ศุกร์ 8 ต.ค.--Daily Direction :
ที่มา : บล.บีฟิท
Market Attitude ปัจจัยเดิมๆ เรื่องค่าเงิน / หุ้นผันผวน
ปัจจัยช่วงนี้ยังเป็นเรื่องเดิมๆ เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเป็นประเด็นระดับโลก ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ใช้นโยบายให้ค่าเงินอ่อนเพื่อผลทางการค้าและการกระตุ้นเศรษฐกิจ จีนถูกกดดันมาตลอดจากประเทศสหรัฐและยุโรป ขณะที่ญี่ปุ่นก็เพิ่งลดอัตราดอกเบี้ยและซื้อสินทรัพย์เพิ่ม อัดฉีดเงินเข้าระบบ และทาง ธ.กลางยุโรปและ ธ.อังกฤษ ก็ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก ธ.กลางสหรัฐก็เช่นกันที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ เพื่อหนุนเศรษฐกิจ ก็ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าอ่อนลง ตรงกันข้ามกับประเทศในภูมิภาคเอเชียที่แนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจเด่นชัดกว่า ทำให้มีเงินไหลเข้ามาลงทุนจำนวนมาก ค่าเงินก็แข็งค่าต่อเนื่อง จนกังวลกันว่าจะกระทบการส่งออก มองว่ากระประชุม จี-7 ปลายสัปดาห์นี้ ไม่น่าจะมีมาตรการที่ออกมาบังคับในเรื่องนี้ แม้ทั้ง IMF และธนาคารโลก ออกมาเตือนเรื่องสงครามค่าเงินอาจกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ มาที่ของไทยเรา ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ก็สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค อำนาจการส่งออกจึงไม่น่ากระทบมาก แต่ถ้าส่งออกจะกระทบเป็นเพราะประเทศคู่ค้าอาจจะประสบปัญหามากกว่า ก็อย่างที่บอกหลายครั้งว่า ยังไม่ต้องกังวลว่าจะมีมาตรการอะไรแรงๆ รอการประชุมกนง. 20 ก.ย. นี้ ที่น่าจะเห็นมาตรการผ่อนคลาย โดยคาดว่าครั้งนี้จะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ก่อน เพื่อลดแรงกดดันและผลกระทบ มาที่ตลาดหุ้นไทย จากปัจจัยก็ยังเหมือนเดิม แต่ตลาดหุ้นมีความผันผวนมากขึ้น ขึ้นสลับขายทำกำไรตลอด มุมมองด้านเทคนิคฯ มองว่าถ้าประคองตัวยืนเหนือโซน 965-970 จุด ยังสามารถลุ้นกลับขึ้นไปที่โซน 986 จุด โดยเผื่อจุดถอยไว้ที่โซน 965 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
* ระยะกลาง : ถือต่อ ... (จุดถอยอยู่ที่ 955 จุด)
* ระยะสั้น : ลุ้นต่อ-เก็งกำไรต่อ..(เผื่อจุดถอยไว้ที่ 965 จุด)
Market Viewpoint
ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ -19.07 จุด หรือ -0.17% ปิดที่ 10,948.58 รับแรงกดดันจากความอ่อนแอของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ในขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนขนาดใหญ่ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันศุกร์
น้ำมันดิบ NYMEX -1.56 ดอลลาร์ หรือ -1.87% ปิดที่ 81.67 ดอลลาร์/บาร์เรล การดีดขึ้นของดอลลาร์กระตุ้นให้นักลงทุนขายทำกำไรน้ำมัน ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันศุกร์
เศรษฐกิจโลก - IMF ปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าอาจเติบโต 4.8 % ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 4.6 % ที่เคยคาดไว้ในเดือนก.ค. และคาดว่าอาจเติบโต 4.2 %ในปีหน้า
อัตราแลกเปลี่ยน - IMF เตือนระวังสงครามค่าเงินอาจกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก / ธ.โลกเตือนแทรกแซง FX มากไปอาจก่อความขัดแย้งด้านการค้า
ยุโรป - ธ.กลางยุโรปประกาศคงดอกเบี้ยที่ 1.0% / ธ.กลางอังกฤษประกาศคงดอกเบี้ยที่ 0.5%
PTT - คาดผลศึกษาการควบรวมกิจการบริษัทในเครือจะเสร็จสิ้นปลายปีนี้หรือต้นปี 54 ขณะที่เตรียมเปิดดำเนินการโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งที่ 6 ในเดือนพ.ย.นี้
IVL - ใช้เงินลงทุน 2.9 พันล้านบาท เข้าซื้อหุ้นเพิ่มในบมจ.ทีพีที ปิโตรเคมิคอลส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสาร PTA เป็น 99.9% จากเดิมถืออยู่ 54.7%
ITD - เตรียมเซ็นสัญญากับการท่าเรือของพม่า โครงการท่าเรือน้ำลึกที่อ่าวทวายของพม่า ในช่วงปลายเดือนต.ค.หรือต้นเดือนพ.ย.ปีนี้
