกี่ยวข้องของกลุ่มนี้อยู่ต่อไป ขณะที่ความกังวลเรื่องมาตรการเงินบาท หลังถูกกดันจากผู้ส่งออก อาจทำให้นักลงทุนมีความไม่แน่ใจ และขายทำกำไรออกมาในช่วงนี้ ปัจจัยในประเทศวันนี้ จึงต้องดูท่าทีของนักลงทุนต่างประเทศว่าจะทำอย่างไร ?
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้   " ขึ้นอยู่กับความกังวลมาตรการเงินบาท "
     ดัชนีฯ รอบนี้ขึ้นมาเพราะ Fund Flow วันนี้อาจต้องมาดูว่านักลงทุนต่างประเทศจะมีการขายทำกำไรหรือไม่ ปัจจัยเรื่องมาตรการค่าเงินบาทนั้นมีผลค่อนข้างมากในวันนี้ นอกจากนี้แรงขายหุ้น 3G ถ้ายังมีอยู่อาจกดดันตลาดหุ้นอีกทางหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุน   "  รอทำตามฝรั่ง  "
     เรายังแนะนำให้ทยอยขายหุ้นที่ขึ้นมามาก และเปลี่ยนตัวเล่นไปยังหุ้นที่ขึ้นน้อยกว่า หรือถือเงินสดเพื่อรอจังหวะซื้อครั้งใหม่ วันนี้คงต้องรอดูว่า ถ้านักลงทุนต่างประเทศมีการขายมากกว่าซื้อ นักลงทุนควรรอให้แรงขายซาลงก่อน อย่างไรก็ตาม หากเกิดในฝั่งตรงข้ามคือหุ้นขึ้นต่อ ตัวหลักๆ ของตลาด ยังเป็นตัวที่สามารถเก็งกำไรได้ แต่ขอเป็นการ trading แบบให้จบในวันไว้ก่อน
     --มงคล  พ่วงเภตรา
        นักวิเคราะห์
ศุกร์ 24 ก.ย.--MORNING CALL ACTION NOTES :
ที่มา : บล.โกลเบล็ก

แนวโน้มตลาดวันนี้
        วานนี้ตลาดหุ้นไทยยังไปต่อ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 947.10  จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด (+0.22%) มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นมากที่ 4.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอีก 2.1 พันล้านบาทแนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 930-949**(957)  นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องยังคงสัญญาณบวกต่อหุ้นขนาดใหญ่หากมีการปรับตัวลงมา ติดตามการหารือรอบสอง ธปท.และสมาคมธนาคารไทยเกี่ยวกับการลดค่าธรรมเนียมฯ คาดอาจมีการยืดเยื้อและเป็นผลดีต่อกลุ่มธนาคาร หากดัชนีขึ้นแรงแนวต้าน 949-957 อาจไม่ผ่าน S50U10 แท่งเทียนขาวปิดสูงขึ้น ค่า Volume และ Indicators เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณบวกสอดคล้องกัน คาดการณ์ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อ แนวต้านที่ 656 แนวรับ 648 (S50U10 หมดอายุสิ้นเดือนกันยายน) SET50 ดัชนีปิดเป็นแท่งเทียนขาวขึ้นเปิด GAP Indicators และ Volume เพิ่มขึ้นสอดคล้องกัน คาดดัชนีปรับตัวขึ้นต่อระหว่างวันอาจลดลงปิด GAP แนวต้านที่ 656 แนวรับที่ 643 Gold Future GFV10 เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 18,800-18,890 GFZ10 เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 18,850-18,940        กลยุทธ์ ที่บริเวณแนวต้าน 949-957 ยังมีโอกาสที่จะถูกขายทำกำไรระยะสั้น ในขณะที่ระยะกลางลดการลงทุนลงบางส่วนหรือปรับมาเล่นรอบมากขึ้น (ยกเว้นกลุ่มพลังงาน) กลุ่มสื่อสารมีแนวโน้มปรับตัวลงผันผวนแนะนำซื้อเก็งกำไรสำหรับTRUE ตามแนวรับขั้นบันได 3.96 / 3.80 แนวต้าน 4.40 / 4.60 ADVANCปรับตัวซื้อถือหรือซื้อเพิ่ม DTACคาดผลประกอบการดีต่อเนื่อง หุ้นรายหลักทรัพย์ TCAP MK สำหรับหุ้นเก็งกำไรทางเทคนิคดูรายละเอียดใน Short-Term Trade เช่น LALIN KKC หรือเลือกใน Stocks in Trend นักลงทุนระยะกลาง ถือ(แนวต้านเป้าหมายแรก 949) ปรับตัวลงแรงซื้อกลุ่มสื่อสาร กลุ่มพลังงาน
        ดัชนี SET ดัชนีปิดเป็นแท่งเทียนโดจิดำราคาปิดสูงขึ้นเล็กน้อย ปริมาณการซื้อขายและ Indicators เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณขัดแย้งทางเทคนิคเล็กน้อย คาดการณ์ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อแต่เริ่มอ่อนแรงลง กรอบแนวต้านที่ 957 แนวรับที่ 940 ซื้อเก็งกำไรแนวรับ 940 ถือเพื่อรอขาย
        ดัชนีนิกเกอิ การปรับตัวมีแนวรับสำคัญ 9,500 การปรับตัวยืนเหนือได้เป็นผลมาจากการคาดหวังว่าทางการจะเข้าแทรกแซงค่าเงินเยนหากมีการแข็งค่าขึ้น ตลอดจนการเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจหากมีความจำเป็น การปรับตัวต่ำกว่าลงมาจะเป็นการปรับลงรอบใหม่ที่แนวรับ 9,300
        ดัชนีฮั่งเส็ง ระยะสั้นอาจมีการปรับตัวหากไม่สามารถยืน 22,000 ซึ่งเกิดจากสัญญาณทางเทคนิคที่ระดับดัชนีขึ้นมาอยู่ในเขตซื้อมาก โดยแนวโน้มจะเป็นการปรับตัวลงทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ยที่เป็นขาขึ้น 21,800 / 21,500  ทั้งนี้คาดหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่ได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงหยุดวันชาติจีน
        --(Analyst - ธวัชชัย  tawatchai@globlex.co.th)

        หุ้นแนะนำพิเศษ : SCC (ราคาปิด 334 แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 360) คาดผลประกอบการปี 53 กลับมาเพิ่มขึ้นราว 12.5% YoY จากแนวโน้มยอดขายปูนซีเมนต์ที่เติบโตจากปีก่อน ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีและกระดาษจะได้ประโยชน์จากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้น สำหรับแนวโน้มผลประกอบการระยะยาวคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างโดดเด่นอย่างต่อเนื่องในปี 54-55 โดยจะเริ่มเห็นผลบวกจากกำลังการผลิตใหม่อย่างเต็มที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากธุรกิจปิโตรเคมีที่จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว
        --(Analyst -วิลาสินี  wilasinee@globlex.co.th)

Stocks in trend
        SSI (ราคาปิด 1.82 แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 2.08) คาดแนวโน้มผลประกอบการ 4Q53 จะกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง จากแนวโน้มราคาเหล็กที่กลับมาฟื้นตัวและความต้องการที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่ระยะยาวคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเข้าซื้อโรงถลุงเหล็กที่ประเทศอังกฤษ ทั้งในด้านของการวางแผนการผลิตและสต็อกสินค้าได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น รวมทั้งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรในอนาคตเพิ่มมากขึ้น
        RCL (ราคาปิด 16.70 แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 18) คาดผลประกอบการ 3Q53 จะเริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ หลังขาดทุน 8 ไตรมาสติดต่อกัน เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ความต้องการใช้เรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้น ด้านดัชนีค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ HRCI ปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงสิ้นปี 52 แล้วมากกว่า 100%
        TICON (ราคาปิด 14 แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 14.75) ผู้บริหาร TICON คาดผลประกอบการ 3Q53 จะออกมาดีจากแนวโน้มการเช่าโรงงาน และคลังสินค้า ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คาดผลประกอบการใน 4Q53 เติบโตอย่างโดดเด่นเนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรจากการขายโรงงานหลังจากหักส่วนที่ TICON ลงทุนใน TFUND 32.39% แล้วประมาณ 345 ล้านบาท
        SITHAI (ราคาปิด 10.40 แนะนำ ซื้อเก็งกำไร) ผู้บริหาร SITHAI คาดผลประกอบการปี 53 จะมีกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ในช่วง 1H53 จะยังขาดทุนสุทธิ 98 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก และในช่วงสิ้นปี บริษัทจะมีการบันทึกกำไรจากการชดเชยจากประกันภัยเหตุเพลิงใหม่ประมาณกว่า 300 ล้านบาท
        --(Analyst - อำนาจ  amnart@globlex.co.th)

ปัจจัยบวก
        + สหรัฐรายงานดัชนีบ่งชี้เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนสงค. เพิ่มขึ้น 7.6% แตะ 4.13 ล้านหน่วย จากระดับ 3.84 ล้านหน่วยในเดือนก.ค. ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนก.ค.
        + 5 มาตรการที่ก.คลังอนุมัติเพื่อชะลอค่าเงินบาทแข็งไม่ใช่ยาแรงเท่ากับมาตรการสำรอง 30% ที่เคยประกาศใช้เมื่อ 19 ธ.ค. 49 ทั้งนี้ 5 มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย 1. ผ่อนคลายให้นิติบุคคลลงทุนหรือให้กู้ยืมแก่กิจการในเครือได้ไม่จำกัดจำนวน 2. อนุญาตให้นิติบุคคลให้กู้ยืมแก่กิจการที่ไม่ใช่กิจการในเครือได้เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกินปีละ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ 3. เพิ่มวงเงินที่บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลในประเทศประสงค์จะโอนเงินไปซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนหรือที่พักอาศัยจากไม่เกิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อรายต่อปี เป็นไม่เกิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อรายต่อปี 4. เพื่อความคล่องตัวในการซื้อเงินตราตปท.และฝากไว้กับสถาบันการเงินในประเทศในบัญชีเงินฝากเงินตราตปท. จึงผ่อนคลายให้ในกรณีที่ไม่มีภาระผูกพัน ให้มียอดคงค้างในบัญชีไม่เกิน 500,000 เหรียญสหรัฐ 5. ขยายวงเงินค่าสินค้าส่งออกที่ไม่ต้องนำเงินเข้าประเทศจาก 20,000 เหรียญสหรัฐ เป็น 50,000 เหรียญสหรัฐ
        + นายกฯ ไปร่วมโรดโชว์กับตลาดหลักทรัพย์ฯ และ โกลด์แมน แซคส์ที่เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริการะหว่าง 23-24 ก.ย.ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันในการลงทุนในไทย
        + ใกล้สิ้นสุดงวดระยะเวลาบัญชีไตรมาส 3 ในวันที่ 30 ก.ย. 53 ซึ่งอาจมีประเด็นการทำ Window dressing
ปัจจัยลบ
        - ตลาดแรงงานของสหรัฐยังตึงตัวจากการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 12,000 รายสู่ระดับ 465,000 รายสวนทางกับที่คาดว่าจะทรงตัวที่ 450,000 ราย
        - กลุ่มประเทศยุโรปรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โดยรวมทั้งภาคผลิตและภาคบริการลดลงสู่ระดับ 53.8 จุดในเดือนก.ย.จากระดับ 56.2 จุดในเดือนส.ค.สวนทางกับที่คาดว่าจะปรับขึ้นเป็น 55.7 จุด
        - สหภาพยุโรปรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ร่วงลงแตะระดับ -11.8 จุด จากระดับ -11.2 จุดในเดือนส.ค. ดัชนีที่ลดลงต่อเนื่องและเป็นตัวเลขติดลบสะท้อนถึงความไม่มั่นใจในเศรษฐกิจ
        - ผอ.อาวุโสฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจในประเทศ ธปท.เปิดเผยว่า กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ยุติการประมูล 3G อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ
        - เสถียรภาพของรัฐบาลยังไม่แน่นอนจากจากการตัดสินคดียุบ/ไม่ยุบพรรคปชป. ความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาล การออกกม.นิรโทษกรรม  ทั้งปี 5 ต.ค. ครบกำหนดการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ยังประกาศใช้ในพื้นที่ 7 จังหวัด โดยมีแนวโน้มว่าจะยกเลิกการประกาศใช้ใน 3 จังหวัดได้แก่ นครราชสีมา อุดร ขอนแก่น
ปัจจัยที่ต้องจับตา
        * 22-26 ก.ย. เป็นช่วงเวลาของการประชุมสหประชาชาติ ซึ่งนายกฯอภิสิทธิ์ จะเดินทางไปร่วมประชุมด้วย
        * 24 ก.ย. สหรัฐจะรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.
        * 24-25 ก.ย. มูดี้ส์ฯมีกำหนดเดินทางเข้ามาเก็บข้อมูลเศรษฐกิจประเทศไทยเพื่อทบทวนอันดับเครดิตปัจจุบันที่ Baa1
        --(Analyst - วิลาสินี  wilasinee@globlex.co.th)

Wall Street
        Wall Street : ดาวโจนส์ลดลง 76.89 จุด หลังตัวเลขการว่างงานเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย
        ดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 76.89 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในยุโรป หลังจากมีรายงานว่าดัชนีกิจกรรมภาคธุรกิจในกลุ่มยูโรโซนยังอ่อนตัวลง โดยจำนวนผู้ว่างงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 465,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 450,000 ราย ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 76.89 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 10,662.42 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 9.45 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 1,124.83 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 7.47 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 2,327.08 จุด
ราคาน้ำมัน : NYMEX เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หลังมีข่าวเกิดพายุในอ่าวเม็กซิโก
        ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ โดยตลาดได้แรงหนุนจากข่าวการเกิดพายุดีเปรสชั่นในอ่าวเม็กซิโก ทั้งนี้ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุหลายลูกที่ก่อตัวขึ้นทางตอนใต้ของอ่าวเม็กซิโกมีแนวโน้มที่จะทวีกำลังขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่น ซึ่งรายงานดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของการผลิตน้ำมันทั้งหมดของสหรัฐอาจจะหยุดชะงักและอาจจะทำให้เกิดภาวะซัพพลายตึงตัว  ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ปิดที่ 75.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดล่วงหน้ากรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 78.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
        --(Analyst - อาทิตย์  artit@globlex.co.th)
ศุกร์ 24 ก.ย.--NEWS & EVENTS :
ที่มา : บล.เกียรตินาคิน

ประเด็นข่าวที่น่าสนใจ
     DOW JONES ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี หลังจากตัวเลขที่อ่อนแอในตลาดแรงงานของสหรัฐกดดันดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐให้ร่วงผ่านระดับสำคัญทางเทคนิค และตอกย้ำความกังวลที่ว่าการไต่ขึ้นของตลาดหุ้นในช่วงก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่ไม่มีความมั่นคง ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 76.89 จุด หรือ 0.72% สู่ 10,662.42 โดยมีปริมาณการซื้อขายประมาณ  7.21 พันล้านหุ้น
(ที่มา:รอยเตอร์ วันที่ 23   กันยายน  2553)

