ศุกร์ 8 ต.ค.--Daily Focus :
ที่มา : บมจ.ฟินันเซีย ไซรัส
Today's Report : AP, IVL
Our Portfolio Oct 2010 : BANPU, PTTEP, SCB, TUF, STEC
ช่วงนี้ต้องระวังแรงขายแถว 980-985 ...แต่ลุ้นแรงซื้อจาก 967-960 ได้
แนวโน้ม: จากความกังวลเรื่องค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง รวมถึงการรอมาตรการดูแลค่าเงินของธนาคารกลางแต่ละประเทศในช่วงนี้ ทำให้ FSS คาดว่าSET จะยังคงแกว่งตัวขึ้น-ลงผันผวนภายในกรอบ 967-985 จุดอยู่ก่อนจนถึงต้นสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม Fund Flow จะยังเป็นตัวผลักดันให้ SET ขยับขึ้นได้ใหม่ ซึ่งเรายังมองเป้าหมายดัชนีในระยะใกล้ๆ นี้ที่บริเวณ 990-996 จุด ดังนั้นการปรับตัวลงของตลาดจึงถือว่ายังเป็นจังหวะของการเลือกหุ้นเข้าซื้อได้ โดยเฉพาะเพื่อลุ้นเก็งกำไรในผลประกอบการไตรมาส 3/53 ที่จะเริ่มทยอยประกาศได้ตั้งแต่ช่วงท้ายของเดือนนี้เป็นต้นไป
กลยุทธ์: เลือกหุ้นทยอยเข้ารับได้เมื่อตลาดปรับพักฐานลง ส่วนที่มีอยู่แล้วเน้นถือต่อเนื่อง โดยอาจแบ่งส่วนขายทำกำไรบ้างเมื่อตลาดขยับขึ้น สำหรับหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ SCB, KBANK, BBL, CK, STEC, TASCO, TTCL, AMATA, IRPC, ESSO, PTTEP, PTTAR, BANPU, BCP, GLOW, SEAFCO, SITHAI, VNG เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) IMF ปรับคาดการณ์ World GDP ปีนี้ขึ้นเป็น 4.8% แต่ปรับลดปีหน้าเหลือ 4.2% มีมุมมองที่ดีขึ้นกับเศรษฐกิจในยุโรปโดยเฉพาะเยอรมนี แต่มองสหรัฐฯ แย่ลงทั้งปีนี้ปีหน้า และมองว่าประเทศ EM โดยเฉพาะจีนกับอินเดียจะเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก สำหรับไทย คาด GDP ปีนี้ดีกว่าเดิม แต่ปีหน้ามองแย่กว่าเดิม
2010E 2011E
Previous Current Previous Current
World 4.6 4.8 4.3 4.2
US 3.3 2.6 2.9 2.3
EU area 1.0 1.7 1.3 1.5
China 10.5 10.5 9.6 9.6
Indonesia 6.0 6.0 6.2 6.2
Philippines 6.0 7.0 4.0 4.5
Thailand 7.0 7.5 4.5 4.0
Source: IMF
(+) 'กรณ์' ระบุสัปดาห์หน้ามีข้อสรุปเรื่องค่าบาท ตลาดระยะสั้นพักฐานรอความชัดเจนมาตรการคุมเงินบาท ขณะที่ BOE วานนี้ไม่เพิ่ม QE สร้างความผิดหวังเล็กๆ ให้ตลาด ส่วน กนง.อาจตรึงดอกเบี้ย 20 ต.ค. นี้เพื่อไม่ให้บาทแข็งค่าขึ้นไปอีก ประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนเป็นหัวข้อสำคัญในการประชุม IMF และ World Bank สุดสัปดาห์นี้และ G-20 เดือนหน้า
(+) IVL เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 31 บาทหลังซื้อ TPT เพิ่มเป็น 99.9%
(-) AP คาดกำไร 3Q10 -61%Q-Q และ -67%Y-Y แนวโน้มเดียวกับ SPALI, LPN
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่อง แต่ปริมาณเบาบางมากทั้งนี้อาจเป็นเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่รอดูทิศทางหรือท่าทีของเฟดในวันศุกร์นี้ว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 หรือไม่ หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแต่อย่างใด ประกอบกับความผันผวนของค่าเงินโดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่องค่อนข้างมาก ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนมากขึ้น ทำให้เช้านี้ค่าเงินเอเชีย ยูโรและค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าแนวโน้มค่าเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่อง และกระแสเงินทุนจากต่างชาติก็จะยังไหลเข้าเอเชียแต่อาจมีชะลอตัวลงบ้างก็ยังถือว่าปกติ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง 19.07 จุด หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มอ่อนแอ รวมทั้งนักลงทุนบางส่วนยังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. ที่จะประกาศในคืนวันนี้(8 ต.ค.) อีกครั้ง
* ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันเนื่องจากนักลงทุนบางส่วนยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและทิศทางมาตรการของธนาคารประเทศต่างๆ อีกครั้ง
* ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังเคลื่อนไหวแคบๆ โดยมีทั้งที่เป็นบวก และลบ เช่นกัน ทำให้ SET ไม่มีแรงชี้นำจากตลาดหุ้นต่างประเทศ
* ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ดิ่งลง 1.56 ดอลลาร์อยู่ที่ 81.67 ดอลลาร์ จากแรงขายทำกำไรก่อนที่จะรอดูตัวเลขการจ้างงานของทางการสหรัฐในคืนนี้อีกครั้ง
* ราคาทองคำ COMEX เดือน ธ.ค. ร่วงลง 12.70 ดอลล์ อยู่ที่ 1,335.00 ดอลลาร์/ออนซ์ จากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ดีเกินคาดของสหรัฐและดอลลาร์ฟื้น
* BDI Index ปิดที่ระดับ 2662 จุดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 อีก 23 จุด
ข่าวภายในประเทศ
* เดินเครื่องโรงแยกก๊าซ 6 ปตท.ปัดฝุ่นแผนควบลูก ผุดโปรเจ็กต์พีทีทีปาร์ค พลิกเกมหลังซื้อคาร์ฟูร์ล่ม "ประเสริฐ" รื้อแผนควบรวม แต่อุบโยกจับคู่ PTTAR+PTTCH อ้างผลการศึกษาเสร็จปลายปีนี้ ขณะที่เตรียมเดินหน้าโรงแยกก๊าซฯ 6 พ.ย.นี้ รับหวั่นราคาขายปลีกแอลพีจีต่ำเกินจริงดันยอดใช้พุ่ง ส่งผลให้ยอดนำเข้าทะลุ 1 ล้านตันต่อปี "ปรัชญา" เผยหลังชวดห้างคาร์ฟูร์ เตรียมหันทำพีทีทีปาร์คปั๊มใหญ่ครบวงจร หวังดันรายได้ค้าปลีกเพิ่ม (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* ITD จ่อเซ็นสัญญาพม่าบิ๊กโปรเจ็กต์ 4 แสนล้าน ITD จ่อเซ็นสัญญาบิ๊กโปรเจ็กต์ 4 แสนล้านบาทกับพม่า โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกอ่าวทวายปลายเดือนตุลาคมหรือต้นพฤศจิกายนนี้ เตรียมบันทึกกำไรขายหุ้นน้ำเทิน 2 มูลค่า 3,000 ล้านบาททันทีไตรมาส 3 ฟุ้งรายได้ทั้งปี 4 หมื่นล้านบาท
* Q3 อิเล็กฯกำไรสวย DELTA พุ่งพันล้าน HANA ซื้อเล่นสั้น อย่ามองข้ามหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ วงการการันตีการเมืองไร้ผล เงินบาทแข็ง (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)กระทบแค่จิ๊บๆ ชี้ซื้อขายสินค้าเป็นดอลลาร์ แถมได้โอกาสนำเข้าวัตถุดิบราคาถูก ตั้ง DELTA เป็นหุ้น TOP PICK กำไร Q3 ทะลุ 1,000 ล้านบาท ชอบเล่นสั้นให้ดัก HANA กำไรโต 784 ล้านบาท (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* TTCL ผนึกโรจนะสร้างโรงไฟฟ้า โตโย-ไทยเตรียมเซ็นสัญญาร่วมทุนบริษัทโรจนะภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เดินหน้าก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 110 เมกะวัตต์ เพิ่มรายรับบริษัทปีละพันล้านบาท ขณะที่แผนขายหุ้นให้รับเหมาใหญ่ญี่ปุ่นฉลุย ไม่เกินไตรมาส 4 รู้ผล (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* THCOM ปีนี้พลิกกำไร Q3 นิ่งเลื่อนเซ็นอินเดีย THCOM ลุ้นปีนี้กำไรรับเลื่อนเซ็นสัญญาอินเดีย ส่งผลกระทบต่อไตรมาส 3 โบรกฯคาดเปิดตลาดไอพีสตาร์ ลากยาว "อารักษ์" เผยแม้เซ็นเอ็มโอยูช้า แต่เปิดบริการตั้งแต่เดือนก.ย.แล้ว เก็บเงินย้อนหลังได้ รายได้รวมโตเกิน 20% (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* GUNKUL ไอพีโอ 5.40 บ. มั่นใจหุ้นขายเกลี้ยงสถาบันจองล้น 5 เท่า "กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง" เคาะราคาไอพีโอ 5.40 บาท นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจองล้น 5 เท่า และมีส่วนลดประมาณ 20% จากราคาที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ "กัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์" ระบุอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการถือหุ้น GUNKUL เพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่สดใสด้วยกัน บล.