ศุกร์ 8 ต.ค.--เด็กแนว :
ที่มา : บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน
)
     เบาพอร์ท เพื่อปลอดภัย ไม่ว่าจะเปิดหนังสือพิมพ์เล่มไหน อ่านข่าวจากสื่อใด มีแต่ความกังวลเรื่องค่าบาทแข็ง และจะไปกระทบกับการส่งออกจำนวนมาก เนื่องจากการแข็งค่าบาทระดับ 10% นี้ เด็กแนวเคยบอกไปวันก่อนแล้วว่าจะทำให้ผู้ประกอบการมีกำไรลดลงและอาจต้องหยุดธุรกิจไปก่อน ตอนนี้สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจส่วนใหญ่ประเมินแล้วว่าน่าเป็นห่วง เพราะหากผู้ส่งออกมีอัตรา margin ที่ 5% ก็เท่ากับว่าโดยเฉลี่ยตอนนี้คือขาดทุนนั่นเอง
     ต้นสัปดาห์หน้า ครม. จะถกประเด็นแนวทางแก้ไขค่าบาท แต่หุ้นมันกระทบไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน  และเด็กแนวว่าหากจะมีการออกมาตรการอะไรออกมานั้น รัฐจะไม่เลือกออกในช่วงวันที่มีการซื้อขายเพราะผลกระทบมันแรง แต่อาจจะเลือกช่วงใกล้วันหยุด หรือเย็นวันศุกร์ เพื่อให้เสาร์-อาทิตย์ ช่วยย่อยประเด็นจะได้ไม่แรงเกินไป วันนี้ลดหุ้นออก ถือหุ้นกลับให้น้อย อย่าไปสนใจเลข 1,000 จุด  มันไม่ได้ช่วยอะไร เพราะหุ้นขึ้นแค่พลังงานไม่กี่ตัว  ทำตัวเบาๆ ดีกว่า
     * MCS, PAP  ตลท. จะ เพิ่มหุ้นในกลุ่มเหล็กขึ้นมาอีกหนึ่งกลุ่มในปี 54 แบบว่าเอาหุ้นที่ทำธุรกิจเหล็กมาจัดรวมกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องดี การวัดค่าและประเมินจะได้ง่ายขึ้น มีความชัดเจน โดยพบว่ามีหุ้นที่กำหนดมาแล้ว 27 บริษัท ขณะที่ปัจจัยเสริมได้แก่ค่าบาทแข็งทำให้การนำเข้าเหล็กนั้นได้เปรียบเพราะต้นทุนจะต่ำลง นอกจากนี้ราคาเหล็กมีแนวโน้มขยับตัวสูงขึ้นผู้ประกอบการได้กำไรจากส่วนต่างราคาขายและสต็อกเหล็ก ประการต่อมาราคาเหล็กที่มีแนวโน้มขึ้นจะทำให้ผู้ที่ต้องการใช้เหล็กเร่งสั่งของเพื่อซื้อในราคาที่ต่ำกว่าก่อนที่มันจะขึ้นราคา ทีนี้พอจัดกลุ่มใหม่แล้วจะเล่นรับข่าวก็ต้องมาเฟ้นหาตัวน่าเล่น ซึ่งเด็กแนวได้สรุปมาเหลือ 5 ตัวตามตารางนั่นเอง การประเมินจะอิงหลายตัวเลข เรื่องวิชาการนักลงทุนก็ต้องรู้ไว้เช่นกัน  จะได้เป็นมุมมองติดตัวไว้ใช้ ก็จะเหลือแต่ MCS กับ PAP ที่น่าสนใจที่สุด สำหรับแนวโน้มราคาทางเทคนิค MCS มีแนวต้านสำคัญ 9.20 บาท ส่วน PAP เงียบมานาน มีแนวต้านสำคัญ 2.50 บาท   
     * RPC อาการหุ้นไม่ธรรมดา เหมือนเงียบๆ ไม่ค่อยมีประเด็น ข่าวที่เห็นชัดคือขายหุ้น treasury stock ออกไป จากนั้นก็ไม่ได้มีข่าวอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากเรื่องโครงการในอนาคต รายได้ในอนาคต  ชวนให้กลับไปหาข้อมูลย้อนหลัง  ซึ่งก็พบว่าเคยมีการแจ้งมติผู้ถือหุ้นให้ออกหุ้นจำนวน 273 ล้านหุ้นเพื่อไปขายที่ไต้หวัน หรือเรียกว่า TDR นั่นเอง