     SITHAI บมจ. ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ มั่นใจบริษัทฯ จะทำยอดขายในปี 2553 มากกว่า 5.7 พันล้านบาท เนื่องจากยอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯจะมุ่งเน้นการเติบโตยอดขายสายธุรกิจหลัก ทั้งผลิตภัณฑ์พลาสติกเพื่องานอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารและแพ็คเกจจิ้ง  บรรจุภัณฑ์แก้วน้ำตามร้านสะดวกซื้อ ถังป๊อบคอร์น แก้วน้ำตามโรงภาพยนตร์  ณะที่บรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม ได้แก่ ฝาและขวด PET นั้น อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องเป่าขวด โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ภายในไตรมาส 4/2553 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนเพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง ประมาณ 250 ล้านบาท โดยจะขยายการผลิตไปยังประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นการซื้อที่ดิน 10-15 ไร่ และยังขยายกำลังการผลิตให้เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับความต้องการในสินค้าที่เพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันบริษัทฯ ยังมีออเดอร์ที่ค้างอยู่ประมาณ 3 เดือน โดยผลิตสินค้าไม่ทันตามออเดอร์ที่สั่ง โดยบริษัทฯ จะจัดหาเครื่องอัดเมลามีนเพิ่มเติม และขยายสายการผลิตบางส่วนจากโรงงานโคราช มาไว้ที่โรงงานสุขสวัสดิ์ กรุงเทพฯ เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งจะขยายกำลังการผลิตของโรงงานในเวียดนามและไปสู่บริษัทในเครือ
(ที่มา:โพสต์ทูเดย์ วันที่ 23  กันยายน  2553)

     NNCL บมจ.นวนคร เผย  บริษัทฯ คงได้รับปัจจัยบวกจากกรณีที่ บริษัทโตชิบา สตอเรจ ดีไวส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก ที่เตรียมขยายการลงทุนเพิ่ม โดยการตั้งโรงงานในเขตอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี  หลังจากได้รับอนุมัติจากบีโอไอ ให้ขยายการผลิตในไทยได้ แต่จะได้รับประโยชน์มากน้อยเพียงใด ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะต้องรอความชัดเจนจากบริษัทดังกล่าวก่อน สำหรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2553 บริษัทฯ อาจพิจารณาปรับขึ้นจากเดิมคาดจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่ทำได้ 565.28 ล้านบาท เพราะปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหญ่จำนวนหลายราย ซึ่งหากประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ คงผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน ส่วนจุดเด่นของบริษัทฯ ที่ลูกค้าเลือกเข้ามาตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ทั้งใน จ.ปทุมธานี และ จ.นครราชสีมา เพราะใกล้กับแหล่งแรงงาน ประกอบกับมีสาธารณูปโภคที่สมบูรณ์ เพียบพร้อม รองรับการลงทุนในอนาคตได้
(ที่มา:ข่าวหุ้น วันที่ 23  กันยายน  2553)

     ADVANC บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส  เผย ภายหลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นให้คุ้มครองการระงับประมูลใบอนุญาต 3.9G ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมรแห่งชาติหรือกทช.แล้ว ขณะนี้ได้เรียกผู้บริหารบริษัทฯเข้ามาหารือทันทีเพื่อกำหนดแนวทางว่าบริษัทฯจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยเบื้องต้น ยอมรับคำตัดสินของศาลฯ เพราะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้คงจะต้องรอความชัดเจนจากการประชุมของกทช.ว่าจะมีแนวทางใดให้เอกชนดำเนินการต่อ อย่างไรก็ตาม การให้บริการนัมเบอร์พอร์ทยังคงดำเนินการต่อไป โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.53 เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีเสริม ซึ่งไม่ได้กระทบกับคำสั่งศาลฯแต่อย่างใด
(ที่มา:โพสต์ทูเดย์ วันที่ 23  กันยายน  2553)
    
     SMIT บมจ.สหมิตรเครื่องกล เผย มั่นใจว่าผลประกอบการช่วงQ3/53 จะมีกำไรสุทธิดีกว่าไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 33.82 ล้านบาท เนื่องจาก ธุรกิจมีแนวโน้มเติมโตในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันสินค้าประเภทวัสดุเหล็กแข็งสำหรับงานแม่พิมพ์ รวมถึงเครื่องมือและวัสดุสำหรับงานเครื่องจักรกลโรงงาน ซึ่งสินค้าที่อยู่ในกลุ่มเหล็กเป็นหลัก มีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากจนถึงขั้นทำการผลิตไม่ทัน ดังนั้น คาดว่า รายได้ของบริษัทฯในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 1,433.53 ล้านบาท  ทั้งนี้ จากแนวโน้มธุรกิจของบริษัทฯ ที่เติบโตต่อเนื่องทำให้ บริษัทฯมีแผน ลงทุนขยายโรงงานและซื้อเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังการผลิต คาดว่าจะใช้งบประมาณเกือบ 50 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะมีความชัดเจนและสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2554           
(ที่มา:ข่าวหุ้น วันที่ 23  กันยายน  2553)

     ROJNA บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ เผย ปัจจุบันบริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างเจรจาขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะผืนใหญ่ ให้กับลูกค้าจำนวน 300 ไร่ โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะมีความชัดเจนว่าจะขายที่ดินดังกล่าวได้หรือไม่ สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3/2553 มีโอกาสออกมาในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากที่ผ่านมา เพราะได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนดีขึ้น ดังนั้นในปีนี้จึงคาดว่ารายได้ของบริษัทฯ มีโอกาสแตะ 6,899 ล้านบาท และการขายที่ดินคงเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ประมาณ 400-500 ไร่ สำหรับสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจขายน้ำ ธุรกิจขายไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน และธุรกิจผลิตสุรากลั่นประเภทวิสกี้ บรั่นดี สุราขาว และสุราแช่ เป็นต้น
(ที่มา:ข่าวหุ้น วันที่ 23  กันยายน  2553)

     SABINA  บมจ. ซาบีน่า เผย ในปีนี้บริษัทน่าจะมีรายได้ตามเป้าหมายที่ 2,100 ล้านบาท หรือเติบโต 25% จากปีก่อน เนื่องจากแนวโน้มรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังจากมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักเพิ่มขึ้น จนน่าจะทำให้อัตราการทำกำไรในปีนี้มากกว่า 4%ทั้งนี้ บริษัทยังเน้นลงทุนเพิ่มเติมในด้านการขยายจุดขาย และการทำกิจกรรมเพิ่มขึ้น โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 20 สาขาจากปัจจุบันมีอยู่ 13 สาขา ที่พระราม 2 และมาบุญครอง เป็นต้น โดยงบลงทุนที่ใช้ในการขยายสาขาอยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านบาทต่อสาขา
(ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 23  กันยายน  2553)

     STAR บมจ. สตาร์ ซานิทารีแวร์ เผย ในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทฯ เตรียมส่งสินค้าสุขภัณฑ์รุ่นใหม่ประมาณ 10 รุ่น ลงจัดจำหน่ายพร้อมกันทั้งตลาด ในประเทศ และส่งออกสู่ต่างประเทศ โดยวางตำแหน่งเป็นสินค้าระดับกลางบน ที่เป็นสินค้ามาตรฐานโลกแต่ราคายุติธรรม ในขณะที่การส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ สินค้ารุ่นใหม่นี้บริษัทฯ สามารถกำหนดราคาขายให้สูงขึ้นได้ ทำให้สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปจากการแข็งค่าของเงินบาทได้เป็นอย่างดี
(ที่มา:ทันหุ้น วันที่ 23  กันยายน  2553)

     PTTAR บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น เผย การลงนามในสัญญากู้เงินกับสถาบันการเงิน ในวงเงินรวม 2.83 หมื่นล้านบาท เพื่อชำระคืนเงินกู้เดิมและจัดโครงสร้างเงินกู้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินอีก 4 ฉบับ ในระหว่างวันที่ 13-14 ก.ย. โดยมีวงเงินกู้ระยะยาวและเงินกู้ชนิด Revolving รวมทั้งสิ้น 1.84หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ที่เป็นสกุลเงินเหรียญสหรัฐ 6.4 พันล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี และสกุลเงินบาท 1.2 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 8-10 ปี ทั้งนี้บริษัทมีวัตถุประสงค์ ในการชำระคืนเงินกู้เดิม และจัดโครงสร้างเงินกู้ของบริษัท ให้มีความเหมาะสมกับลักษณะการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ของบริษัท
(ที่มา:ทันหุ้น วันที่ 23  กันยายน  2553)
ศุกร์ 24 ก.ย.--Daily Direction :
ที่มา : บล.บีฟิท

Market Attitude
ปัจจัยภายนอกเป็นลบแต่เงินทุนไหลเข้ายังช่วยตลาด

        ปัจจัยในประเทศก็ชัดเจนสำหรับเรื่อง 3จี ที่ตัองระงับการประมูลไป หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งตามศาลปกครองกลาง ยังคงต้องหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มนี้ไปก่อนสักระยะ โดยหากมีการดันให้กสท.และทศท.เดินหน้าเรื่อง 3จี หุ้นกลุ่มที่ให้บริการด้านคอนเทนส์ต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับกสท.และทศท.จะได้อานิสงค์ สำหรับประเด็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ธปท. ก็ให้ข้อมูลถี่หน่อยในช่วงนี้ เพราะเป็นประเด็นที่มีอิทธิพลต่อการลงทุนมากสุด แต่โดยรวมก็ยังรักษาท่าทีอยู่ ไม่ดำเนินมาตรการที่จะกระทบตลาด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติก็ยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ผลักดันหุ้นขนาดใหญ่ สำหรับปัจจัยภายนอกวันนี้ หุ้นสหรัฐร่วงลง หลังตัวเลขด้านแรงงานออกมาไม่ดีนัก จากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 12,000 ราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.ของสหรัฐก็พุ่งขึ้นจากระดับที่ต่ำ ภาพโดยรวมตอนนี้นักลงทุนสหรัฐยังไม่ค่อยมีเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจนัก ทำให้ตลาดยังผันผวน แนวโน้มตลาดหุ้นไทย หลังจากที่ขึ้นมาต่อเนื่องในช่วงต้นสัปดาห์ ก็เผชิญการขายทำกำไรบ้าง แต่เงินทุนไหลเข้าจะยังช่วยพยุงทิศทางตลาดได้อยู่ ในทางเทคนิค ตราบใดที่ยังไม่หลุด 941-945 ก็ยังมีลุ้นขึ้นต่อ
กลยุทธ์การลงทุน
        * ระยะกลาง : ถือต่อ ... (จุดถอยอยู่ที่ 920 จุด)
        * ระยะสั้น : ลุ้นต่อ-เก็งกำไรต่อ ... (ห้ามหลุด 937 จุด)
Market Viewpoint
        ตลาดหุ้นสหรัฐ  ดาวโจนส์ -76.89 จุด หรือ -0.72% ปิดที่ 10,662.42 ปิดร่วงลงหลังจากตัวเลขที่อ่อนแอในตลาดแรงงานของสหรัฐกดดันดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐให้ร่วงผ่านระดับสำคัญทางเทคนิคและตอกย้ำความกังวลที่ว่าการไต่ขึ้นของตลาดหุ้นในช่วงก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่ไม่มีความมั่นคง
        น้ำมันดิบ  NYMEX +0.47 ดอลลาร์ หรือ +0.62% ปิดที่ 75.18 ดอลลาร์/บาร์เรล รับแรงหนุนจากข่าวเรื่องการปิดเครื่องผลิตน้ำมันบางเครื่องในโรงกลั่นน้ำมันสำคัญแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ โดยทั้งราคาน้ำมันและตลาดหุ้นสหรัฐต่างก็แกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน ในขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ไร้ทิศทาง
        สหรัฐ - เฟด จะยังคงมุ่งความสนใจไปที่ความแข็งแกร่งของอุปสงค์เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าเฟดควรผ่อนคลายนโยบายการเงินอีกครั้งหรือไม่
        ดอกเบี้ย - ธปท. เผยอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ ยังอยู่ในระดับต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับอัตราเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งหากปล่อยให้อยู่ในระดับต่ำนานเกินไป จะสร้างความไม่สมดุลต่อระบบการเงิน
        3G - ศาลปกครองสูงสุดสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง ให้กทช.ระงับประมูลใบอนุญาต 3G / ไอซีที จะขอให้กมธ.ร่วม เร่งพิจารณาร่างแก้ไขกม.กสทช.ภายใน 2 สัปดาห์ / เร่งทีโอที-กสท ทำ 3G ต่อ
        ตลาดหลักทรัพย์ - ก.ล.ต.เผย ตลท. จะเข้มงวดการสร้างราคาหุ้น จากการส่งคำสั่งซื้อขายทางอินเตอร์เน็ต
        PTTAR - กู้เงิน 2.83 หมื่นล้านบาท เพื่อชำระคืนเงินกู้เดิมและจัดโครงสร้างเงินกู้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ
ศุกร์ 24 ก.ย.--Market Talks :
ที่มา : บมจ.หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส

กลยุทธ์การลงทุน
     ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่หนุน ยกเว้น Fund Flow แต่อย่างไรก็ตามให้ติดตามค่าเงินบาท และค่าเงินเอเซีย นับจากนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เพราะธนาคารกลางในเอเซีย เริ่มเข้ามาแทรกแซง จึงแนะนำให้ถือหุ้นเพียง 30% ของพอร์ตเช่นเดิม โดยให้มีการปรับพอร์ตสมผสานพอร์ตระหว่างหุ้น Domestic Plays (BLA, CK, ITD BTS, SPALI, AP, LPN, TCAP, BBL, SCB) และ Global Plays BANPU, PTTCH, PTTAR
ประเทศไทยคงต้อง.....กับการใช้ 2G ไปก่อน....3G นะต้องรอไปถึงปี 2555 คงไม่สายเกินไปนะครับ
     วานนี้ ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำสั่งให้ยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง กล่าวคือให้ระงับการประมูล 3G ออกไปก่อน และให้รอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผลให้การประมูล 3.9G เป็นอันต้องยุติลง ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะออกมาใกล้เคียงกับช่วงเวลาของการพิจารณาผ่าน พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ที่คาดว่าจะเสร็จราวสิ้นปี 2553 และหลังจากนั้นจึงจะสามารถทำการสรรหาคณะกรรมกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. เพื่อดำเนินการออกใบอนุญาต 3G แทนหน่วยงาน กทช. ขบวนการต่าง ๆ เหล่านี้น่าจะเสร็จสิ้น พร้อมกับสามารถเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ได้ราวต้นปี 2555 หรือต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 18 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้อยู่ภายใต้สมมุติฐานว่าการเมืองยังมีเสถียรภาพ แต่หากปัญหาการเมืองสะดุด ทำให้การพิจารณา พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ดังกล่าวต้องเลื่อนไป ขั้นตอนต่าง ๆ รวมถึงการเปิดประมูล 3G ก็อาจต้องเลื่อนไปด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ธุรกิจสื่อสารของไทย ยังต้องพึ่งพิงเฉพาะธุรกิจ 2G ซึ่งการเติบโตจะยากลำบากมาก เพราะนอกจากฐานสมาชิกอิ่มตัวแล้ว การให้บริการส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปในเรื่องของการโทรเข้า-โทรออก (Voice) เป็นหลัก ซึ่งทำให้รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (APRU) มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง การขยับไปสู่ธุรกิจ 3G เป็นช่วงทางในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการเพิ่มการให้บริการต่อยอดจากธุรกิจเดิม โดยมุ่งในการให้บริการที่เร็วขึ้น (Non-Voice) เช่น การให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และการส่งภาพ เป็นต้น หุ้นสื่อสารจึงไม่น่าสนใจในระยะสั้น โดยหากนักลงทุนต้องการจะมีหุ้นสื่อสารไว้ในพอร์ตจริงๆ แนะนำ ADVANC(FV@B104) เพราะเป็นบริษัทที่มีกระแสเงินสดสูงที่สุด และพร้อมจะจ่ายเงินปันผลพิเศษต่อไปอีก 1 ปี ตราบที่ 3G ยังเกิดขึ้น ทั้งนี้ในปี 2553 คาดว่า ADVANC จะจ่ายเงินปันผลราว 6.30 บาทต่อหุ้น (Dividend Yield ราว 7% ต่อปี) โดยยังไม่นับรวมเงินปันผลพิเศษที่อาจเกิดขึ้นอีกราวหุ้นละ 5 บาท ทั้งนี้ ADVANC ได้จ่ายเงินปันผลในงวด 6M53 แล้ว 3 บาทต่อหุ้น ดังนั้นในช่วงที่เหลือของปี 2553 จะจ่ายอีกราว 8.30 บาทต่อหุ้น
เงินบาทแข็งค่า ยังหนุน SET แต่นับจากนี้ต้องจับตาดูค่าเงินบาทจะ U-Turn หรือไม่ 
     วานนี้นับเป็นวันที่ 4 ที่นักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยในปริมาณที่สูงต่อเนื่อง โดยทำให้ยอดซื้อสะสมจากต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 2.9 หมื่นลานบาท (แต่หากนับจากวันที่ 23 ก.ค. เป็นต้นมา ซึ่งเป็นการเข้ามาซื้อหนักในรอบนี้ พบว่ามียอดซื้อสุทธิเข้ามาแล้ว 4.74 หมื่นล้านบาท) เช่นเดียวกับตลาดตราสารหนี้ ที่พบว่านักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่อง แต่ยอดซื้อสะสมจากต้นปีจนถึงวานนี้สูงมากถึง 1.78 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 85% ของเงินทุนไหลเข้าประเทศไทย โดยทั้ง 2 ตลาดรวมราว 2.1 แสนล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ ใกล้เคียงกับตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพันที่สูงราว 2.1 แสนล้านบาทในช่วงเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เงินทุนที่ไหลเข้าเฉพาะในตลาดการเงินกว่า 2 แสนล้านบาทข้างต้น ถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทนับจากนี้ เพราะหากพิจารณาเงินทุนไหลเข้าในตลาดตราสารหนี้จำนวนเกือบ 1.8 แสนล้านบาทดังกล่าว พบว่าราว 48% เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นมีอายุไม่เกิน 1 ปี  รองลงมาราว 23% เป็นตราสารหนี้ที่มีอยู่ 1-3 ปี  10.5% เป็นตราสารหนี้อายุ 3-5 ปี  15% เป็นตราสารหนี้อายุ 5-10 ปี และอีก 4% เป็นตราสารหนี้ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี หรือกล่าวโดยสรุป ตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุในช่วง 1-3 ปี มีสัดส่วนสูงถึง 60% ของเงินทุนไหลเข้าในตลาดตราหนี้ ดังนั้นหาก ธปท.  ต้องการสกัดกั้นเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นในตลาดตราสารหนี้ น่าจะเริ่มจากตราสารหนี้ที่มีอายุ 1-3 ปี มากที่สุด  หลังจากนี้ ต้องติดตามค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด เพราะค่าเงินบาท และค่าเงินเอเซีย ที่ผ่านมาแข็งค่าอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องมายาวนาน การดำเนินการใด ๆ ของธนาคารกลางในเอเซีย เพื่อแทรกแซง อาจจะกดดันให้ค่าเงินบาท และค่าเงินเอเซีย เริ่มทรงตัวหรือกลับมาอ่อนตัวครั้ง ซึ่งอาจจะถือเป็นการกลับตัวของตลาดการเงินรอบสำคัญ
ศุกร์ 24 ก.ย.--ไทยรัฐ :
สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ปตท.เคราะห์ซ้ำกรรมซัด "ชัยวุฒิ" ยื้อออกใบอนุญาตโรงแยกก๊าซแห่งที่ 6
    ปตท.งานเข้าอีกแล้วหลังบอบช้ำจากกรณีคาร์ฟูร์ งานนี้โรงแยกก๊าซแห่งที่ 6 โดนเต็มๆ เหตุ "ชัยวุฒิ" เบรกหัวทิ่มไม่ออกใบอนุญาตให้เปิดกิจการได้ แม้ว่าปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมยืนยันว่าสมควรได้ใบอนุญาตแล้วก็ตาม

วงการค้าข้าวฉาวโฉ่แอบขายแบบลับ ๆ ผู้ส่งออกโวย "บิ๊กพาณิชย์" โทรศัพท์ข่มขู่
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า หลังจากที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และวงการค้าข้าว ออกมาให้ข่าวแสดงความเห็นถึงการเปิดขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่ดำนินการโดยกระทรวงพาณิชย์ ไม่โปรงใสดำเนินการอย่างไม่เปิดเผย ล่าสุดยังขายข้าวลอตใหญ่เกือบ 2 ล้านตันให้บริษัท เอ็มที เซ็นเตอร์เทรด จำกัด ผู้ส่งรายเล็กเพียงรายเดียว และมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับนักการเมืองใหญ่พรรคภูมิใจไทยนั้นส่งผลให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ไม่พอใจสมาคมและผู้ส่งออกถึงขนาดโทรศัพท์ตำหนิ และข่มขู่ว่าอาจจะขึ้นบัญชีดำ และไม่พิจารณาให้เข้าร่วมโครงการต่างๆ เกี่ยวกับการค้าข้าวของกระทรวงพาณิชย์ในอนาคต ซึ่งถือว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสม และสร้างความกระอักกระอ่วนใจให้วงการค้าข้าวอย่างมาก

ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญช่วยพลิกกลับ ศาลปกครองสูงสุดย้ำเบรก 3จี กทช.ขอโทษคนไทยทำไม่สำเร็จ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น โดยสั่งให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ระงับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ IMT คลื่นความถี่ย่าน 2.1  กิกกะเฮิรตซ์ (GHz) และการดำเนินการตามประกาศ กทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 ไว้เป็นการชั่วคราวจนคดีจะถึงที่สุดหรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

เจ้าสัวซีพีฟันธงค่าเงินหลุด 30 บาท
    นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) เปิดเผยในงานสัมมนาสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงทิศทางเศรษฐกิจโลก และสร้างกลยุทธ์เพื่อรับการแข่งขันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย ว่าปลายปีนี้มีโอกาสค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นหลุด 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ เพราะยังมีเงินลงทุนไหลเข้ามาต่อเนื่อง และธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ควรเข้าไปต่อสู้กับค่าเงินบาท เพราะคงหยุดยั้งไม่ได้หากฝืนอาจหมดตัวแน่นอน แต่จำเป็นต้องแทรกแซงบางจังหวะเพื่อช่วยเอกชนปรับตัว ทั้งนี้รัฐบาลควรส่งเสริมให้เอกชนไปลงทุนต่างประเทศหรือซื้อเครื่องจักรเข้ามา และตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นเฉพาะเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจไทยไปลงทุนในต่างประเทศเพราะตอนนี้ไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศกว่า 100,000 ล้านเหรียญฯ ควรนำไปลงทุนให้เกิดประโยชฯ์ เช่น พัฒนาระบบชลประทาน ระบบขนส่ง และรัฐต้องดูแลธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินให้อยู่รอดได้ "ในอาเซียนต่างประเทศมองไทยดีที่สุด แต่การเมืองเราไม่ดี ถ้าการเมืองเราดี เงินบาทอาจจะแข็งค่ามากกว่านี้"

เป๊ปซี่คุยข่ม "แชมป์บอลโลก" ตัวจริง
    นายปริญญา เพิ่มพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการขาย บริษัท เสริมสุขจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคในด้านของแบรนด์สินค้าที่อยู่ในใจผู้บริโภคช่วงของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าเครื่องดื่มเป๊ปซี่คงครองความเป็นที่ 1 ด้วยสัดส่วน 44% จากจำนวนแบรนด์ที่ทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกกว่า10%  สำหรับในไทย บริษัทได้ทำกิจกรรมทางการตลาดในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกภายใต้งบประมาณ 60 ล้านบาท ช่วยให้มียอดขายในช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.) เติบโตมากกว่า 10% สูงกว่าเป้าเดิมที่วางไว้เพียง 5-6% เท่านั้น

ประกาศลั่นยึดตลาดทั่วโลก กลุ่มทุนไทยผงาดซื้อแบรนด์น้ำส้ม "ไบเล่"
    บิ๊กไบเล่ลั่นปีนี้พร้อมปลุกเครื่องดื่ม "ไบเล่" กลับมาผงาดอีกครั้ง หลังทุ่มซื้อกิจการบริษัทแม่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ลุยทั่วโลกเอง ตั้งเป้ายอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี

มะกันปวกเปียกดันทองกระฉูด เสี่ยจิตติยันยังไงก็ไม่ถึง 2 หมื่น
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ราคาทองวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า หลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน    ขณะที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะของสหรัฐอเมริกา ได้หนุนความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย โดยราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 1,292.95 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ขยับขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดสปอตนิวยอร์กเมื่อวันก่อน  หลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์วานนี้ที่ 1,296.1 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

ปปง.คุมเข้มฟอกเงินตลาดหุ้น ผนึก ก.ล.ต.ตัดท่อน้ำเลี้ยงขบวนการก่อการร้าย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาลเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความตกลง ว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการกำกับดูแลสถาบันการเงินเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย--จบ--

ศุกร์ 24 ก.ย.--เดลินิวส์ :
สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ตั้งศูนย์ปรึกษาร้านอาหาร
    นายชุมพร สุขประสงค์ผล ที่ปรึกษาฝ่ายต่างประเทศและพัฒนาธุรกิจ สมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า (เอฟทีเอ) ขึ้น เพื่อให้คำปรึกษากับผู้ประกอบการร้านอาหารในระบบที่ต้องการปรับตัว รองรับการแข่งขันในตลาดโลก ทั้งด้านทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม อุปกรณ์ในร้านอาหารและรูปแบบร้านอาหารที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ที่คิดจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจร้านอาหาร ได้เตรียมตัวรับกับการแข่งขันในยุคปัจจุบันที่รุนแรงขึ้น โดยสมาคมฯ ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเอฟทีเอ จัดทำตัวอย่างรูปแบบร้านอาหารต้นแบบขึ้นมาทั้งหมด 19 รูปแบบ ไว้เป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการที่เข้ามารับคำปรึกษา นำไปประยุกต์ใช้ในการเปิดร้านอาหารของตัวเอง เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนผู้ประกอบการด้านการออกแบบร้านอาหารด้วย โดยผู้สนใจสอบถามได้ที่ 0-2938-0696 หรือ tra_ass@hotmail.com

เล็งมาตรการป้องกันปั่นหุ้น เอ็มโอยูปปง.สร้างระบบ
    นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยภายหลังการประชุม ร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (สมาคมโบรกเกอร์) ประจำไตรมาส 3/53 ว่า ได้กำชับให้สมาคมโบรกเกอร์ กำหนดแนวทางปฏิบัติของ บล. เพื่อป้องกันบุคลากรให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนการสร้างราคา ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมทบทวนและปรับปรุงมาตรการดูแลป้องปรามการสร้างราคาหลักทรัพย์จากการส่งคำสั่ง ซื้อขายทางอินเทอร์เน็ตด้วย

ธปท.ยันดูแลบาทยึดสมดุล
    นายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยถึงข้อเสนอของนักเศรษฐศาสตร์บางกลุ่มซึ่งต้องการเห็นอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเพื่อลดแรงกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนว่า การดำเนินนโยบายดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนนั้น สิ่งสำคัญสุด คือการสร้างความสมดุลระหว่างผู้ที่ได้ประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ ซึ่งการทำนโยบายดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนมีทั้งผลบวกและลบ ยกตัวอย่างเช่น หากใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ ผู้รับประโยชน์มากที่สุดคือ กลุ่มผู้ประกอบการหรือผู้ประกอบธุรกิจต่าง ๆ ขณะเดียวกันผู้ออมเงินก็เป็นผู้เสียประโยชน์ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นความท้าทายในการหาความสมดุลระหว่างผู้เสียประโยชน์และผู้รับประโยชน์

'แบรนด์' ดึง 'นิชคุณ' พรีเซ็นเตอร์คนใหม่
    น.ส.ลักษณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซุปไก่สกัดภายใต้ แบรนด์ เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4 นี้บริษัทได้ทุ่มงบการตลาด 100 ล้านบาท เพื่อรุกตลาดซุปไก่สกัดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการดึงนักร้องดัง คุณ-นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องเกาหลีวง 2พีเอ็มจากประเทศเกาหลี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่กับนักร้องไทย โต๋-ศักดิ์สิทธิ เวชสุภาพร ในแคมเปญ "ไม่หยุดสร้างสรรค์กับแบรนด์ซุปไก่สกัดทุกวัน" ซึ่งการดึงนิชคุณ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะต้องการตอกย้ำภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ เชื่อมั่นว่าจะช่วยขยายตลาดแบรนด์ไปในเอเชียได้มากขึ้น

เป๊ปซี่โวยอดขาย 8 เดือนโต 10%
    นายปริญญา เพิ่มพานิช ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการขาย บริษัทเสริมสุข จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม เป๊ปซี่ มิรินด้า เซเว่น อัพ เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทในช่วง 8 เดือน แรกที่ผ่านมา เติบโตกว่า 10% สูงสุดในรอบ 5 ปี และสูงเกินเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากได้รับผลดีจากแคมเปญการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประชาชนคนไทยให้ความสนใจดูฟุตบอลสูงสุดและให้ความรู้สึกเชียร์เหมือนญาติของตนเองลงแข่งขัน ทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตได้ดีประกอบกับสภาพอากาศในไทยที่ร้อนมากขึ้น และยาวนานติดต่อกันหลายเดือน โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่ยอดขายของบริษัทจะเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น

ปลายปีบาทแข็งทะลุ 30 บาท ธปท.ปล่อยตามกลไก ชี้เงินนอกจ่อทะลักเข้า
    นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยในงานสัมมนาสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยปรับอัตราแลกเปลี่ยนแปลงทิศทางเศรษฐกิจโลกและสร้างกลยุทธ์เพื่อรับการแข่งขันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียว่า ปลายปีนี้มีโอกาสค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์หสรัฐ เนื่องจากยังมีเงินลงทุนไหลเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ควรเข้าไปต่อสู้กับการแข่งค่าเงินบาท เพราะคงหยุดยั้งไม่ได้และหากฝืนอาจหมดตัวแน่เนื่องจากมีเงินทุนไหลเข้ามาก แต่มีความจำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงบ้างบางจังหวะ

ยูนิเวอร์เซลเข้าบริหาร ฟรีโซนมูลค่า 4 พันล้าน
    นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดทอท.ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติให้ ทอท.ว่าจ้างกิจกรรมร่วมค้า ยูนิเวอร์เซล เอวีเอชั่นเซอร์วิสเซส เป็นผู้บริหาร และจัดการด้านการขนส่งสินค้าภายในเขตปลอดอากรภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ฟรีโซน) วงเงิน 4,740 ล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี ซึ่งปรับลดจากสัญญาที่ ทอท. ยกเลิกบริษัทไทยแอร์พอร์ต กราวด์ เซอร์วิส (แทกส์) ระยะเวลา 10 ปี วงเงินว่าจ้าง 7,000 กว่าล้านบาท เป็นการปรับลดวงเงินค่าจ้างขั้นสูงสุด และจะพิจารณาความสามารถของเอกชนในการหารายได้ให้กับทอท.มีการจ่ายส่วนแบ่งรายได้เพิ่มตามผลงาน --จบ--
ศุกร์ 24 ก.ย.--กรุงเทพธุรกิจ :
สรุปข่าวหุ้น การเงิน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

'ซาบีน่า'คงเป้ารายได้ปีนี้2.1พันล.อัตราส่วนกำไรสุทธิปีนี้มากกว่า4% ผู้บริหารมั่นใจครึ่งหลังดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะมีออเดอร์ OEM จากยุโรปเพิ่มเข้ามา
    "ซาบีน่า" คงเป้ารายได้ทั้งปีที่ 2,100 ล้านบาทหรือเติบโตจากปีก่อน 25% พร้อมระบุรายได้ครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากการขายสินค้าแบรนด์ซาบีน่าเติบโตขึ้นและปลายปีได้งานรับจ้างผลิต(OEM) สินค้า ส่งให้กับยุโรปซึ่งมีมาร์จินสูงกลับเข้ามาหลังจากก่อนหน้าหันไปสั่งซื้อจากจีน