ทิสโก้ มั่นใจเปิดจอง 11-13 ต.ค. 2553 นี้ (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* SEAFCO การันตีไตรมาส 3 พลิกกำไร อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัว การเมืองทำส่งมอบงานช้า SEAFCO ส่งซิกไตรมาส 3/53 ผลประกอบการพลิกเป็นกำไร หลังไตรมาส 2/53 ขาดทุน เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้น ประมูลงานใหม่เพียบ ส่วนทั้งปี 2553 มีกำไรหรือไม่ต้องรอลุ้นผลงาน Q4/53 ก่อนด้านรายได้พลาดเป้า 2 พันล้านบาท หลังโดนผลกระทบทางการเมืองรุนแรง ส่งมอบงานล่าช้า (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* ROJNAขายที่ดินทะลุเป้า 500 ไร่ ซุ่มเจรจาขายที่ดินกลุ่มยานยนต์-อิเล็กฯอีกเพียบ "โรจนะ" ยอดขายที่ดินพุ่ง 500 ไร่ บรรลุเป้าหมายทั้งปีแล้วหลังเซ็นสัญญาขายที่ดิน 300 ไร่ให้กับกัลฟ์ เจพี พร้อมซุ่มเจรจาขายที่ดินให้ลูกค้าอยู่หลายรายในกลุ่มยานยนต์-อิเล็กทรอนิกส์ คาดถึงสิ้นปีนี้มียอดขายที่ดินเข้ามาอีกเพียบ รับอานิสงส์แนวโน้มการลงทุนสดใส โบรกฯแนะ "ถือ" ราคาพื้นฐานที่ 13.18 บาท (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
ข่าวต่างประเทศ
* สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงเกินคาด 11,000 ราย กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ต.ค.ร่วงลง 11,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 445,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 455,000 ราย ส่วนจำนวนผู้รับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ปรับตัวลง 3,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 455,750 ราย ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 08-10-2010)
* สหรัฐอเมริกา: สติกลิทซ์เตือนศก.สหรัฐโตช้าอาจกระทบตลาดแรงงาน เหน็บอัตราว่างงานสูงอาจกลายเป็นเรื่องปกติ โจเซฟ สติกลิทซ์ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ กล่าวแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม World Business Forum ครั้งที่ 7 ที่นิวยอร์กว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐยังสามารถขยายตัวต่อไปได้ แต่ก็ช้าเกินกว่าที่จะกระตุ้นการจ้างงานให้เพิ่มขึ้น และอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงอาจจะกลายเป็นสถานการณ์ที่ปกติในสหรัฐในไม่ช้านี้ สติกลิทซ์เตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความเสี่ยง และอาจจะเสี่ยงถึงขึ้นที่ต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืดเหมือนในญี่ปุ่น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-10-2010)
* สหรัฐอเมริกา: IMF คาดเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวต่อปีที่ระดับ 2.6% ปีนี้ และ 2.3% ปีหน้า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐจะมีอัตราการขยายตัวต่อปีที่ระดับ 2.6% ในปีนี้และ 2.3% ในปีหน้า รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook หรือ WEO) ของไอเอ็มเอฟระบุว่า อัตราว่างงานของสหรัฐคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 9.7% ในปีนี้ และ 9.6% ในปีหน้า ขณะที่กระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานของสหรัฐที่ขยับขึ้นแตะ 9.6% ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา (ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-10-2010)