ที่มา : บล.บีฟิท
Market Attitude ปัจจัยเดิมๆ เรื่องค่าเงิน / หุ้นผันผวน
ปัจจัยช่วงนี้ยังเป็นเรื่องเดิมๆ เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเป็นประเด็นระดับโลก ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ใช้นโยบายให้ค่าเงินอ่อนเพื่อผลทางการค้าและการกระตุ้นเศรษฐกิจ จีนถูกกดดันมาตลอดจากประเทศสหรัฐและยุโรป ขณะที่ญี่ปุ่นก็เพิ่งลดอัตราดอกเบี้ยและซื้อสินทรัพย์เพิ่ม อัดฉีดเงินเข้าระบบ และทาง ธ.กลางยุโรปและ ธ.อังกฤษ ก็ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก ธ.กลางสหรัฐก็เช่นกันที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ เพื่อหนุนเศรษฐกิจ ก็ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าอ่อนลง ตรงกันข้ามกับประเทศในภูมิภาคเอเชียที่แนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจเด่นชัดกว่า ทำให้มีเงินไหลเข้ามาลงทุนจำนวนมาก ค่าเงินก็แข็งค่าต่อเนื่อง จนกังวลกันว่าจะกระทบการส่งออก มองว่ากระประชุม จี-7 ปลายสัปดาห์นี้ ไม่น่าจะมีมาตรการที่ออกมาบังคับในเรื่องนี้ แม้ทั้ง IMF และธนาคารโลก ออกมาเตือนเรื่องสงครามค่าเงินอาจกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ มาที่ของไทยเรา ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ก็สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค อำนาจการส่งออกจึงไม่น่ากระทบมาก แต่ถ้าส่งออกจะกระทบเป็นเพราะประเทศคู่ค้าอาจจะประสบปัญหามากกว่า ก็อย่างที่บอกหลายครั้งว่า ยังไม่ต้องกังวลว่าจะมีมาตรการอะไรแรงๆ รอการประชุมกนง. 20 ก.ย. นี้ ที่น่าจะเห็นมาตรการผ่อนคลาย โดยคาดว่าครั้งนี้จะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ก่อน เพื่อลดแรงกดดันและผลกระทบ มาที่ตลาดหุ้นไทย จากปัจจัยก็ยังเหมือนเดิม แต่ตลาดหุ้นมีความผันผวนมากขึ้น ขึ้นสลับขายทำกำไรตลอด มุมมองด้านเทคนิคฯ มองว่าถ้าประคองตัวยืนเหนือโซน 965-970 จุด ยังสามารถลุ้นกลับขึ้นไปที่โซน 986 จุด โดยเผื่อจุดถอยไว้ที่โซน 965 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
* ระยะกลาง : ถือต่อ ... (จุดถอยอยู่ที่ 955 จุด)
* ระยะสั้น : ลุ้นต่อ-เก็งกำไรต่อ..(เผื่อจุดถอยไว้ที่ 965 จุด)
Market Viewpoint
ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ -19.07 จุด หรือ -0.17% ปิดที่ 10,948.58 รับแรงกดดันจากความอ่อนแอของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ในขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนขนาดใหญ่ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันศุกร์
น้ำมันดิบ NYMEX -1.56 ดอลลาร์ หรือ -1.87% ปิดที่ 81.67 ดอลลาร์/บาร์เรล การดีดขึ้นของดอลลาร์กระตุ้นให้นักลงทุนขายทำกำไรน้ำมัน ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันศุกร์
เศรษฐกิจโลก - IMF ปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าอาจเติบโต 4.8 % ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 4.6 % ที่เคยคาดไว้ในเดือนก.ค. และคาดว่าอาจเติบโต 4.2 %ในปีหน้า
อัตราแลกเปลี่ยน - IMF เตือนระวังสงครามค่าเงินอาจกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก / ธ.โลกเตือนแทรกแซง FX มากไปอาจก่อความขัดแย้งด้านการค้า
ยุโรป - ธ.กลางยุโรปประกาศคงดอกเบี้ยที่ 1.0% / ธ.กลางอังกฤษประกาศคงดอกเบี้ยที่ 0.5%
PTT - คาดผลศึกษาการควบรวมกิจการบริษัทในเครือจะเสร็จสิ้นปลายปีนี้หรือต้นปี 54 ขณะที่เตรียมเปิดดำเนินการโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งที่ 6 ในเดือนพ.ย.นี้
IVL - ใช้เงินลงทุน 2.9 พันล้านบาท เข้าซื้อหุ้นเพิ่มในบมจ.ทีพีที ปิโตรเคมิคอลส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสาร PTA เป็น 99.9% จากเดิมถืออยู่ 54.7%
ITD - เตรียมเซ็นสัญญากับการท่าเรือของพม่า โครงการท่าเรือน้ำลึกที่อ่าวทวายของพม่า ในช่วงปลายเดือนต.ค.หรือต้นเดือนพ.ย.ปีนี้