ทีเฟ็กซ์รุกโปรโมทฟิวเจอร์ส'ดัชนี50'ลดค่าต๋งถึงสิ้นปี53
    ตลาดอนุพันธ์เดินหน้าโปรโมท SET50INDEX Futures เพื่อขยายฐานผู้ลงทุน จัดโปรแกรมเสริมความรู้และแนวคิดด้านกลยุทธ์การซื้อขาย พร้อมเปิดตัวโปรโมชั่นส่งท้ายปี ลดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 3 เดือนแก่สมาชิกเริ่ม 1 ต.ค.ถึงสิ้นปีนี้

สมโพธิ์เจแปนวางแผน4ปีเบี้ยรับพันล.
    นายยูจิ คาวาอูชิ ประธานกรรมการบริหารบริษัท สมโพธิ์เจแปนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า บริษัท ยังให้น้ำหนักการลงทุนในไทยต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจของไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่องเห็นได้จากการส่งออกของไทยเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ประกันภัยทางทะเลของบริษัทเติบโตดีไปด้วย ซึ่งบริษัทได้วางแผนปี 2557 จะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท--จบ--

ศุกร์ 24 ก.ย.--กรุงเทพธุรกิจ :
สรุปข่าวเศรษฐกิจ การเงิน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

แบงก์คาดปีหน้าเงินนอกลงทุนเพิ่มดันบาทแข็งค่าต่อ
    แบงก์รับอานิสงส์ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากภูมิภาคเข้ามาเพิ่มขึ้นในปีหน้าโดยเฉพาะญี่ปุ่นที่มีแผนลงทุนในอุตฯ ยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ส่งผลเงินบาทแข็งค่าได้อีกในปีหน้า แนะรัฐกำหนดยุทธศาสตร์ประเทศให้ชัดช่วยแก้ปัญหาเงินบาทในระยะยาว

ก.ล.ต.เข้ม4มาตรการคุมปั่นหุ้น จำกัดพร็อพเทรด75%ของส่วนผู้ถือหุ้น ป้องกันปั่นหุ้นผ่านอินเทอร์เน็ตวางเกณฑ์เข้มมาร์เก็ตติ้ง-ผู้บริหาร บล.ร่วมหนุนลูกค้าปั่นหุ้นดีเดีย์ 1 ม.ค.54
    ก.ล.ต.เข้มจับมือสมาคม บล.คลอด 4 มาตรการคุมบุคลากร-ระบบซื้อขายป้องกันการปั่นหุ้นทั้งทางตรวจและอินเทอร์เน็ต หลังตลาดคึกคักพร้อมกำหนดพร็อพเทรดต่อวันไม่เกิน 75% ของส่วนผู้ถือหุ้นบริษัท เริ่มใช้ 1 ม.ค.2554 เผยลงบันทึกความร่วมมือกับปปง.คุมสถาบันการเงิน ระบุสถาบันลงทุนต่างประเทศ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้น'ทรู'อ่วมสุดรับประมูล3จีล่มลุ้นดีแทค-แอดวานซ์ปันผลพิเศษ
    หุ้นมือถือปรับตัวลงแรงสวนภาพรวมตลาดโดยเฉพาะทรูอ่วมสุด ดิ่งฮวบ 178% เหตุนักลงทุนตื่นผลผสมข่าวถูกฟอร์ซเซลหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยุติการประมูลใบอนุญาต 3จี โบรกเกอร์ประเมินประมูลจะเปิดได้อีกครั้งครึ่งหลังปี 54 แนะซื้อหุ้นแอดวานซ์และดีแทค อาจจ่ายปันผลพิเศษได้ทั้งคู่เพราะยังไม่มีการลงทุนปีนี้และฐานะการเงินแข็งแกร่ง ด้านตลาดยังไม่พบผิดปกติซื้อขายหุ้นสื่อสาร

ศรีไทยฯมั่นใจกำไรปีนี้โตเท่าตัวนำเข้า-ขึ้นราคาชดเชยบาทแข็ง
    ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ลุ้นกำไรโตกว่าปีที่แล้วเท่าตัว อานิสงส์ชดเชยประกันไฟไหม้เผยบาทแข็งไม่กระเทือนหลังเร่งนำเข้าเครื่องจักรช่วงบาทแข็ง และทำประกันล่วงหน้าในส่วนต่างระหว่างนำเข้า-ส่งออก ระบุรับมือบาทแข็งตั้งแต่ต้นปีโดยขยับราคาขายทุกๆความเคลื่อนไหวบาท 5-10%--จบ--

ศุกร์ 24 ก.ย.--กรุงเทพธุรกิจ :
สรุปข่าวธุรกิจการตลาด หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

'ทีโอเอ'เทคโอเวอร์สีกัปตันตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์3ใน5ปี
    "ทีโอเอ"สยายปีกขยายกิจการเข้าบริหารสีกัปตัน เพิ่มความแข็งแกร่ง มั่นใจดันยอดขาย2,000 ล้าน ตั้งเป้าขึ้นสู่แบรนด์อันดับ 3 ภายใน 5 ปี

ไอ.ซี.ซี.เปิด'บีเอสซีดีไอวาย'เจาะนักธุรกิจ
    ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์ฯ เปิดบริการใหม่ "บีเอสซีอีเอ็กซ์ ดีไอวาย เมดทูออเดอร์" หวังสร้างมูลค่าเพิ่มแนวใหม่ กลุ่มเสื้อผ้าชาย ดึง ข้อมูลผู้บริโภค-สมาชิกฮีสแอนด์เฮอร์ 1.3 ล้านราย เจาะกลุ่มธุรกิจในเมือง ประเดิมแห่งแรก สยามพารากอน คาด ดันรายได้เพิ่ม 20%

โลว์ผุดแบรนด์ใหม่'โอเพ่น'รุกธุรกิจสื่อโฆษณาค้าปลีก
    โลว์เอเยนซีผุดธุรกิจใหม่แบรนด์ "โอเพ่น"ดูแลการทำสื่อโฆษณาและกำหนดกลยุทธ์กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
    นายโทนี่ เพรห์น ประธานบริหาร โลว์ ประเทศไทย สำนักเอเยนซีโฆษณา เปิดเผยว่ากลุ่มบริษัทโวล์แอนด์พาร์ทเนอร์ ได้ขยายธุรกิจใหม่ในชื่อ"โอเพ่น" (OPEN) เพื่อให้บริการด้านสร้างสื่อโฆษณาที่ช่วยโน้มน้าวและกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าในธุรกิจค้าปลีก เป็นการฟอร์มธุรกิจขึ้นมาใหม่จากหน่วยงานด้านอีเวนท์ มาร์เก็ตติ้งและโปรโมชั่นของโลว์ เอเยนซี ในขณะที่โลว์ เอเยนซีก็ยังคงอยู่แต่ยกระดับเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์และผลิตสื่อโฆษณาสร้างสรรค์

เป๊ปซี่โยกงบ'เอเอฟ'ลุยมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ต่อยอดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี เผยช่วงบอลโลกยอดพุ่ง 10%
    เป๊ปซี่โยกงบ เอเอฟ ลุยแคมเปญส่งท้ายปีปูพรม 80 ล้านบาท ผนึกพันธมิตร ลุย มิวสิคมาร์เก็ตติ้งบิ๊กเมาท์เทน เขาใหญ่ดันรายได้ หลังปิดแคมเปญบอลโลกยอดเติบโตสูงสุดรอบ 5 ปี--จบ--
ศุกร์ 24 ก.ย.--โพสต์ทูเดย์ :
สรุปข่าวหุ้น-ตลาดทุน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

เงินลงทุน ตปท.หด ขอกลต.น้อยลงภาวะไม่จูงใจ วางกฎดูแลพอร์ตบล.ชัดแจ๋ว
    ก.ล.ต.เผยปีนี้คำขอนำเงินไปลงทุน ตปท.น้อยลงเหตุหุ้นไทยดีขึ้น ส่วนต่างดอกเบี้ยใน-นอกแคบไม่จูงใจ เตรียมแผนตั้งรับ ธปท.ออกมาตรการสกัดค่าเงิน
    กระทรวงการคลังได้อนุมัติ 5 มาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอเพื่อลดแรงกดดันอัตราแลกเปลี่ยน โดยทุกมาตรการจะช่วยผ่อนคลายให้นิติบุคคลสามารถไปลงทุนต่างประเทศได้ง่ายขึ้น

SITHAI ฝ่าเงินบาทแข็งฉลุย ซื้อเครื่องจักร-ขึ้นราคาสินค้า เบี้ยประกันดันกำไรพุ่งเท่าตัว
    SITHAI ชี้ค่าบาทแข็งไม่กระเทือนบริษัท หักกลบต้นทุนวัตถุดิบ-ส่งออก เหลือ 1 ล้านเหรียญสหรัฐป้องกันความเสี่ยงหมด ขึ้นราคาตามความผันผวน 5-10%
    นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ (SITHAI) เปิดเผยว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่ามากนัก เพราะได้ตกลงกับลูกค้าไว้ว่า หากผันผวนไม่ว่าจะปรับขึ้นหรือลดลง 5-10% ของราคาเฉลี่ยที่เคยซื้อขายสินค้ากัน บริษัทสามารถปรับราคาขึ้นหรือลงได้ตามข้อตกลงเป็นรายกรณี

3 หุ้นมือถือหัวทิ่ม 3จี รอเกิดอีกยาว รายย่อยซื้อ "ทรูฯ"
    หุ้นสื่อสารคอหักตามคาด เก็งประมูล 3จี ค้างเติ่งอีกนาน TRUE รูดแรง ไม่สนเจ้าสัวธนินท์ ออกมายืนยันปีนี้มีกำไร ลุ้น ADVANC ปันผลพิเศษ 4.70 บาท
    นักลงทุนพร้อมใจกันทิ้งหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ตั้งแต่เปิดตลาด ที่ระดับราคา 4.56 บาท แม้พยายามผงกขึ้นไปแถว 4.66 บาทแต่ไปไม่รอด ระหว่างหลุด 4 บาท ไปที่ 3.96 บาท ก่อนดีดกลับมาปิดที่ 4.10 บาท ลดลง 0.84 บาท หรือ 17% ตามด้วยบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) ปิด 90.75 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 1.09% บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC)ปิด 39.25 บา ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.26%

ซีมิโก้ชูจ่าย 1.7% เน้นหุ้นกู้-ตั๋วเงิน
    บลจ.ซีมิโก้ คลอดกองทุนลงทุนหุ้นกู้และตั๋วแลกเงิน 4 เดือน ผลตอบแทน 1.7% ต่อปี
    รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีมิโก้ แจ้งว่า บริษัทเปิดขายกองทุนเปิดซีมิโก้ตราสารหนี้ 4 M7 โดยให้โอกาสผู้ลงทุนได้ตัดสินใจลงทุนต่อหรือไถ่ถอนได้ทุก ๆ ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ทั้งนี้ กองทุนมีอายุโครงการประมาณ 12 เดือน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาทลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท

อยุธยามองหุ้นถึงรอบแรลลี เงินนอกเข้าทะลักหนุน 1 พันจุด ฟิลลิปเชียร์ทองสัญญาณขึ้นต่อ
    บลจ.อยุธยา มองหุ้นแรลลีครั้งใหญ่ สิ้นปีเห็น 1,000-1,050 จุด หลังเงินต่างชาติไหลกลับ "ฟิลลิป"เชียร์ทองคำ มองขึ้นต่อ
    นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)อยุธยา เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่กลับมาเข้าสู่ขาขึ้นในช่วงนี้น่าจะการปรับขึ้นครั้งใหญ่ และทำให้ดัชนีสามารถเข้าไปใกล้ 1,000 จุดได้ในเร็วๆ นี้ และมีโอกาสปรับขึ้นไปถึง 1,000-1,050 จุด ได้ภายในสิ้นปีนี้--จบ--

ศุกร์ 24 ก.ย.--โพสต์ทูเดย์ :
สรุปข่าวการเงิน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

ลุยธนาคารที่ดินอุ้มคนจน สศค.เร่งเปิดประชาพิจารณ์ ขอซื้อจาก บสท.ก่อนปิดบัญชี
    สศค.เตรียมทำประชาพิจารณ์ภาษีที่ดินปลายเดือน ก.ย.นี้
    นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.เตรียมจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในช่วงปลายเดือนก.ย.นี้ ในประเด็นการจัดตั้งธนาคารที่ดิน โดยนำที่ดินจำนวนหนึ่งไว้ให้คนจนได้เช่าทำกิน โดยกำหนดให้ผู้เช่าห้ามเปลี่ยนมือ

เอเปกหวั่นเศรษฐกิจโลกหัวทิ่มยาว
    ไอเอ็มเอฟแจงกลางวงประชุมเอเปก เศรษฐกิจโลกชะลอถึงต้นปี 2554
    นายนริศ ชัยสูตร รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ในการประชุมระดับปลัดกระทรวงการคลังเอเปก เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2553 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รายงานว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีทิศทางจะชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 และอาจจะต่อเนื่องถึงครึ่งแรกของปี 2554 เนื่องจากยังมีความเสี่ยงด้านฐานะการคลังของประเทศต่างๆ และความอ่อนแอในการกำกับดูแลภาคการเงินบางประเทศ

อะโรเมติกส์กู้เงิน 5 แบงก์ เฉียดหมื่นล.
    5 ธนาคารจับมือปล่อยกู้ ปตท.อะโรเมติกส์ยาว 10 ปี
    นางนิธิมา เทพวนังกูร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินและบัญชีองค์กร บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2553 บริษัทได้ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินระยะยาว อายุ 10 ปี จำนวนเงิน 9,898 ล้านบาท กับธนาคาร 5แห่ง ประกอบด้วยธนาคารกรุงไทย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารทหารไทย--จบ--

ศุกร์ 24 ก.ย.--โพสต์ทูเดย์ :
สรุปข่าวธุรกิจ หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

บิ๊กอสังหาฯ ท้าชนคอนโด 1 ล. แสนสิริส่งอีก 2 โครงการลุย เพอร์เฟคปูพรม 3 ทำเลรวด
    คอนโด 1-2 ล้านระอุ แสนสิริส่ง dcondo ลุยอีก 2 โครงการ เพอร์เฟคเปิด I condo ปูพรม3 ทำเล
    นายสุริยะ วรรณบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการและการตลาด บริษัท แสนสิริเปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ dcondo รามคำแหง และ dcondo รามอินทรา รวมทั้งสิ้น 1,939 ยูนิต มูลค่าการขายประมาณ 2,720 ล้านบาท

สตาร์เปิดเกม ส่งสินค้าใหม่ ดันยอดท้ายปี
    สตาร์ส่งสุขภัณฑ์ใหม่ลงตลาดปลายปี 10 รุ่นรวด มั่นใจดันยอดขายเข้าเป้า
    นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการ และกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทา รีแวร์ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์สตาร์ เปิดเผยว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปีบริษัทเตรียมส่งสุขภัณฑ์ใหม่ 10 รุ่นจำหน่ายพร้อมกันทั้งตลาดในประเทศและส่งออกต่างประเทศโดยวางตำแหน่งเป็นสินค้าในกลุ่มกลางถึงบน