* จีน: IMF คาดเศรษฐกิจจีนขยายตัว 10.5% ปีนี้ ก่อนชะลอเหลือ 9.6% ปีหน้า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเฉลี่ย 10.5% ในปี 2553 และ 9.6% ในปี 2554 โดยได้รับแรงหนุนจากดีมานด์ในประเทศ "กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับปานกลางในช่วงนี้น่าจะดำเนินต่อไปจนถึงปีหน้า อันเป็นผลมาจากการใช้มาตรการคุมเข้มเชิงปริมาณสำหรับการปล่อยสินเชื่อ มาตรการชะลอความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และแผนลดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2554" ไอเอ็มเอฟระบุในรายงาน รายงานดังกล่าวระบุว่ายอดค้าปลีกและผลผลิตอุตสาหกรรมที่ขยายตัวต่อเนื่องในปีนี้เป็นเครื่องยืนยันว่ากิจกรรมภาคเอกชนมีอิทธิพลเหนือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล (ที่มา:อินโฟเควสท์ 07-10-2010)
* เอเชีย: ญี่ปุ่นเผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ย.ร่วง 5.8% กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนกันยายนของญี่ปุ่นร่วงลง 5.8% แตะระดับ 1.1142 ล้านล้านเยน เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดด้านการค้าและการบริการอยู่ที่ระดับ 1.01 แสนล้านในเดือนดังกล่าว ทั้งนี้ ยอดบัญชีเดินสะพัดเป็นมาตรวัดที่ครอบคลุมถึงมูลค่าการค้า ส่วนต่างของรายได้จากแหล่งเงินทุนต่างประเทศและ หนี้สินต่างประเทศ โดยไม่นับรวมเงินลงทุนสุทธิ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 08-10-2010)
* เอเชีย: IMF หั่นคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นลงเหลือ 1.5% ปี 54 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2554 ลงเหลือ 1.5% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก ส่วนในปี 2553 IMF ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นขึ้นเป็น2.8% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 2.4% เนื่องจากการฟื้นตัวของการส่งออกในช่วงต้นปี ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศตะวันตกและดีมานด์ในสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้นในจีน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-10-2010)
ที่มา : บมจ.ฟินันเซีย ไซรัส
Today's Report : AP, IVL
Our Portfolio Oct 2010 : BANPU, PTTEP, SCB, TUF, STEC
ช่วงนี้ต้องระวังแรงขายแถว 980-985 ...แต่ลุ้นแรงซื้อจาก 967-960 ได้
แนวโน้ม: จากความกังวลเรื่องค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง รวมถึงการรอมาตรการดูแลค่าเงินของธนาคารกลางแต่ละประเทศในช่วงนี้ ทำให้ FSS คาดว่าSET จะยังคงแกว่งตัวขึ้น-ลงผันผวนภายในกรอบ 967-985 จุดอยู่ก่อนจนถึงต้นสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม Fund Flow จะยังเป็นตัวผลักดันให้ SET ขยับขึ้นได้ใหม่ ซึ่งเรายังมองเป้าหมายดัชนีในระยะใกล้ๆ นี้ที่บริเวณ 990-996 จุด ดังนั้นการปรับตัวลงของตลาดจึงถือว่ายังเป็นจังหวะของการเลือกหุ้นเข้าซื้อได้ โดยเฉพาะเพื่อลุ้นเก็งกำไรในผลประกอบการไตรมาส 3/53 ที่จะเริ่มทยอยประกาศได้ตั้งแต่ช่วงท้ายของเดือนนี้เป็นต้นไป
กลยุทธ์: เลือกหุ้นทยอยเข้ารับได้เมื่อตลาดปรับพักฐานลง ส่วนที่มีอยู่แล้วเน้นถือต่อเนื่อง โดยอาจแบ่งส่วนขายทำกำไรบ้างเมื่อตลาดขยับขึ้น สำหรับหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ SCB, KBANK, BBL, CK, STEC, TASCO, TTCL, AMATA, IRPC, ESSO, PTTEP, PTTAR, BANPU, BCP, GLOW, SEAFCO, SITHAI, VNG เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) IMF ปรับคาดการณ์ World GDP ปีนี้ขึ้นเป็น 4.8% แต่ปรับลดปีหน้าเหลือ 4.2% มีมุมมองที่ดีขึ้นกับเศรษฐกิจในยุโรปโดยเฉพาะเยอรมนี แต่มองสหรัฐฯ แย่ลงทั้งปีนี้ปีหน้า และมองว่าประเทศ EM โดยเฉพาะจีนกับอินเดียจะเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก สำหรับไทย คาด GDP ปีนี้ดีกว่าเดิม แต่ปีหน้ามองแย่กว่าเดิม
2010E 2011E
Previous Current Previous Current
World 4.6 4.8 4.3 4.2
US 3.3 2.6 2.9 2.3
EU area 1.0 1.7 1.3 1.5
