อังคาร 5 ต.ค.--Daily Direction :
ที่มา : บล.บีฟิท
Market Attitude
ปัจจัยนอกกลับเป็นลบ / หุ้นไทยรอดูสถานการณ์
ตลาดหุ้นมีการปรับฐานลงมาวานนี้ ทั้งๆ ที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิจำนวนมาก นักลงทุนในบ้านเราดูจะมีความกังวลเรื่องค่าเงินบาทมากขึ้นหลังแข็งค่าใกล้ระดับ 30 บาท ทำให้มีกระแสกดดันจากบรรดาผู้ประกอบการส่งออกมากขึ้น ข้อเรียกร้องต่างๆ มีเข้ามามากขึ้น และก็กังวลว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะมีมาตรการออกมาสกัดกั้นค่าเงินบาท ซึ่งเราก็เคยประเมินไปก่อนนี้ว่า ตราบใดที่ค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับภูมิภาค ก็จะไม่น่ามีมาตรการอะไรที่เข้มข้นออกมา และก็รอดูการประชุม กนง.ในเดือนนี้ว่าอาจจะมีการเปลี่ยนท่าทีเรื่องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อลดแรงกดดันและผลกระทบด้วย ฉะนั้นเมื่อประกอบเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนกัยดัชนีตลาดเมื่อเข้าใกล้ระดับ 1000 จุด จึงจะมีการขายทำกำไรกันออกมาก่อน สำหรับปัจจัยจากต่างประเทศวันนี้ ออกมาในด้านลบ โดยปัจจัยเรื่องเดิมๆ ก็ยังวนเวียนกลับมา อย่างเรื่องความกังวลต่อปัญหาหนี้ของงยูโรโซน รวมทั้งความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ หุ้นยุโรปปรับตัวลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ขณะหุ้นสหรัฐก็ปรับลงวานนี้เช่นกัน เรามองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยแม้จะมีแรงเขย่าเมื่อวาน แต่ก็ต้องดูว่าถ้าไม่หลุดบริเวณ 955-960 ก็มีโอกาสดีดกลับ แต่ก็คาดว่าตลาดวันนี้น่าจะแกว่งตัวรอดูสถานการณ์มากกว่า
กลยุทธ์การลงทุน
* ระยะกลาง : ถือต่อ ... (จุดถอยอยู่ที่ 955 จุด)
* ระยะสั้น : ระยะสั้น : การขายทำกำไร ... คงดูที่โซน 955-960 จุด ถ้ายืนได้ ซื้อคืน
Market Viewpoint
ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ -78.41 จุด หรือ -0.72% ปิดที่ 10,751.27 นักลงทุนขายทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยใช้ข้อมูลเศรษฐกิจและความวิตกเกี่ยวกับหนี้ยูโรโซนเป็นปัจจัยกระตุ้นการเทขาย ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายบ่งชี้ว่า ตลาดบ้านเริ่มมีเสถียรภาพที่ระดับต่ำมากในเดือน ส.ค. ขณะที่ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานในสหรัฐลดลง 0.5% ในเดือนส.ค. โดยลดลงมากกว่าคาดเล็กน้อย
น้ำมันดิบ NYMEX -0.11 ดอลลาร์ หรือ -0.13% ปิดที่ 81.47 ดอลลาร์/บาร์เรล รับแรงกดดัน
จากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง
สหรัฐ - เฟด กล่าวว่ามีแนวโน้มว่าสหรัฐอาจจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติม นอกจากว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐจะปรับตัวดีขึ้น
กองทุน/เงินทุน - EPFR Global เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่ทะยานขึ้น และความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนหุ้นทั่วโลกเพิ่มขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 3
อังกฤษ - NEF เตือนรัฐบาลอังกฤษอาจต้องอุ้มธนาคารจำนวนมากในปีหน้า
ธนาคาร - รมว.คลัง ระบุว่า ค่าธรรมเนียมของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศ ควรจะลดลงได้อีก
เอสเอ็มอี/เงินบาท - รมว.คลัง เผยจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และผู้ประกอบการ เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี
อสังหาริมทรัพย์ - ธปท.ชี้ตลาดอสังหาฯ เริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม หลังพบเดือน ส.ค.ปล่อยสินเชื่อใหม่ลด 35.6%