ดัมพ์ราคาดึงคนไทยเที่ยวในประเทศ
    สทน.ดันเที่ยวเมืองไทยสบายกระเป๋า หวังเป็นสัญลักษณ์ดึงเที่ยวในประเทศ ชี้สัญญาณเดินทางฟื้น 60%
    น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ในฐานะผู้จัดงานเที่ยวเมืองไทย สบายกระเป๋า ครั้งที่ 2 เปิดเผยว่า สทน.ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดงานเที่ยวเมืองไทย สบายกระเป๋า ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 23-26 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อตอกย้ำชื่องานเป็นสัญลักษณ์การซื้อขายแพ็กเกจทัวร์เฉพาะเส้นทางในประเทศปลุกกระแสคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทัวร์ โรงแรมที่พักกลุ่มขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มีรายได้หมุนเวียนทางธุรกิจ

มหกรรมบ้านแจกสะบัดปั้นขายส่งท้ายปี
    มั่นใจอสังหา เริ่มฟื้น ผู้ประกอบการอสังหาฯ แห่อัดโปรโมชันเพียบ เร่งกระตุ้นยอดผ่านงานมหกรรมบ้านและคอนโด
    นายกวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ รองเลขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรและประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 23 เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เริ่มมั่นใจมากขึ้นกับการทำกิจกรรมการตลาดในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะเห็นว่าหลายรายพยายามจัดโปรโมชันเพื่อส่งเสริมการขาย เพื่อต้องการดันยอดขายให้เข้าเป้าที่วางไว้--จบ--

ศุกร์ 24 ก.ย.--โพสต์ทูเดย์ :
สรุปข่าวการตลาด หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

ร้อนนานดันน้ำอัดลมฉลุย เป๊ปซี่โตสองหลักมากสุดใน 5 ปี ชี้ปัญหาราคาน้ำตาลแพงเริ่มนิ่ง
    เป๊ปซี่ ตีปีกยอดขายปีนี้โตกว่า 10% สูงสุดในรอบ 5 ปี ยืนยันยังเป็นผู้นำตลาดยากที่คู่แข่งใหม่และเก่าจะโค่น
    นายปริญญา เพิ่มพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการขาย บริษัท เสริมสุข ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม เป๊ปซี่ มิรินด้า เซเว่น อัพ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา เติบโตมากกว่า 10% ซึ่งนับเป็นอัตราการเติบโตทางด้านยอดขายที่สูงสุดในรอบ 5 ปี จากปกติที่บริษัทจะมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวและเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ อันเป็นผลมาจากแคมเปญการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่บริษัทเปิดตัวไปเมื่อช่วงไตรมาส 2 ประกอบสภาพอากาศของประเทศไทยที่ร้อนเร็ว ร้อนนานและแม้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วอากาศก็ยังร้อนอย่างต่อเนื่อง

ซาบีน่าเปลี่ยนเกมรุกอาเซียน ตั้งตัวแทนขาย
    ซาบีน่าปรับแผนตลาดอาเซียน หันหาตัวแทนจำหน่าย แทนแผนร่วมทุน หลังดิวมาเลเซีย บรูไน 2 ปีไม่คืบ
    นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า เปิดเผยถึงความคืบหน้าการรุกตลาดอาเซียนว่า บริษัทจะปรับแผนการทำตลาดเน้นหาตัวแทนจำหน่ายในตลาดสำคัญ เช่น สิงคโปร์ พม่ากัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย แม้ว่าจะสนใจที่จะเข้าไปลงทุนเองในลักษณะหาผู้ร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นมากกว่า แต่มีหลายปัจจัยที่ทำให้การเจรจาหาผู้ร่วมทุนไม่เป็นไปตามที่ต้องการ

ไอซีซี.ลั่นปีหน้าจะโตถึง 30% ชูร้านฮีสแอนด์เฮอร์ลุยตจว. ตั้งออฟฟิศประเทศในอาเซียน
    ไอ.ซี.ซี. หวังปีหน้าโต 30% จากปีนี้ 1.2 หมื่นล้าน รุกขยายตลาดอาเซียน เล็งตั้งออฟฟิศในประเทศเป้าหมาย
    นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ในเครือสหพัฒนพิบูล เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปีหน้า ไอ.ซี.ซี.ตั้งเป้ารายได้โตถึง 30% จากปีนี้ที่คาดว่าจะโต 15% หรือมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท

ทีโอเอควบกัปตัน จ่อกินรวบตลาดสี
    "บรรเจิด ตั้งคารวคุณ" เปิดทางสี ทีโอเอ เข้าบริหารกัปตัน เสริมแกร่งจ่อกินรวบตลาดสี
    นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายกิจการโดยการเข้าบริหาร บริษัท สีกัปตัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2553 ที่ผ่านมาโดยจะเข้ามาบริหารจัดการและดูแลกิจการของสีกัปตันทั้งหมด ทั้งการวางแผนกลุยทธ์ด้านการตลาดการจำหน่าย รวมไปถึงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของตัวแทนจำหน่าย

เทอร์มาพลาสท์เร่งขยายลูกค้า
    เบตเตอร์ดรีมส์ บุกตลาดแผ่นประคบร้อน เทอร์มาพลาสท์ เร่งขยายฐานกลุ่มผู้ใช้สู่พนักงานออฟฟิศ-ผู้สูงอายุ
    น.ส.สุวิตา แจ้งอยู่ ผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท เบตเตอร์ดรีมส์ เปิดเผยว่า ได้นำเข้าแผ่นประคบร้อน แบรนด์เทอร์มาพลาสท์ แผ่นประคบร้อนจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยนานกว่า 4 ปี ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลุกค้า ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะขยายฐานกลุ่มผู้ใช้ไปยังกลุ่มพนักงานบริษัทและผู้สูงอายุ โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 10 ล้านบาท หรือเติบโต 100% จากปีก่อน--จบ--
ศุกร์ 24 ก.ย.--ทันหุ้น :
สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ทันหุ้น

ฝรั่งขนเงินเล่นหุ้นพลังงานPTTEPเคลียร์มอนทาราจบต.ค.
    ฝรั่งโยกเงินเล่นหุ้นไทย หนุนหุ้นพลังงานคึก จับตา PTTEP ลุ้นรัฐบาลออสเตรเลียประกาศการประเมินค่าความเสียหายแหล่งมอนทาราเดือนตุลาคมส่วนปัญหากับอินโดนีเซียรอรัฐบาลเจรจา พร้อมคาดปลายปีนี้สรุปดีลซื้อกิจการ 1 โครงการปีนี้ เทคนิคขาขึ้น แนะ "ซื้อเก็งกำไร" แนวรับ 145 บาทแนวต้าน 149 บาท

'SSI'แรงหวังยึดหัวหาดยุโรปบินตรงอังกฤษรุกธุรกิจเหล็ก
    SSI นอนกินบุญเก่า แหล่งข่าววงในแย้มทีมผู้บริหารติดปีกบินตรงอังกฤษศึกษาดูงานบริษัทย่อยลั่นงานนี้มีโอกาสสยายปีกธุรกิจต่อเนื่อง จับตาไตรมาส 4 อาจมีเซอร์ไพรซ์อีกระลอกหลังซุ่มลงทุนฟากยุโรปไม่หยุด หย่อน ขณะที่ผลงาน Q3 ยังโตต่อเนื่อง อานิสงส์ค่าบาทฉุดต้นทุนวัตถุดิบลดฮวบ โบรกชี้ฟื้นฐานไปได้สวย แนะ "ซื้อ" เป้าปี 2554 สูงลิ่ว 2.40 บาท

AOTระรื่นโดยสารก.ย.พุ่ง6%ติดเครื่องลุยสุวรรณภูมิเฟส2
    บิ๊ก AOT "เสรีรัตน์ ประสุตานนท์" ลั่นผู้โดยสารกระเตื้อง ล่าสุดกันยายนพุ่งแล้ว 6% จากปีก่อนอานิสงส์ก้าวเข้าไฮซีซัน คาดเดือนหน้าฝรั่งแห่เข้าไทยเพียบหนุนผลงานก้าวกระโดดอุบไต๋ผลงานไตรมาส4 เชื่อทั้งปีกำไรเหินเวหาจากหลังครึ่งปีกำไรบาน 2.5 พันล้านบาท แย้มเร่งหาที่ปรึกษาลุยสุวรรณภูมิเฟส มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาทด่วนจี๋

ร้ายกลายเป็นดีระงับประมูล3จีสะสม'ADVANC'ปันผลพิเศษ
    ศาลปกครองสูงสุดยึดคำพิจารณาศาลปกครองกลางระงับประมูล 3G ฟาก กทช.ประชุมด่วนตั้งกรรมการเยียวยาและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการระงับเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ทันที ส่วนเอกชนรับชะตากรรมวอนรัฐเร่งหาทางออก เพราะเสียโอกาสในการพัฒนามามากแล้ว ส่วนโบรกประเมินราคาร่วงฉวยโอกาสสะสมหุ้น ADVANC ลุ้นปันผลพิเศษ เป้า 105 บาท

'GFPT'โซ้ยยอดขายพุงปลิ้นดีดลูกคิดกำไรQ3แตะ320ล.
    GFPT พุงปลิ้นไตรมาส 3/2553 ยอดขายทะลัก 5-8% จาก Q2/2553 รับไฮซีซันธุรกิจไก่แปรรูปส่งออก ยิ้มร่ารับรู้ 2 บริษัทร่วมทุนหลังจ่อเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ใน Q4/2553 นี้ผู้บริหารมั่นใจทั้งปียอดขายโตตามนัด 5-10% นักวิเคราะห์ดีดลูกคิด Q3/2553 รับกำไรเต็มอิ่ม 12% แตะ 320 ล้านบาทฟันธงบาทแข็งไม่ระคายผิว แนะ "ซื้อ" เป้าหมาย 10.90 บาท

SITHAIลั่นผลงานโตเท่าตัวลุยแพ็กเกจจิ้งดันมาร์จิ้นพุ่ง
    บิ๊ก SITHAI ลั่นไกปีนี้กำไรโตเท่าตัวหลังธุรกิจพลาสติก-เมลามีนสดใส ออเดอร์จ่อคิวยาวเหยียดแถมท้ายปีบันทึกกำไรจากเมืองไทยประกันภัยอีก 300 ล้านบาทหนุนกำไรปีนี้โตสุดเหวียง การันตียอดขายเข้าเป้าที่ 5.7 พันล้านสมใจ ส่วนมาร์จิ้นเริ่มขยับเป็น 21% ปีนี้ หลังธุรกิจพลาสติกแพ็กเกจจิ้ง-มาร์จิ้นสูงลิ่ว

PTTARเซ็นสัญญาเงินกู้2.8หมื่นล.รีไฟแนนซ์หนี้-เงินทุนหมุนเวียน
    PTTAR เซ็นสัญญาเงินกู้ระยะยาว 10 ปี รวม 2.82 หมื่นล้านบาท ผู้บริหาร"ชายน้อย เผื่อนโกสุม" เผยดึงเงินรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจเพิ่มความครองตัวในการขยายธุรกิจ

SCCCกำไรโต-ปันผลเด่น
    SCCC ร้อนรับโครงการนำความร้อนเหลือทิ้งมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า 25 เมกะวัตต์ ที่เดินเครื่องเต็มรูปแบบในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าปีนี้ได้ถึง 400-500 ล้านบาท และปีหน้าอีก 640 ล้านบาท หนุนกำไรพุ่งขึ้น 38% เป็น 4,195 ล้านบาท เอื้อปันผลงาม คาดปีหน้าจ่ายที่14-15 บาทต่อหุ้น แนะ "ซื้อ" เป้าหมาย 275 บาท

SAMTELซึมงานหดเหลือ4.5พันล.รับTOTเลื่อนประมูลโครงการ3จี
    SAMTEL เหงื่อตก งาน TOT แว่วเลื่อนประมูลเป็นไตรมาส 4/2553 หรือต้นไตรมาส 1/2554 เหตุอยู่ระหว่างพิจารณาของบอร์ด TOT และ ครม.ฉุดเป้าประมูลงานครึ่งปีหลังหดเหลือ 4.5 พันล้านบาท จาก 5 พันล้านบาท แต่ครึ่งปีแรกตุนงานในมือไว้ถึง 4.4 พันบาทล้าน ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2555 แนะ "ซื้อ" 11.50 บาท

SCBเทรดคึกคักวอลุ่มทะลักโบรกมองมีลุ้นนิวไฮ133บาท
    SCB วอลุ่มทะลัก 2.93 พันล้านบาท โบรกฟันธงระยะสั้นราคาหุ้นมีลุ้นทดสอบ 103.00 บาทพร้อมส่องกล้องระยะยาวทำนิวไฮที่ 133.00 บาทไม่ยาก ด้านแนวโน้มผลงานไตรมาส 3/2553 ยังแจ่มแจ๋วคาดฟันกำไร 6.81 พันล้านบาท เตรียมบุ๊กกำไรพิเศษหลังขายหุ้นบริษัทกรุงเทพซินธิติกส์

TRUBBเจ๋งธุรกิจยางดี10ปีมาร์จิ้นโตยาว-ซื้อรับปันผล
    TRUBB เจ๋งธุรกิจยางสัญญาณโตยาว 10 ปีหนุนมาร์จิ้นไปไกล ไม่หวั่นไตรมาส 3/2553 กำไรอ่อนแอ ชูจุดเด่นทั้งปีกำไรทะยาน 439 ล้านบาท คิดเป็น EPS 1.01 บาทต่อหุ้น เคาะเป้าหมาย 9.10บาท แนะ "ซื้อ" รอรับปันผล

เปิดโผฝรั่งฮุบหุ้นผ่านNVDR KBANKเนื้อหอมสถิติสูงสุด
    หุ้นแบงก์ใหญ่ราศีจับฝรั่งแดงเข้าสอยผ่าน NVDR เพียบหลังเห็นศักยภาพแกร่ง ลั่นไม่หวั่นวิตก 3Gพิการ แถมแบงก์ชาติจ่อคุมค่าบาท ด้าน KBANK นำกลุ่มตั้งแต่ต้นปีซื้อสุทธิ 1.09 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนซื้อ 1.82 หมื่นล้านบาท แย้มหากฟันด์โฟลว์ยังทะลัก หุ้นแบงก์จ่อขึ้นแท่นฝรั่งหนีบหุ้นผ่าน NVDR อู้ฟู่

SMITไฟเขียวซื้อหุ้นคืน150ล.โบรกเกาะติดงบไตรมาส3แจ่ม
    บิ๊ก SMIT "ชัยศิลป์ แต้มศิริชัย" โชว์กระแสเงินสดเต็มหน้าตักประกาศอัดฉีดงบ 150 ล้านบาทซื้อหุ้นคืนจำนวน 53 ล้านหุ้น โบรกซูฮกแผนซื้อหุ้นคืนแจ่มคาดผลประกอบการไตรมาส 3/2553 สดใสหลังออเดอร์ใหม่เต็มมือแนะ "ซื้อ" เป้าหมาย 2.70 บาท

ธปท.เซ็ง5แผนคว้าน้ำเหลวเล็งเก็บภาษีเพิ่มสกัดค่าบาท
    นายแบงก์เผย 5 มาตรการสกัดเงินไหลเข้าของธปท.ใช้ไม่ได้ผล ลั่นบาทยังแข็งโป๊กส่อแววหลุด30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แถมเม็ดเงินยังไหลเข้าตลาดหุ้นไม่หยุด คาดผู้ว่าธปท.นิ่ง หวังรอ"ประสาร ไตรรัตนวรกุล" มาสานต่อ แย้มธปท.งัดมาตรการเก็บภาษีเพิ่มเพื่อชะลอบาทแข็ง