China 10.5 10.5 9.6 9.6
Indonesia 6.0 6.0 6.2 6.2
Philippines 6.0 7.0 4.0 4.5
Thailand 7.0 7.5 4.5 4.0
Source: IMF
(+) 'กรณ์' ระบุสัปดาห์หน้ามีข้อสรุปเรื่องค่าบาท ตลาดระยะสั้นพักฐานรอความชัดเจนมาตรการคุมเงินบาท ขณะที่ BOE วานนี้ไม่เพิ่ม QE สร้างความผิดหวังเล็กๆ ให้ตลาด ส่วน กนง.อาจตรึงดอกเบี้ย 20 ต.ค. นี้เพื่อไม่ให้บาทแข็งค่าขึ้นไปอีก ประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนเป็นหัวข้อสำคัญในการประชุม IMF และ World Bank สุดสัปดาห์นี้และ G-20 เดือนหน้า
(+) IVL เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 31 บาทหลังซื้อ TPT เพิ่มเป็น 99.9%
(-) AP คาดกำไร 3Q10 -61%Q-Q และ -67%Y-Y แนวโน้มเดียวกับ SPALI, LPN
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่อง แต่ปริมาณเบาบางมากทั้งนี้อาจเป็นเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่รอดูทิศทางหรือท่าทีของเฟดในวันศุกร์นี้ว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 หรือไม่ หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแต่อย่างใด ประกอบกับความผันผวนของค่าเงินโดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่องค่อนข้างมาก ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนมากขึ้น ทำให้เช้านี้ค่าเงินเอเชีย ยูโรและค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าแนวโน้มค่าเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่อง และกระแสเงินทุนจากต่างชาติก็จะยังไหลเข้าเอเชียแต่อาจมีชะลอตัวลงบ้างก็ยังถือว่าปกติ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง 19.07 จุด หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มอ่อนแอ รวมทั้งนักลงทุนบางส่วนยังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. ที่จะประกาศในคืนวันนี้(8 ต.ค.) อีกครั้ง
* ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันเนื่องจากนักลงทุนบางส่วนยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและทิศทางมาตรการของธนาคารประเทศต่างๆ อีกครั้ง
* ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังเคลื่อนไหวแคบๆ โดยมีทั้งที่เป็นบวก และลบ เช่นกัน ทำให้ SET ไม่มีแรงชี้นำจากตลาดหุ้นต่างประเทศ
* ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ดิ่งลง 1.56 ดอลลาร์อยู่ที่ 81.67 ดอลลาร์ จากแรงขายทำกำไรก่อนที่จะรอดูตัวเลขการจ้างงานของทางการสหรัฐในคืนนี้อีกครั้ง
* ราคาทองคำ COMEX เดือน ธ.ค. ร่วงลง 12.70 ดอลล์ อยู่ที่ 1,335.00 ดอลลาร์/ออนซ์ จากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ดีเกินคาดของสหรัฐและดอลลาร์ฟื้น
* BDI Index ปิดที่ระดับ 2662 จุดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 อีก 23 จุด
ข่าวภายในประเทศ
* เดินเครื่องโรงแยกก๊าซ 6 ปตท.ปัดฝุ่นแผนควบลูก ผุดโปรเจ็กต์พีทีทีปาร์ค พลิกเกมหลังซื้อคาร์ฟูร์ล่ม "ประเสริฐ" รื้อแผนควบรวม แต่อุบโยกจับคู่ PTTAR+PTTCH อ้างผลการศึกษาเสร็จปลายปีนี้ ขณะที่เตรียมเดินหน้าโรงแยกก๊าซฯ 6 พ.ย.นี้ รับหวั่นราคาขายปลีกแอลพีจีต่ำเกินจริงดันยอดใช้พุ่ง ส่งผลให้ยอดนำเข้าทะลุ 1 ล้านตันต่อปี "ปรัชญา" เผยหลังชวดห้างคาร์ฟูร์ เตรียมหันทำพีทีทีปาร์คปั๊มใหญ่ครบวงจร หวังดันรายได้ค้าปลีกเพิ่ม (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* ITD จ่อเซ็นสัญญาพม่าบิ๊กโปรเจ็กต์ 4 แสนล้าน ITD จ่อเซ็นสัญญาบิ๊กโปรเจ็กต์ 4 แสนล้านบาทกับพม่า โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกอ่าวทวายปลายเดือนตุลาคมหรือต้นพฤศจิกายนนี้ เตรียมบันทึกกำไรขายหุ้นน้ำเทิน 2 มูลค่า 3,000 ล้านบาททันทีไตรมาส 3 ฟุ้งรายได้ทั้งปี 4 หมื่นล้านบาท