ที่มา : บล.บีฟิท
Market Attitude
ปัจจัยนอกกลับเป็นลบ / หุ้นไทยรอดูสถานการณ์
ตลาดหุ้นมีการปรับฐานลงมาวานนี้ ทั้งๆ ที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิจำนวนมาก นักลงทุนในบ้านเราดูจะมีความกังวลเรื่องค่าเงินบาทมากขึ้นหลังแข็งค่าใกล้ระดับ 30 บาท ทำให้มีกระแสกดดันจากบรรดาผู้ประกอบการส่งออกมากขึ้น ข้อเรียกร้องต่างๆ มีเข้ามามากขึ้น และก็กังวลว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะมีมาตรการออกมาสกัดกั้นค่าเงินบาท ซึ่งเราก็เคยประเมินไปก่อนนี้ว่า ตราบใดที่ค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับภูมิภาค ก็จะไม่น่ามีมาตรการอะไรที่เข้มข้นออกมา และก็รอดูการประชุม กนง.ในเดือนนี้ว่าอาจจะมีการเปลี่ยนท่าทีเรื่องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อลดแรงกดดันและผลกระทบด้วย ฉะนั้นเมื่อประกอบเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนกัยดัชนีตลาดเมื่อเข้าใกล้ระดับ 1000 จุด จึงจะมีการขายทำกำไรกันออกมาก่อน สำหรับปัจจัยจากต่างประเทศวันนี้ ออกมาในด้านลบ โดยปัจจัยเรื่องเดิมๆ ก็ยังวนเวียนกลับมา อย่างเรื่องความกังวลต่อปัญหาหนี้ของงยูโรโซน รวมทั้งความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ หุ้นยุโรปปรับตัวลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ขณะหุ้นสหรัฐก็ปรับลงวานนี้เช่นกัน เรามองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยแม้จะมีแรงเขย่าเมื่อวาน แต่ก็ต้องดูว่าถ้าไม่หลุดบริเวณ 955-960 ก็มีโอกาสดีดกลับ แต่ก็คาดว่าตลาดวันนี้น่าจะแกว่งตัวรอดูสถานการณ์มากกว่า
กลยุทธ์การลงทุน
* ระยะกลาง : ถือต่อ ... (จุดถอยอยู่ที่ 955 จุด)
* ระยะสั้น : ระยะสั้น : การขายทำกำไร ... คงดูที่โซน 955-960 จุด ถ้ายืนได้ ซื้อคืน
Market Viewpoint
ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ -78.41 จุด หรือ -0.72% ปิดที่ 10,751.27 นักลงทุนขายทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยใช้ข้อมูลเศรษฐกิจและความวิตกเกี่ยวกับหนี้ยูโรโซนเป็นปัจจัยกระตุ้นการเทขาย ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายบ่งชี้ว่า ตลาดบ้านเริ่มมีเสถียรภาพที่ระดับต่ำมากในเดือน ส.ค. ขณะที่ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานในสหรัฐลดลง 0.5% ในเดือนส.ค. โดยลดลงมากกว่าคาดเล็กน้อย
น้ำมันดิบ NYMEX -0.11 ดอลลาร์ หรือ -0.13% ปิดที่ 81.47 ดอลลาร์/บาร์เรล รับแรงกดดัน
จากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง
สหรัฐ - เฟด กล่าวว่ามีแนวโน้มว่าสหรัฐอาจจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติม นอกจากว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐจะปรับตัวดีขึ้น
กองทุน/เงินทุน - EPFR Global เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่ทะยานขึ้น และความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนหุ้นทั่วโลกเพิ่มขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 3
อังกฤษ - NEF เตือนรัฐบาลอังกฤษอาจต้องอุ้มธนาคารจำนวนมากในปีหน้า
ธนาคาร - รมว.คลัง ระบุว่า ค่าธรรมเนียมของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศ ควรจะลดลงได้อีก
เอสเอ็มอี/เงินบาท - รมว.คลัง เผยจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และผู้ประกอบการ เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี
อสังหาริมทรัพย์ - ธปท.ชี้ตลาดอสังหาฯ เริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม หลังพบเดือน ส.ค.ปล่อยสินเชื่อใหม่ลด 35.6%