บลจ.ทหารไทยลุยกองบอนด์ปั้นผลตอบแทน1.60-2.30%
    บลจ.ทหารไทย ขายกองเกาหลีใต้รุ่น 109 มูลค่าโครงการ 1 พันล้าน อายุ 1 ปี 10 เดือนเคาะผลตอบแทน 2.30% ต่อปี พร้อมกันส่งกองทหารไทย ไพร์ม ฟันด์ รุ่นที่ 6 มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาทบาท รอบการลงทุน 4 เดือนประมาณการผลตอบแทน 1.60% ดีเดย์แล้ว วันนี้ถึง 29 กันยายน

BLAโบรกฉายภาพยังกร่อยกำไรQ3ส่อแววเหลือ480ล.
    โบรกคาดกำไรสุทธิ BLA ไตรมาส 3/2553  ชะลอตัวหลังมีแนวโน้มตั้งสำรองเพิ่มตามการเติบโตของยอดเบี้ยประกันภัย ประเมินกำไรสุทธิที่ 450-480 ล้านบาท ขณะที่กำไรจากการลงทุนไม่หวือหวาเหตุผู้บริหารไม่ตัดใจขายหุ้นทำกำไรแม้ดัชนีหุ้นไทยกระเตื้อง แนะนักลงทุนช้อนซื้อช่วงราคาอ่อนตัวลุ้นแนวต้าน 33.00-33.50 บาท

'TFEX'รุกโปรโมตฟิวเจอร์สลดค่าฟีทิ้งท้ายปลายปี2553
    ตลาดอนุพันธ์เดินหน้าโปรโมต SET50 Index Futures เพื่อขยายฐานผู้ลงทุน จัดโปรแกรมเสริมความรู้และแนวคิดด้านกลยุทธ์การซื้อขาย พร้อมเปิดตัวโปรโมชั่นพิเศษส่งท้ายปลายปี ลดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 3 เดือนแก่สมาชิก เริ่ม 1 ตุลาคม ถึงสิ้นปี 2553 นี้

'แสนสิริ'ปิดการขายDCONDOพร้อมเดินหน้ารุก2ทำเลใหม่ต.ค.นี้
    นายสุริยะ วรรณบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการและการตลาด บริษัท แสนสิริจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากการเปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Dcondo โครงการแรก ทำเลอ่อนนุช-สุวรรณภูมิ จำนวน 4 อาคาร รวมทั้งสิ้น 916 ยูนิต ในระยะเวลาพียงเดือนเศษ หลังจากที่เปิดตัวการขายในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยปัจจุบันสามารถปิดการขายยูนิตพักอาศัยได้เต็มจำนวนแล้วทั้งสิ้น 100% นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเป็นผลจากความสำเร็จด้านกลยุทธ์การออกแบบในทุกตารางเมตรของโครงการ โดยการทำวิจัยความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอาศัยในคอนโดมิเนียมเซ็กเมนต์ระดับราคาประมาณ 1 ล้านบาท

กบข.ดัน'เที่ยวเมืองไทยสบายกระเป๋า'หนุนท่องเที่ยวชูสมาชิกรับส่วนลด10%
    สมาชิกกบข.เฮรับสิทธิพิเศษสูงสุด 10% จากผู้ประกอบการกลุ่มท่องเที่ยวในงาน"เที่ยวเมืองไทยสบายกระเป๋า" ที่จัดขึ้นในวันที่ 23-26 กันยายน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสังเกตสติ๊กเกอร์ยินดีต้อนรับบัตรสมาชิก กบข.หรือสอบถามข้อมูลได้ที่บูธ กบข.CC126 โซน C2

TSF เฮงคว้างานเอเชี่ยนเกมส์หนุนเม็ดเงินเข้ากระเป๋า 70 ล้านบาท
   "ทรีซิกตี้ไฟว์"ยิ้มร่าคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 แต่เพียงผู้เดียว คาดโกยเม็ดเงินเข้ากระเป๋าไมต่ำกว่า 70 ล้านบาท รับรู้รายได้ครึ่งปีหลังของปีนี้ ชูแนวโน้มครึ่งปีหลังสดใสกว่าครึ่งปีแรก มั่นใจรายได้ปีนี้ดีกว่าปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 4 เตรียมจับมือพันธมิตรคลอดโปรเจ็กต์ใหญ่ฟากโบรกแนะ "ซื้อ" ให้ต้าน 1 บาท

TPOLYแตกไลน์ธุรกิจพลังงานเซ็นสัญญา500ล้านปลายเดือนนี้
    "เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกลุ" บิ๊ก ไทยโพลีคอนส์ เตรียมผุดโครงการธุรกิจพลังงานไฟฟ้าหนุนบริษัทมีความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ระบุปลายเดือนนี้จ่อเซ็นสัญญาโครงการภาครัฐมูลค่า 500 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/2553 สดใสต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2553 ที่มีกำไร 17 ล้านบาท ครึ่งปีหลังคาดกวาดรายได้ 1.3 ล้านบาท ปักธงเป้ารายได้ทั้งปีที่ 2 พันล้านบาท โบรกส่องต้าน 2.20 บาท

STARร่างแผนรุกตลาดสุขภัณฑ์ส่งสินค้าใหม่ขายทั้งใน-นอกปท.
    "สตาร์ ซานิทารีแวร์" เปิดฉากบุกตลาดสุขภัณฑ์ในโค้งสุดท้ายของปีพร้อมกันทั้งตลาดใน-นอกประเทศ"ดร.สมชัย ว่องอรุณ" เผยเตรียมส่งสินค้าใหม่ลงตลาดถึง 10 รุ่นวางตำแหน่งเป็นสินค้าระดับกลางบน ที่กำหนดราคาขายได้ดีขึ้นสำหรับตลาดต่างประเทศ มั่นใจแก้เกมเรื่องผลกระทบบาทแข็งได้เป็นอย่างดีขณะที่ตลาดในประเทศเตรียมทุ่ม 10 ล้านบาทกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค เชื่อสิ้นปีดันยอดขายเข้าเป้าได้แบบไร้ปัญหา--จบค่ะ--
ศุกร์ 24 ก.ย.--ข่าวหุ้น :
สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น

ฟอร์ซเซลททรูถล่มตลาดราคาสะเด็ดน้ำ 3.30 บาท ดึงหุ้นตัวอื่นรูดตาม หาเงินไปคืนโบรกฯ
    หุ้นทรูร่วงหนักผิดหวัง 3 จี โบรกฯเชือดพวกมาร์จิ้นบังคับขายกดราคารูดปรี๊ด 46%  นับจากวันที่ 7 ก.ย. แถมดึงหุ้นตัวอื่นร่วมตามเหตุต้องหาเงินไปคืนโบรกฯ งานนี้มีสิทธิกลับไปยืนที่เดิม 3.3 บาท กว่าจะสะเด็ดน้ำ หลังหมดข่าวประมูล 3 จีดันราคา ด้านตลาดฯ ไม่หวั่นตลาดรวมยังดี  ต่างชาติซื้อสุทธิลุยหุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่อง

PTTAR รีไฟแนนซ์หมื่นล. ลดดอกเบี้ยปีละ 350 ล้าน
    PTTAR ลงนามเงินกู้ 5 แบงก์ มูลค่า 9.8 พันล้านบาท ระยะยาว 10 ปี เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เดิมช่วยลดต้นทุนกว่า 0.50% หรือช่วยลดภาระดอกเบี้ยปีละ 350 ล้านบาท "ชายน้อย" ลั่นไตรมาส 3 พลิกกำไรแน่นอน โชว์ค่ากลั่นเฉลี่ย 5.58 เหรียญต่อบาร์เรล

ธนินท์ลั่นชาติไม่เจริญ ล้มประมูลไลเซนส์ 3G
    "เจ้าสัวธนินท์" ลั่นประมูลไลเซนส์ 3G ล่มถ่วงประเทศชาติไม่เจริญ ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนล้มประมูล  ระบุหากปล่อยไปยังไร้ กสทช. เกิดผลกระทบวงกว้าง "ธนา" ซัดปัญหาหลักเป็นเพราะหน่วยงานรัฐทะเลาะกันเองทำคนไทยเสียประโยชน์กันทั้งประเทศ

TTA ระวังตกเรือ! Q4 กำไร 300 ล้าน RCL ดีสุดรอบ 2 ปี
     หาจังหวะดักเก็บหุ้นเรือก่อนลุยไฮซีซั่นตั้งแต่ช่วงเดือนต.ค.วงการเงินชี้ไตรมาส 4 TTA มีลุ้นโชว์กำไร 300 ล้านบาท หลังเตรียมบันทึกกำไรพิเศษจากขายเรือ และขายหน่วยลงทุน ขณะที่ RCL มีสิทธิลุ้นโชว์พลิกกำไรรอบ 8 ไตรมาส ขานรับความต้องการใช้เรือขนส่งคอนเทนเนอร์พุ่งทะลัก

แบงก์ทหารไทยโดน 3 จีพ่นพิษ
     บิ๊กทหารไทยเซ็งแผนปล่อยกู้ 3 จีชะงัก สินเชื่อหมื่นล้านกลุ่มสื่อสารฝันสลาย  ส่งผลยอดสินเชื่อรายใหญ่ 9 เดือนแรกวูบเหลือแค่ 5% จากเป้า 10% กัดฟันดันสินเชื่อโรงไฟฟ้า 3 แห่งเข้าป้ายแทน เริ่มทยอยเบิกจ่ายตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/53 ไปจนถึงไตรมาส 4/53

TICON กำไรพิเศษ 400 ล้านราคาเป้าหมาย 14.75 บาท
    "วีรพันธ์" เผย TFUND เพิ่มทุน 1,715 ล้านบาท ให้ผู้ถือหุ้นเดิม 164.2 ล้านหน่วย ราคา 10.45 บาทต่อหน่วย ระหว่าง 4-8 ต.ค.นี้ ขณะที่ TICON จ่อขายโรงงาน 36 แห่ง เข้า TFUND ดันกำไรไตรมาส 4 พุ่งไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท โบรกฯเชียร์ซื้อเป้าหมาย 14.75 บาท

แสนสิริลุยดีคอนโดเพิ่ม 2 โครงการ 2 ทำเลทอง มูลค่ารวม 2.72 พันล้าน
    แสนสิริ  ลุยเปิดขายคอนโดฯแบรนด์ "dcondo" อีก 2 โครงการ 2 ทำเลใหม่ "dcondo รามคำแหง-dcondo รามอินทรา" มูลค่ารวมกว่า 2,720 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ "HAVE A GOOD DAY..ทุกวันคือความสุขที่ ดี คอนโด" แต่งครบผ่อนสบายเพียง 3,300 บาท/เดือน หรือ เริ่มต้น 1 ล้านบาท

AMATA สดใสรับการลงทุนฟื้น ปีนี้ยอดขายที่ดินพุ่ง 1.5 พันไร่ ซื้อเป้า 20.50 บาท
    AMATA เด้งขึ้นเกือบ 2% หลังมีมุมมองบวก คาดรับอานิสงส์ความเชื่อมั่นการลงทุน ฟื้นตัว 8 เดือนมูลค่าลงทุนโต 164% บวกการขยายการลงทุนของกลุ่มยานยนต์-อิเล็กฯ ขณะที่คาดยอดขายที่ดินปีนี้เติบโตอย่างน้อย 400% แตะ 1,250-1,500 ไร่ และเติบโต ต่อเนื่อง 1,600-1,800 ไร่ ในปีหน้า เชียร์"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท ส่วนเทคนิคยังแกว่งขึ้นลุ้นแนวต้าน 17.20-18 บาท

ซีฟโก้ กำไร Q3 แตะ 30 ล้านบาท โชว์ครึ่งปีหลัง 53 พลิกเป็นกำไร
    SEAFCO กำไรไตรมาส 3 ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนแนวโน้มครึ่งหลังปี'53 พลิกกลับมามีกำไร จากที่ขาดทุนในครึ่งปีแรก โบรกฯคาดปี'54 กำไรจะเติบโตก้าวกระโดด ตามปริมาณงานโครงการภาครัฐที่เข้ามา

BJC ซื้อเก็งกำไรเป้าหมาย 24.80 บาท รับข่าวลุ้นฮุบห้างคาร์ฟูร์ เหตุปตท.ถอนตัวไปแล้ว
    BJC ขึ้นตัวเก็งชนะประมูลซื้อกิจการคาร์ฟูร์ หลังยักษ์ใหญ่ ปตท.ประกาศถอนตัว ส่อเหลือผู้ประมูลรอบ 2 เพียง 2 ราย ระหว่าง BJC กับกลุ่มเซ็นทรัล โบรกฯเชียร์ซื้อราคาเป้าหมาย  24.80 บาท มองเป็นหุ้นเด่นของตลาดไทย มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรแข็งแกร่งและอัพไซด์จากการเข้าซื้อกิจการ

STAR รุกตลาดสุขภัณฑ์ส่งท้ายปี ส่งสินค้าใหม่ 10 รุ่นขายพร้อมกัน
    STAR เปิดฉากบุกตลาดสุขภัณฑ์ส่งท้ายปีพร้อมทั้งตลาดใน-นอกประเทศ  "ดร.สมชัย" เตรียมส่งสินค้าใหม่ลงตลาดถึง 10 รุ่น วางตำแหน่งเป็นสินค้าระดับกลางบนที่กำหนดราคาขายได้ดีขึ้นสำหรับตลาดต่างประเทศ มั่นใจแก้เกมเรื่องผลกระทบบาทแข็งได้เป็นอย่างดี

SITHAI การันตีปีนี้กำไรก้าวกระโดด รับรู้คืนเงินประกัน 300 ล้าน ยอดดอเดอร์ทะลักยาว 3 เดือน
    SITHAI การันตีกำไรปี'53 เติบโตเท่าตัว ด้วยกำไรพิเศษจากเงินประกันความเสียหายในเหตุเพลิงไหม้ 300 ล้านบาท ส่วนรายได้โตไม่ต่ำกว่า 5,700 ล้านบาท เชื่ออัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อยู่ที่ 21%เตรียมขยายกำลังการผลิตเพิ่มไปยังอินเดีย-เวียดนาม รองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่ ขณะที่มีออเดอร์ล่วงหน้าค้างอยู่ 3 เดือน เล็งปรับขึ้นราคาขายอีก 5% ในไตรมาส 4/53

ควัก 1.5 หมื่นล้านเงินกองทุนน้ำมัน ชดเชย LPG-NGV
    กบง.เตรียมควักเงินจากกองทุนน้ำมันกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ชดเชยนำเข้าแอลพีจี ราคาเอ็นพีจีต่ออีก 6 เดือน พร้อมสั่งสนพ.-ปตท. ร่วมศึกษาค่าขนส่งก๊าซเอ็นจีวี ใหม่ให้เหมาะสมหลังต้นทุนขยับเพิ่ม แต่คุมราคาขายปลีกไม่เกิน 10.34 บาทต่อกิโลกรัม สนพ.เผยอยู่ระหว่างการศึกษาต้นทุนเอ็นจีวี มั่นใจได้ข้อสรุปต้นปีหน้า

SABINA มั่นใจรายได้โต 25% เร่งขยายสาขาสิ้นปีนี้ 20 แห่ง
    SABINA มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้าโต 25% หรือ 2.1 พันล้านบาท โดยเน้นขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าขยายสาขาในประเทศอีก 7 สาขา เชื่อสิ้นปีครบ 20 สาขา รวมถึงออเดอร์จากยุโรปที่เพิ่มขึ้น พร้อมศึกษาตลาดมาเลเซีย และบรูไนเพิ่มหลังได้อานิสงส์อาฟต้า