* Q3 อิเล็กฯกำไรสวย DELTA พุ่งพันล้าน HANA ซื้อเล่นสั้น อย่ามองข้ามหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ วงการการันตีการเมืองไร้ผล เงินบาทแข็ง (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)กระทบแค่จิ๊บๆ ชี้ซื้อขายสินค้าเป็นดอลลาร์ แถมได้โอกาสนำเข้าวัตถุดิบราคาถูก ตั้ง DELTA เป็นหุ้น TOP PICK กำไร Q3 ทะลุ 1,000 ล้านบาท ชอบเล่นสั้นให้ดัก HANA กำไรโต 784 ล้านบาท (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* TTCL ผนึกโรจนะสร้างโรงไฟฟ้า โตโย-ไทยเตรียมเซ็นสัญญาร่วมทุนบริษัทโรจนะภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เดินหน้าก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 110 เมกะวัตต์ เพิ่มรายรับบริษัทปีละพันล้านบาท ขณะที่แผนขายหุ้นให้รับเหมาใหญ่ญี่ปุ่นฉลุย ไม่เกินไตรมาส 4 รู้ผล (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* THCOM ปีนี้พลิกกำไร Q3 นิ่งเลื่อนเซ็นอินเดีย THCOM ลุ้นปีนี้กำไรรับเลื่อนเซ็นสัญญาอินเดีย ส่งผลกระทบต่อไตรมาส 3 โบรกฯคาดเปิดตลาดไอพีสตาร์ ลากยาว "อารักษ์" เผยแม้เซ็นเอ็มโอยูช้า แต่เปิดบริการตั้งแต่เดือนก.ย.แล้ว เก็บเงินย้อนหลังได้ รายได้รวมโตเกิน 20% (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* GUNKUL ไอพีโอ 5.40 บ. มั่นใจหุ้นขายเกลี้ยงสถาบันจองล้น 5 เท่า "กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง" เคาะราคาไอพีโอ 5.40 บาท นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจองล้น 5 เท่า และมีส่วนลดประมาณ 20% จากราคาที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ "กัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์" ระบุอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการถือหุ้น GUNKUL เพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่สดใสด้วยกัน บล.ทิสโก้ มั่นใจเปิดจอง 11-13 ต.ค. 2553 นี้ (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* SEAFCO การันตีไตรมาส 3 พลิกกำไร อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัว การเมืองทำส่งมอบงานช้า SEAFCO ส่งซิกไตรมาส 3/53 ผลประกอบการพลิกเป็นกำไร หลังไตรมาส 2/53 ขาดทุน เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้น ประมูลงานใหม่เพียบ ส่วนทั้งปี 2553 มีกำไรหรือไม่ต้องรอลุ้นผลงาน Q4/53 ก่อนด้านรายได้พลาดเป้า 2 พันล้านบาท หลังโดนผลกระทบทางการเมืองรุนแรง ส่งมอบงานล่าช้า (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
* ROJNAขายที่ดินทะลุเป้า 500 ไร่ ซุ่มเจรจาขายที่ดินกลุ่มยานยนต์-อิเล็กฯอีกเพียบ "โรจนะ" ยอดขายที่ดินพุ่ง 500 ไร่ บรรลุเป้าหมายทั้งปีแล้วหลังเซ็นสัญญาขายที่ดิน 300 ไร่ให้กับกัลฟ์ เจพี พร้อมซุ่มเจรจาขายที่ดินให้ลูกค้าอยู่หลายรายในกลุ่มยานยนต์-อิเล็กทรอนิกส์ คาดถึงสิ้นปีนี้มียอดขายที่ดินเข้ามาอีกเพียบ รับอานิสงส์แนวโน้มการลงทุนสดใส โบรกฯแนะ "ถือ" ราคาพื้นฐานที่ 13.18 บาท (ที่มา: ข่าวหุ้น 8-10-2010)
ข่าวต่างประเทศ
* สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงเกินคาด 11,000 ราย กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ต.ค.ร่วงลง 11,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 445,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 455,000 ราย ส่วนจำนวนผู้รับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ปรับตัวลง 3,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 455,750 ราย ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 08-10-2010)