"เสรีรัตน์" บอร์ดไฟเขียวผลงาน 1 ปีผ่าน ติงไม่รอบคอบเรื่อง "แป้งร่ำ" ขู่มีเอี่ยวเจอสอบย้อนหลังแน่
    "เสรีรัตน์" ลอยตัวบอร์ด AOT ไฟเขียวผ่านประเมินการทำงานรอบปี เริ่มนับ 1 ก.ค. 52-30 มิ.ย. 53 ปธ.บอร์ดระบุปัญหาแป้งร่ำ ไม่ใช่เกณฑ์ตัดสิน เพราะเหตุเกิดหลังครบรอบ 1 ปี ยังย้ำเสรีรัตน์ผิดจริงที่ขาดความรอบคอบการทำงาน แต่ต้องรอผลตรวจสอบจากกรรมการก่อน ค่อยคิดบัญชีย้อนหลัง

พลังงานสั่งลุยโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ
    น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วานนี้ (23 ก.ย.) ได้เปิดโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีกำลังการผลิต 704 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง จำนวน 120 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันโดยนำเข้าก๊าซมาจากประเทศพม่าทั้งนี้ โรงไฟฟ้าดังกล่าวได้ดำเนินการก่อสร้างโดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและดำเนินงานบริหารความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

"ตู่" ขู่ปลุกผีม็อบเสื้อแดง ต้านพรบ.นิรโทษกรรม ภท.-ปชป.โดดเหน็บ
    "จตุพร" ขู่ ปลุกม็อบชุมนุมใหญ่ ด้านกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภา ซัด "ห้อย" ทำเพื่อนิรโทษกรรมตัวเองหวั่นกลุ่มแดงมีอำนาจภัยอาจถึงตัว เตือน ชทพ.ระวังชะตากรรม เทพไท เหน็บตู่ ควรเห็นใจเพื่อนไม่ใช่ไม้หลักปักขี้เลนเหมือนพรรคเพื่อไทย ซัดเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว โว ปชป.มีจุดยืนมั่นคง

ไดโดสิทธิผลมั่นใจปี 53 รายได้โต 15% เม็ดเงินทะลุ 1,400 ล้านบาท จ่อคิวตั้งโรงงานในอินเดียปีหน้า
    ไดโดสิทธิผล มั่นใจปีนี้รายได้โตถึง 15% เม็ดเงินทะลุ 1,400 ล้านบาท หลังตลาดทั้งภายในประเทศและส่งออกเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แบรนด์สินค้า D.I.D ยังคงความแข็งแกร่ง  พร้อมรุกตลาดขยายธุรกิจไม่หยุด ด้วยการวางแผนเพิ่มฐานผลิตโออีเอ็มในประเทศอินเดียในปี'54 ด้านผู้บริหารการันตีตลาดอินเดียมีศักยภาพสูง ช่วยหนุนรายได้เพิ่มอีกปีละ 70 ล้านบาท

กลต.เบรกโบรกฯปั่นหุ้น รับใบสั่งไอ้โม่งดันราคา เจอจับเชือด
    "ธีระชัย" สั่งโบรกเกอร์ห้ามปั่นหุ้น ใช้วิธีรับคำสั่งเทรดจากขาใหญ่ ผ่านระบบออนไลน์ แบบไม่ทิ้งหลักฐาน พบหลายแห่งมีพฤติกรรมช่วยปั่นหุ้นให้ลูกค้า กำชับจับตาหุ้นเข้าข่าย Turnover List ซื้อขายแบบกระจุกตัวเป็นพิเศษ แนะต้องรีบรายงาน ก.ล.ต. ขณะที่ เปิดช่องโบรกฯทำเดย์เทรดสูงสุดไม่เกิน 75% ของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท

แบงก์ติงธปท.ขึ้นดอกเบี้ย หวั่นเอ็นพีแอลเอสเอ็มอี-อสังหาฯเพิ่ม
    นายแบงก์หวั่น แบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ จะทำให้ความสามารถการจ่ายเงินคืนของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีและกลุ่มอสังหาฯสะเทือนหนัก

ยักษ์ประกันภัยญี่ปุ่นเดินหน้าลงทุนในไทย อีก 7 ปี เบี้ยรวมพันล.
    สมโพธิ์เจแปนประกันภัย ประกาศเดินหน้าลงทุนในไทยต่อ เน้นประกันภัยทางทะเล เบ็ดเตล็ด พร้อมให้น้ำหนักเพิ่มประกันภัย พืชผลการเกษตร ตั้งเป้าเติบโตปีละ 10% ขั้นต่ำ โดยปี'57 ตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 1 พันล้านบาท

คลังประกาศ 5 มาตรการผ่อนคลายอัตราแลกเปลี่ยน
    กระทรวงการคลังออกประกาศผ่อนเกณฑ์คุมอัตราแลกเปลี่ยน 5 มาตรการ เปิดทางขนเงินไปนอกมากขึ้น ทั้งลงทุนและไปฝากในต่างประเทศ รวมทั้งเพิ่มวงเงิน กู้ยืมเงินกันเองระหว่างบริษัทในเครือหลังเจอปัญหาบาทแข็งรุมเร้าหนัก

SCB ไตรมาส 3 บุ๊คพิเศษ 770 ล. ดันกำไรพุ่ง 6.81 พันล. สูงสุดในรอบ 7 ปี
    โบรกฯ คาดการณ์ตัวเลขกำไรสุทธิ "ไทยพาณิชย์" (SCB) 6.81 พันล้านบาท เหตุมีบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย "กรุงเทพซินธิติกส์" กว่า 770 ล้านบาท ส่งผลกำไรรายไตรมาสสูงรอบ 7 ปี ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 120 บาท--จบ--
พฤหัสฯ 23 ก.ย.--eFinanceThai.com :
เล่นหุ้นแบงก์ดีกว่า

          กูรู ประสานเสียงเชียร์หุ้นกลุ่มแบงก์สุดแจ่ม รับสินเชื่อพุ่ง คาดปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อทั้งระบบโต 7.8% มองปีหน้าดีกว่าคาด ชู KBANK, BBL และ SCB เป็น top picks ของกลุ่ม ดีบีเอสวิคเคอร์ส ชอบ KBANK หลังมอง คุณภาพสินทรัพย์ดี, NPL ratio ต่ำสุดในกลุ่ม และรายได้ค่าธรรมเนียมขยายตัวสูงเมื่อเทียบกับกลุ่ม กิมเอ็ง ปรับคาดการณ์กำไร BBL ปี53 เพิ่มเป็น 2.43 หมื่นลบ.ให้มูลค่าเหมาะสมใหม่ที่ 179 บาท ชี้ได้เปรียบสุดในการปล่อยสินเชื่อ เอเซียพลัส คาด SCB กำไร 3Q53 โตถึง 28.2% สูงสุดรายไตรมาสรอบ 7 ปี แนะนำซื้อ Fair value 120 บาท
          หุ้นกลุ่มแบงก์ราศีจับ รับเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อสุดสดใสถึงปีหน้า แถมดอกเบี้ยยังเป็นขาขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการแจ่ม ดังนั้น หุ้นกลุ่มธนาคาร จึงเป็นที่น่าสนใจเข้าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
*เซียนหุ้น คาดยอดการปล่อยสินเชื่อขยายตัว 7.8% คาดมอง ผลงามแจ่ม
          นายธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของธนาคารพานิชย์ทั้งระบบในปีนี้ คาดว่ายอดการปล่อยสินเชื่อจะขยายตัว 7.8% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่อยู่ในเกณฑ์ดี โดยในช่วงครึ่งปีหลังยอดการปล่อยสินเชื่อจะขยายตัวอยู่ในดับเดียวกับช่วงครึ่งปีแรกประมาณ 4-5% จากการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าขนาดใหญ่ และในส่วน SME หลังจากได้รับรายได้จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยที่ขยับตัวดีขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาภาคเอกชนจะมีการเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ชะลอการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย แต่เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในช่วงขาขึ้นโดยการปรับขึ้นคงจะเป็นอัตราที่ไม่มากนัก ซึ่งกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะได้รับประโยชน์จากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ประเมินว่าธนาคารจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากก่อนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพราะจะเป็นการระดมทุนของธนาคารเพื่อเพิ่มสภาพคล่องก่อนจะเริ่มปล่อยสินเชื่อเเบบเต็มที่ในช่วงปีหน้า หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัว ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อขยายตัวดีขึ้น
          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังประเมินแนวโน้มผลประกอบการของแต่ละธนาคาร ซึ่งเชื่อว่าธนาคารบางแห่งจะมีการปรับเพิ่มกำไรขึ้นจากเดิม อาทิ BBL- KBANK -SCB ทำให้จะต้องปรับเพิ่มราคาพื้นฐานขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยก่อนหน้านี้ได้ปรับราคาพื้นฐาน BBL ไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นก็เหลือKBANK และ SCB ที่ยังคงต้องพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ยังมองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารยังน่าสนใจเข้าลงทุนจากแนวโน้มผลประกอบการที่ดี โดยล่าสุดราคาพื้นฐานปีนี้ของหุ้น BBL อยู่ที่ 180 บาท SCB อยู่ที่ 113 บาท และKBANK อยู่ที่ 126 บาท
          สำหรับกรณีภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นให้ระงับการประมูลใบอนุญาต 3Gนั้น ทำให้ธนาคารเสียโอกาสจากการปล่อยสินเชื่อในระยะนี้เท่านั้น แต่เชื่อว่าหาก 3G เกิดขึ้นก็จะส่งผลดีต่อยอดการปล่อยสินเชื่อธนาคารอย่างแน่นอน
* กูรู แนะ Bullish หุ้นแบงก์ หลังสินเชื่อโตต่อเนื่อง-คาดปีหน้าดีกว่าคาด ส่งสัญญาณเพิ่มประมาณกำไร-ราคาเป้าหมาย ชู KBANK, BBL และ SCB เป็น top picks ของกลุ่ม
          บทวิเคราะห์ บล.พัฒนสิน ระบุว่า สินเชื่อกลุ่มธนาคาร ในเดือน ส.ค. 10 เติบโต 0.8% m-m: กลุ่มธนาคารที่เราศึกษารายงานสินเชื่อเดือน ส.ค. ดีขึ้น m-m ตามคาด โดยเติบโตในอัตรา 0.8% หลักๆ ผลักดันจากสินเชื่อภาคธุรกิจรายใหญ่และ SME ที่กลับฟื้นตัวขึ้น ในขณะที่ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยังคงเติบโตต่อเนื่องและดีกว่าที่เราคาด โดยSCB และ KTB แสดงการเติบโตของสินเชื่อที่โดดเด่นสุดในกลุ่มแบงก์ใหญ่ ขณะที่ TISCO เติบโตโดดเด่นสุดในกลุ่มแบงก์เล็ก หลักๆผลักดันจากจากสินเชื่อรายใหญ่ของ TISCO ที่มีการเบิกจ่ายสินเชื่อในเดือน ส.ค. 10 ในทางกลับกันมีเพียง BAY และ BBL ที่สินเชื่อปรับลดลง m-m หลักๆ เกิดจากการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้ธุรกิจรายใหญ่บางราย อย่างไรก็ดี เราคาดว่าสินเชื่อของทั้ง 2 ธนาคาร จะกลับมาเติบโตสูงในช่วงปลายปี โดยเฉพาะ BBL ที่เราคาดว่าจะเติบโตได้ตามประมาณการของเราได้โดยไม่น่ากังวล
          สินเชื่อทั้งปี 2010F มีแนวโน้มดีกว่าที่คาด สินเชื่อของกลุ่มธนาคารในงวด 8M10 เติบโต 3.3% YTD ขณะที่ การเติบโตของสินเชื่อในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค. คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่เร่งตัวสูงขึ้น ผลักดันจาก 1) ปัจจัยตามฤดูกาลที่สินเชื่อจะเติบโตสูงในช่วงปลายปีโดยเฉพาะสินเชื่อ SME ในกลุ่มเกษตรและส่งออก รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์; 2) ความต้องการสินเชื่อของภาคธุรกิจรายใหญ่และ SME เพื่อขยายกิจการที่แสดงการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น ส่วนหนึ่งจากผลบวกของโครงการในมาบตาพุดที่โครงการส่วนใหญ่ดำเนินการต่อได้; และ 3) ความต้องการสินเชื่อของบริษัทขนาดใหญ่เพื่อการลงทุนและซื้อกิจการ อาทิ BANPU,TUF และ SSI เป็นต้น ปัจจัยบวกดังกล่าวคาดว่าจะทำให้สินเชื่อปี 2010-12F ของกลุ่มฯมีแนวโน้มที่จะเติบโตดีกว่าที่เราคาดที่ +8%, +10% และ +12% ตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2010F ซึ่งเป็นสัญญาณบวกที่เป็น upside ต่อการปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของกลุ่มธนาคาร
          คงมุมมอง Bullish และแนะนำ KBANK, BBL และ SCB เป็นหุ้น top picks ในกลุ่มฯ:เรายังคงมุมมองที่ชอบหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ในระยะยาว โดยเฉพาะหุ้น top picks ของเราคือ KBANK (TP THB133),BBL (TP THB190) และ SCB (TP THB119) เนื่องจากคาดว่าธนาคารดังกล่าวจะได้รับผลบวกสูงสุดในกลุ่มฯในภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวและวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นKTB (แนะนำ BUY ราคาเหมาะสมปี 2011F 16 บาท) ประกาศสินเชื่อเดือน ส.ค. 10 เติบโต 1.4% m-m และคิดเป็นเติบโตถึง 9.5% YTD ในงวด 8M10 ซึ่งถือว่าดีกว่าที่เราคาดและน่าจะเป็น positive surprise ต่อตลาดเช่นกัน ซึ่งเป็นสัญญาณชี้นำที่ดีต่อการเติบโตของสินเชื่อและกำไรสุทธิของ KTB ที่มีแนวโน้มดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ในขณะที่ ประเด็นการขายหุ้น “นกแอร์” เราคาดว่าไม่มีนัยสำคัญต่อกำไรและราคาเป้าหมาย (TP) ของ KTB โดยเรายังคงแนะนำ BUY หุ้น KTB เนื่องจากอาจมี upside potential ต่อ TP ปี 2011F ที่เราประเมินไว้ที่ 16 บาท/หุ้นหลักๆ ผลักดันจากการเติบโตของสินเชื่อที่มีแนวโน้มดีกว่าที่เราคาด นอกจากนี้ KTB มีประเด็นที่อาจเป็น pricecatalyst ต่อราคาหุ้นในระยะกลาง จากประเด็นที่กระทรวงการคลังอาจพิจารณาให้ศึกษาแนวทาง รวมถึงผลดีผลเสีย ในการขายหุ้น KTB ออกไป
          ประเด็นที่คลัง อาจพิจารณาลดสัดส่วนการถือหุ้นใน KTB อาจเป็น price catalyst ต่อ KTB ในระยะกลาง: แม้ว่านโยบายเดิมของกระทรวงการคลังจะยังคงต้องการถือหุ้น KTB ไม่ต่ำกว่า 51% เพื่อคงให้ KTB เป็นธนาคารกลไกลหลักของรัฐบาลที่ใช้ผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่คลังอาจให้มีการทำการศึกษาถึงแนวทาง รวมถึง ผลดี ผลเสียในการขายหุ้นใน KTB ออกไปทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งประเด็นดังกล่าว แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจน แต่ก็อาจเป็นประเด็นที่เป็น price catalyst ต่อราคาหุ้น KTB ในระยะกลาง ทั้งนี้ หากพิจารณาจากราคาที่มีการซื้อกิจการในหุ้นธนาคารพาณิชย์ไทยในกรอบ P/BV ที่ 1.2-1.6 เท่า ราคาขายอาจอยู่ในกรอบ 13.0-17.2 บาท/หุ้น หากมีการขายหุ้น KTB เกิดขึ้นจริง (อิงจากมูลค่าทางบัญชีสิ้นปี 2010F ของ KTB ที่ 10.74 บาท/หุ้น) โดยเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” KTB เนื่องจากอาจมีupside potential ต่อราคาเป้าหมาย (TP) ปี 2011F ที่เราประเมินไว้ที่ 16 บาท/หุ้น หลักๆ จากการเติบโตของสินเชื่อและกำไรที่มีแนวโน้มดีกว่าที่เราคาด
* ดีบีเอสวิคเคอร์ส ชอบ KBANK หลังมอง คุณภาพสินทรัพย์ดี, NPL ratio ต่ำสุดในกลุ่ม และรายได้ค่าธรรมเนียมขยายตัวสูงเมื่อเทียบกับกลุ่ม
          บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า สินเชื่อเดือนส.ค. 53 ขยายตัว 0.8%MoM (+7.8%YoY) เป็นไปตามคาด โดยการเติบโตหลักมาจากสินเชื่อ Corporate, สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับโครงการรัฐ และสินเชื่อ SMEs ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ที่มีการเติบโตของสินเชื่อโดดเด่นในเดือนส.ค. 53 คือ SCB (+1.5%MoM และ +9.3%YoY) เพราะสินเชื่อ Corporate รายใหญ่ขยายตัวดีขึ้น และตามมาด้วย KTB (+1.4%MoM และ +9.0%YoY) ซึ่งสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับโครงการรัฐเติบโตแข็งแกร่ง, KBANK (+0.9%MoM และ +11.6%YoY) โดยหลักเป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ SMEs และรายย่อย ส่วน BBL สินเชื่อเดือนส.ค.หดตัว 0.4%MoM (+3.3%YoY) เนื่องจากมีการชำระคืนนี้ที่ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่ม Corporate ส่วนแบงค์เล็กยังมีการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อแข็งแกร่งทั้ง TISCO (+3.3%MoM และ +26.1%YoY) และ KK (+2.7%MoM และ +17.3%YoY)
          สินเชื่อและกำไรสุทธิขยายตัวแข็งแกร่ง สำหรับทั้งปี 53 ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ DBSV ประเมินว่าสินเชื่อของกลุ่มแบงค์จะขยายตัว 7.3% และเติบโตต่อเนื่อง 7.5% ในปี 54 ซึ่งเป็นไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง ทำให้ความต้องการใช้สินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและเพื่อการลงทุนของกลุ่ม SMEs เพิ่มขึ้น ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ของ DBS Bank คาดการณ์ว่า GDPของไทยในปี 53-54 จะเติบโต 9% และ 4% ตามลำดับ สำหรับกำไรสุทธิ เราประมาณการว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์จะมีการเติบโตของกำไรสุทธิปี 54 เท่ากับ 15.0% โดยมีสมมติฐานการขยายตัวของสินเชื่อ 7.5%, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.06%, รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 11% และการตั้งสำรองค่าเผื่อฯ เท่ากับ 0.72% ของสินเชื่อรวม
           เรามีมุมมองที่เป็นบวกกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยแนะนำซื้อและให้ BBL, KBANK และ KTB เป็นหุ้น Top Picks เราชอบ KBANK เนื่องจากมีคุณภาพสินทรัพย์ดี, NPL ratio ต่ำที่สุดในกลุ่ม และรายได้ค่าธรรมเนียมขยายตัวสูงเมื่อเทียบกับกลุ่ม สำหรับ BBL มีจุดเด่นเรื่องงบดุลแข็งแกร่ง และมีสำรองสะสมต่อ NPL (NPL Coverage Ratio) สูงมาก ด้าน KTB คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 และการใช้จ่าย & ลงทุนของภาครัฐ เราเชื่อว่า KBANK และ BBL จะได้รับประโยชน์จากความต้องการใช้สินเชื่อของกลุ่ม Corporate และ SMEs ที่เพิ่มขึ้นในปี 53 นอกจากนั้นยังแนะนำซื้อ SCB รวมทั้งแนะนำถือ BAY, TCAP และ TISCO
*บล.กิมเอ็ง ปรับคาดการณ์กำไร BBL ปี53 เพิ่มเป็น 2.43 หมื่นลบ.ให้มูลค่าเหมาะสมใหม่ที่ 179 บาท ชี้ได้เปรียบสุดในการปล่อยสินเชื่อ
          บทวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง ระบุว่า รายได้หลักยังเติบโตแม้กำไรสุทธิลดลง qoq เพราะไม่มีรายได้พิเศษ ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/53 ไว้ที่ 5,669 ล้านบาท ลดลง 17.0%qoq เนื่องจากไตรมาสก่อนมีกำไรพิเศษจากเงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท แต่หากพิจารณาเฉพาะรายได้หลักยังคงเติบโตต่อเนื่อง หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 11.8% จากรายได้ที่เติบโตต่อเนื่องประกอบกับค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองฯที่ลดลงตาม คุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้น ทางด้านสินเชื่อไตรมาส 3/53 ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่คาดจะเติบโตสูงในไตรมาส 4/53 โดยทางธนาคารยังคงมั่นใจกับเป้าหมายสินเชื่อที่ 6% เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 53 เพิ่มขึ้น จากกำไรจากเงินลงทุนและกำไรจากการปริวรรตเงินตราที่สูง ในขณะที่แรงกดดันในการตั้งสำรองฯลดลง คงคำแนะนำ 'ซื้อ' จากโอกาสเติบโตของสินเชื่อที่สูงในไตรมาส 4/53 ประกอบกับงบดุลที่แข็งแกร่ง มูลค่าที่เหมาะสมใหม่อยู่ที่ 179.00 บาท/หุ้น
          เราประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/53 ไว้ที่ 5,669 ล้านบาท ลดลง 17.0% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักมาจากไตรมาสก่อนมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น ACL กว่า 2 พันล้านบาท แต่หากพิจารณาเฉพาะธุรกิจหลัก พบว่ารายได้หลักยังคงเติบโต qoq ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองฯมีแนวโน้มลดลงจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี ขึ้น หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 11.8% yoy จากรายได้หลักที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองฯที่ลดลง
          เราคาดสินเชื่อไตรมาส 3/53 ขยายตัวเพียงเล็กน้อย 0.2%qoq ส่งผลให้สินเชื่อ 9 เดือนขยายตัว 2.76% จากสิ้นปีก่อน เราประเมินสินเชื่อจะขยายตัวได้สูงในไตรมาส 4/53 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากความต้องการเงินทุนหมุนเวียน การลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอาหาร และโครงการภาครัฐ BBL ในฐานะธนาคารขนาดใหญ่ซึ่งมีความพร้อมทั้งทางด้านสภาพคล่องสูง สาขาต่างประเทศ ฐานะเงินกองทุนแข็งแกร่งและมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อภาคธุรกิจ ย่อมเป็นหนึ่งในธนาคารที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคการลงทุนดัง กล่าว โดยมีโอกาสสูงที่จะได้ร่วมปล่อยกู้ให้แก่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและ ภาคเอกชน ซึ่งทางธนาคารยังคงมั่นใจกับเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ที่ 6% ในขณะที่เป้าหมายสินเชื่อปีนี้ของเราอยู่ที่ 5.5% ทางด้าน NIM ทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียง 3.0%
          เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 53 เพิ่มขึ้นเป็น 24,321 ล้านบาท จากกำไรจากเงินลงทุนและกำไรจากการปริวรรตเงินตราที่สูงในปีนี้ ประกอบกับคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี โดยสิ้นไตรมาส 2/53 มี NPL Ratio เพียง 4.07% ในขณะที่มี Coverage ratio สูง 127.9% พร้อมปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 54 เพิ่มขึ้นเป็น 25,692 ล้านบาท จากการปรับลดค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรอง ส่งผลให้มูลค่าที่เหมาะสมปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 171 บาท/หุ้น เป็น 179 บาท/หุ้น อ้างอิงกับ 1.5 เท่าของมูลค่าทางบัญชีปี 54
          BBL อยู่ในสถานะที่ได้เปรียบในการปล่อยสินเชื่อในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเรามองว่าการลงทุนภาคเอกชนจะเริ่มฟื้นตัว เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง มีสาขาต่างประเทศ และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังมีงบดุลที่มีเสถียรภาพสูง ทั้งทางด้านฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี ดังนี้เราคงคำแนะนำ 'ซื้อ' ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมใหม่ที่ 179.00 บาท/หุ้น
* บล.ซิกโก้ เชียร์ซื้อ BBL ชี้ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ให้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 172.00 บาท
          บทวิเคราะห์ บล.ซิกโก้ ระบุว่า คาดผลการดำเนินงานของ BBL ในช่วง 3Q10E ยังไม่มีความโดดเด่นมาก นักโดยเราคาดกำไรสุทธิเท่ากับ 5,808 ลบ. โดยสาเหตุมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลง 5.7% QoQ เนื่องจากอัตราการปล่อยสินเชื่อที่ลดลงตอดต่อกัน 2 เดือน นอกจากนี้ใน 3Q10E BBL ไม่มีการรับรู้รายได้จากการขายหุ้น ACL ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิใน 3Q10E ลดลง 14.9% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 14.6% YoY
           สินเชื่อของ BBL ล่าสุดในเดือน ส.ค. 53 ยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุมาจากการปล่อยสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมาเป็นการปล่อยสินเชื่อประเภทเงินหมุนเวียนเป็นหลัก ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีการจ่ายคืนเงินต้นให้กับธนาคาร อย่างไรก็ตามเราคาดว่าอัตราการปล่อยสินเชื่อจะเพิ่มมากขึ้นในช่วง 4Q10E เนื่องจากเป็น High Season ของหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของ GDP ทั้งนี้ BBL ยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 6% YoY ซึ่งอาจมีการปรับประมาณการอีกครั้ง
          มองว่า BBL เป็นธนาคารที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ขณะที่มีการเติบโตที่ค่อนข้างตามภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของ BBL เป็นกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม SSEC คาดว่าในช่วง 4Q10E – FY11E เราจะเห็นการลงทุนใหม่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากอุตสาหกรรมต่างๆเริ่มมีการขยายตัวซึ่งจะส่งผลบวกต่อ BBL เราจึงแนะนำ “ซื้อ” โดยให้มูลค่าเหมาะสมใน FY11E เท่ากับ 172.00 บาท
* บล.เอเซียพลัส คาด SCB กำไร 3Q53 โตถึง 28.2% สูงสุดรายไตรมาสรอบ 7 ปี แนะนำซื้อ Fair value 120 บาท
          บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ฝ่ายวิจัยคาด SCB จะมีกำไรสุทธิใน 3Q53 เท่ากับ 6.81 พันล้านบาท เติบโตถึง 28.2% qoq ซึ่งเป็นกำไรระดับสูงสุดในรายไตรมาสในรอบ 7 ปี โดยคาดธนาคารฯ จะมีการบันทึกกำไรจากการขายหุ้นของ บ.กรุงเทพซินธิติกส์ฯ (เป็นหลักทรัพย์ที่ได้จากการปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้) จำนวน 5.14 แสนหุ้น มูลค่าสุทธิจากภาษีฯ รวม 770 ล้านบาท (ขายให้แก่ บ.เอสซีจี เคมิคอลล์ฯ) หากไม่รวมรายการดังกล่าว พบว่ากำไรจากการดำเนินงานใน 3Q53 ยังเติบโตถึง 13.5% qoq มาจากการเติบโตของทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้มิใช่ดอกเบี้ยถึง 3.6% qoq และ 16.9% qoq ตามลำดับ โดยในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีปัจจัยผลักดันจากการเติบโตของสินเชื่อสุทธิที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องอีก 1.5% qoq (โดยรวมแล้วสินเชื่อสุทธิใน 9M53 เติบโตถึง 4.8% จากสิ้นปี 2552 ยังสอดคล้องกับเป้าหมายทั้งปี 2553 ที่ 7.1% yoy ตามที่ฝ่ายวิจัยคาด) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเติบโตของสินเชื่อรายใหญ่ที่เห็นสัญญาณบวกมากขึ้นในงวดนี้ จากโครงการต่างๆ ที่มีการเบิกใช้สินเชื่อที่ธนาคารฯ ได้อนุมัติไปในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ SME มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้จะยังไม่มากและต่ำกว่าเป้าหมายอยู่ แต่ยังคาดหวังได้กับการเติบโตเชิงรุกใน 4Q53 เพราะเป็นช่วงฤดูกาลของ SME ส่วนสินเชื่อรายย่อยนั้น กลุ่มที่ยังมีการเติบโตเชิงรุกต่อเนื่องคือสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ขณะที่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเริ่มชะลอการเติบโตลงแล้วจากที่เติบโตโดดเด่นมากใน 1H53 โดยคาด NIM ใน 3Q53 จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.64% จาก 3.46% ในงวดที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยผลักดันจาก 1) การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทขึ้น 0.15% เมื่อปลายเดือน ก.ค.53 ที่ผ่านมา และ 2) การบันทึกเงินปันผลรับจากกองทุนวายุภักษ์สำหรับผลการดำเนินงาน 1H53 ที่มาราว 320 ล้านบาท สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย คาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมฯ ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่องตามการขยายสินเชื่อใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งธุรกรรมด้าบบัตร ATM และบัตรเครดิตล้วนกระเตื้องขึ้นจาก 2Q53 ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ ส่วนกำไรจากธุรกรรม Fx คาดว่าจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับปกติที่เคยทำได้ราว 700 ล้านบาท จากที่หดตัวลงไปมากใน 2Q53 ที่ผ่านมา สำหรับประเด็นเรื่อง NPL และการตั้งสำรองหนี้ฯ ไม่มีประเด็นที่น่ากังวล โดยรวมแล้ว คาดกำไรสุทธิใน 9M53 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.85 หมื่นล้านบาท เติบโตถึง 15.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 80% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2553 ที่ฝ่ายวิจัยคาด
          ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจและการเติบโตของกำไรสุทธิของ SCB ใน 4Q53 และปี 2554 ซึ่งจะฟื้นตัวเต็มที่ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิอีกครั้ง หากการเติบโตของสินเชื่อรายใหญ่ยังคงเป็นไปในอัตราเร่งมากขึ้น จนทำให้การเติบโตของสินเชื่อสุทธิโดยรวมทั้งปี 2553 สูงเกินเป้าหมายที่ฝ่ายวิจัยคาดที่ 7.1% yoy และทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เข้าสู่ทิศทางขาขึ้น และสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้น 75bp ในปี 2554 ทั้งนี้ กลยุทธ์ธุรกิจปี 2553 ของ SCB ที่ได้ปรับเปลี่ยนมาเน้นการให้บริการครบวงจรแก่ลูกค้าเป้าหมายในกลุ่มบริษัท Blue chip จะสามารถบรรลุเป้าหมายได้มากขึ้น หากความเชื่อมั่นด้านการลงทุนของภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะโครงการในมาบตาพุดหลายโครงการที่ไม่เข้าข่ายโครงการรุนแรงที่จะเริ่มกลับมาผลิตเชิงพาณิชย์ได้ ผนวกกับโครงการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการไทยเข้มแข็งที่ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยผลักดันการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมฯ ของ SCB ในปี 2553-54 ตามลำดับ
          ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการผลการดำเนินงานปี 2553-54 และคำแนะนำซื้อ โดยกำหนด Fair value เท่ากับ 120 บาท อิง PBV 2.5 เท่าปี 2554 ภายใต้คาดการณ์ ROE ระยะยาวที่ 20% ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในกลุ่ม ธ.พ. โดยราคาหุ้น SCB เริ่มสะท้อนพื้นฐานธุรกิจที่จะกลับมาเติบโตเชิงรุกมากขึ้นใน 2H53 และเต็มที่ทั้งปีในปี 2554 และคาดว่าจะสามารถ outperform ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ ในไม่ช้า นอกจากนี้ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นทิศทางขาขึ้น จะยิ่งส่งผลบวกต่อแนวโน้มธุรกิจของ SCB จากการที่มีสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากสูงถึง 104.8%