* สหรัฐอเมริกา: สติกลิทซ์เตือนศก.สหรัฐโตช้าอาจกระทบตลาดแรงงาน เหน็บอัตราว่างงานสูงอาจกลายเป็นเรื่องปกติ โจเซฟ สติกลิทซ์ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ กล่าวแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม World Business Forum ครั้งที่ 7 ที่นิวยอร์กว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐยังสามารถขยายตัวต่อไปได้ แต่ก็ช้าเกินกว่าที่จะกระตุ้นการจ้างงานให้เพิ่มขึ้น และอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงอาจจะกลายเป็นสถานการณ์ที่ปกติในสหรัฐในไม่ช้านี้ สติกลิทซ์เตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความเสี่ยง และอาจจะเสี่ยงถึงขึ้นที่ต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืดเหมือนในญี่ปุ่น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-10-2010)
* สหรัฐอเมริกา: IMF คาดเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวต่อปีที่ระดับ 2.6% ปีนี้ และ 2.3% ปีหน้า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐจะมีอัตราการขยายตัวต่อปีที่ระดับ 2.6% ในปีนี้และ 2.3% ในปีหน้า รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook หรือ WEO) ของไอเอ็มเอฟระบุว่า อัตราว่างงานของสหรัฐคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 9.7% ในปีนี้ และ 9.6% ในปีหน้า ขณะที่กระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานของสหรัฐที่ขยับขึ้นแตะ 9.6% ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา (ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-10-2010)
* จีน: IMF คาดเศรษฐกิจจีนขยายตัว 10.5% ปีนี้ ก่อนชะลอเหลือ 9.6% ปีหน้า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเฉลี่ย 10.5% ในปี 2553 และ 9.6% ในปี 2554 โดยได้รับแรงหนุนจากดีมานด์ในประเทศ "กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับปานกลางในช่วงนี้น่าจะดำเนินต่อไปจนถึงปีหน้า อันเป็นผลมาจากการใช้มาตรการคุมเข้มเชิงปริมาณสำหรับการปล่อยสินเชื่อ มาตรการชะลอความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และแผนลดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2554" ไอเอ็มเอฟระบุในรายงาน รายงานดังกล่าวระบุว่ายอดค้าปลีกและผลผลิตอุตสาหกรรมที่ขยายตัวต่อเนื่องในปีนี้เป็นเครื่องยืนยันว่ากิจกรรมภาคเอกชนมีอิทธิพลเหนือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล (ที่มา:อินโฟเควสท์ 07-10-2010)
* เอเชีย: ญี่ปุ่นเผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ย.ร่วง 5.8% กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนกันยายนของญี่ปุ่นร่วงลง 5.8% แตะระดับ 1.1142 ล้านล้านเยน เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดด้านการค้าและการบริการอยู่ที่ระดับ 1.01 แสนล้านในเดือนดังกล่าว ทั้งนี้ ยอดบัญชีเดินสะพัดเป็นมาตรวัดที่ครอบคลุมถึงมูลค่าการค้า ส่วนต่างของรายได้จากแหล่งเงินทุนต่างประเทศและ หนี้สินต่างประเทศ โดยไม่นับรวมเงินลงทุนสุทธิ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 08-10-2010)
* เอเชีย: IMF หั่นคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นลงเหลือ 1.5% ปี 54 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2554 ลงเหลือ 1.5% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก ส่วนในปี 2553 IMF ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นขึ้นเป็น2.8% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 2.4% เนื่องจากการฟื้นตัวของการส่งออกในช่วงต้นปี ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศตะวันตกและดีมานด์ในสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้นในจีน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-10-2010)