ศุกร์ 15 ต.ค.--Daily Focus :
ที่มา : บมจ.ฟินันเซีย ไซรัส

Today's Report : KCE, TISCO
Our Portfolio Oct 2010 : BANPU, PTTEP, SCB, TUF, STEC
แถว 1000 จุดหรือสูงกว่า ต้องระวังการผันผวนและย้อนลงเป็นลบด้วย!!
     แนวโน้ม : แม้ว่านักลงทุนต่างประเทศจะยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องด้วยปริมาณที่ไม่ได้ลดหย่อนลง ส่งผลให้ SET ยังสามารถบวกขึ้นต่อเนื่องได้ดีแต่ความกังวลต่อค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องและอาจส่งผลให้แบงก์ชาติต้องตัดสินใจออกมาตรการควบคุมค่าเงินที่เข้มข้นมากขึ้น ทำให้ FSS คาดว่า SET จะแกว่งขึ้นในลักษณะผันผวน และมีโอกาสที่จะปรับพักตัวลงไปเคลื่อนไหวในด้านลบได้ โดยเฉพาะช่วงนี้นักลงทุนบางส่วนอาจเลือกที่จะรอดูผลการประชุมของกนง. ในวันพุธหน้า(20 ต.ค.) ว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาหรือไม่ โดยเรามองกรอบดัชนีช่วงนี้ไว้ที่ 960-1010 จุด ดังนั้นที่ระดับดัชนี 1000 จุดหรือสูงกว่าจึงต้องตามระวังแรงขายกดดันให้ SET ย้อนกลับลงไปแถว 980-960 จุดไว้ด้วยกลยุทธ์: ช่วงนี้ตลาดขยับขึ้นจึงควรแบ่งส่วนขายทำกำไรบ้าง และจังหวะกลับเข้าซื้อยังสามารถรอช่วงตลาดปรับพักตัวลงก่อนได้ ซึ่งหุ้นที่ยังน่าสนใจได้แก่ PTTEP, PTT, PTTCH, PTTAR, BANPU, SCB, BBL, KBANK, ITD, CK, STEC, SEAFCO, SPALI เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
     (+) ประเทศในเอเชียแทรกแซงค่าเงินแต่ไม่เป็นผล นายกฯ ยันไม่แทรกแซงค่าเงิน ส่วน 'กรณ์' ยันไม่มีมาตรการภาษีคุมเงินทุนไหลเข้า ขณะที่'วีรพงษ์' แนะลดดอกเบี้ย 20 ต.ค. นี้ ธนาคารกลางเกาหลีประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน กันไม่ให้ค่าเงินแข็งขึ้นแรง ส่วนสิงคโปร์ไม่สามารถทนต่อเงินนอกที่ทะลักเข้ามาก ประกอบกับเงินเฟ้อมีแนวโน้มพุ่ง (สิงคโปร์ใช้ค่าเงินในการบริหารเงินเฟ้อ ไม่ได้ใช้ดอกเบี้ย)ยอมขยายแบรนด์ค่าเงิน ทำให้เงินดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.2886 ดอลลาร์สิงคโปร์ : 1USD มาตรการต่างๆ แทบไม่เป็นผล ปัญหาอยู่ที่ดอลลาร์ที่เสื่อมค่า ไม่ได้อยู่ที่ความผิดปกติค่าเงินในเอเชียการเคลื่อนย้ายเงินทุนจะยังไหลเข้าเอเชียต่อเนื่อง ส่วนความหวัง QE2 ก็ยังทำให้ตลาดหุ้นและ Commodity ปรับขึ้นได้ต่อ
     (+) BANPU ราคาหุ้นลงสวนตลาด และสวนทางพื้นฐานที่ดีขึ้น วันนี้บริษัทได้หุ้น Centennial 98% และแบงก์อนุมัติเงินกู้แล้ว เป็นโอกาสในการซื้อเป้าหมาย 860 บาท
     (-) KCE มุมมองต่อกำไรใน 2H10 แย่ลงเพราะปัญหาขาดแคลนไฟเบอร์กลาส รวมถึงราคาทองแดงที่แพงขึ้นมาก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีอยู่ถึง 1Q11 เราจึงปรับประมาณการปีนี้ลง 4% ปีหน้าลง 12% ทำให้กำไรในปีหน้าโต 6% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะโต 15% ราคาเป้าหมายจึงลดลงเหลือ 12.50 บาทแต่ยังมี upside 43.7% จึงแนะนำซื้อ
     Fund Flow วานนี้กลับมาไหลเข้าซื้อหุ้นในตลาดภูมิภาคเป็นจำนวนมากกว่าปกติหลังจากที่ 2 วันที่ผ่านมาขายสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาค สาเหตุหลักน่าจะเป็นเพราะการออกมาตรการสกัดเงินทุนไหลเข้าเป็นยาที่ไม่แรง ขณะที่สิงคโปร์กลับใช้นโยบายการเงินแบบเข็มงวดเพื่อเพิ่มช่วงการซื้อขายเงินสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดมาก ธนาคารเกาหลีใต้ก็คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% สำหรับแนวโน้มวันนี้คาดว่ากระแสเงินทุนจากต่างชาติน่าจะยังไหลเข้าต่อเนื่อง แต่ปริมาณอาจชะลอตัว เพราะค่าเงินบาทและค่าเงินเอเชียเช้านี้ยังแข็งค่าต่อเนื่องจากวานนี้ แต่ตลาดอาจปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาดอย่างไรก็ตามเรา
ยังเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มบูลชิพ
     * เมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์เน้นหนักทางด้านแกว่งตัวลบ ก่อนที่จะดีดขึ้นมาปิดเป็นลบไปเพียง 1.51 จุด โดยหุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดลงจากความกังวลต่อวิกฤตการณ์ยึดทรัพย์จำนองที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธนาคารต่างๆ ในสหรัฐได้ รวมทั้งตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเกินคาดด้วย
     * ตลาดหุ้นในยุโรปปิดลดลง จากหุ้นกลุ่มแบงก์เช่นกันตามตลาดสหรัฐ รวมทั้งวิตกต่อการดำรงเงิน
กองทุนของแบงก์
     * ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดลดลงตามสหรัฐและยุโรป จากความกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก
     * ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดลบ 0.32 ดอลลาร์อยู่ที่ 82.69 ดอลลาร์ จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังอ่อนแอ
     * ราคาทองคำ COMEX เดือน ธ.ค. ปิดบวก 7.10 ดอลล์ อยู่ที่ 1,377.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนลงต่อเนื่อง
     * BDI Index ปิดที่ 2769 จุดบวกอีก 21 จุด โดยบวกขึ้นมาแล้วกว่า 13% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวภายในประเทศ
     * โกร่งเสนอลดดอก 0.75 อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ แบงก์ชาติโต้นโยบายการเงินถูกแล้ว "กรณ์" พร้อมใช้ยาแรง "วีรพงษ์" แนะวิธีดูแลค่าบาทให้แบงก์ชาติ 2 วิธี อย่างแรกลดดอกเบี้ยนโยบายลงทันที  0.75% และกลับมาใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ หรือ Fix Rate หยุดเงินทุนนอกไหลเข้า หวั่นหากช้าบาทแตะ 25 เกิดต้มยำกุ้งรอบ 2 ด้านแบงก์ชาติยืนยันนโยบายการเงินภายใต้เป้าเงินเฟ้อเหมาะสมแล้ว ขณะที่ "กรณ์" หารือแบงก์ชาติใช้ยาแรง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 15-10-2010)
     * GLOBAL ยันรายได้ปีนี้โต 30% ปลายปีผุดเพิ่ม 2 สาขา สิ้นปีนี้มั่นใจครบ 12 สาขา GLOBALมั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 25-30% ปลายปีเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาที่ จ.มหาสารคาม และหนองคาย เชื่อปีนี้ขยายตามเป้าครบ 12 สาขา พร้อมรับอานิสงส์บาทแข็งลดต้นทุนนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศส่วนปีหน้าทุ่มงบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ขยายเพิ่ม 4 สาขา เชื่อดันรายได้โต 20-25% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 15-10-2010)
     * TTW กำไร Q3 ทะลัก 545 ล้านรับกำลังผลิตเพิ่ม-ยอดใช้น้ำพุ่ง TTW ลั่นไตรมาส 3/53 กำไรสุทธิ 545 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ขานรับกำลังการผลิตใหม่เดินเครื่อง ยอดการใช้น้ำพุ่ง ย้ำเป้าทั้งปีขยายตัว 10% เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารทะเล แถมอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นไข้ โบรกฯ ฟันธงปีนี้ควักกระเป๋าจ่ายเงินปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น ระหว่างกาลจ่าย 0.15 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 15-10-2010)
     * ทริสลดเกรด DTC ให้มุมมอง "เชิงลบ" การท่องเที่ยวขาลง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตองค์กรให้แก่ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด(มหาชน) หรือ DTC ที่ ระดับ "A-" ด้วยแนวโน้ม "Negative" หรือ "ลบ" โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงชื่อเสียงของบริษัทในฐานะเป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยและฐานะการเงินที่แข็งแกร่งจากการมีภาระหนี้ที่ต่ำ ทั้งนี้ ในการจัดอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงกลุ่มโรงแรมของบริษัทที่กระจายตัวอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ตลอดจนผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และศักยภาพในการขยายสู่ธุรกิจบริหารโรงแรม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 15-10-2010)
     * WORK - MAJOR ขึ้นแท่นเด่น เม็ดเงินโฆษณาท่วม หนุนกำไร Q3 โตกระฉูด เม็ดเงินโฆษณาไหลท่วมทีวี-โรงภาพยนตร์ หนุน WORK โชว์กำไรไตรมาส 3 พุ่ง 84 ล้านบาท เติบโตถึง 270% วงการชี้ ไตรมาส 4 ยังไปได้สวย เวลาออกอากาศแน่นเอี้ยด ฟาก MAJOR ธุรกิจขาขึ้น กำไรไตรมาส 3 แตะ 200 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 15-10-2010)
     * ADVANC เงินสดล้นปันผลทั้งปี 9.80 บาท DTAC โชว์กำไร Q3 กำไร 80% เชื่อไม่ตกขบวน 3 จี ทีโอที ค่ายมือถือรุกทำ 3 จี ทีโอที-เอชเอสพีเอ ทดแทนไลเซนส์ 3 จี กทช.เน้นนอนวอยซ์เต็มที่ เชื่อ ADVANC ฐานะการเงินแข็งแกร่งสุด เงินสด 25,000 ล้านบาท ปันผลทั้งปี 9.80 บาทผลตอบแทนสูงลิ่ว 12% ส่วนกำไรสุทธิปีนี้ 4,900 ล้านบาท หุ้นราคาถูกน่าสน ส่วน DTAC แรงไม่น้อยกำไร Q3 เฉียด 2,900 ล้านบาท โตจากปีก่อน80% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 15-10-2010)
     * SLC ล้างขาดทุนสะสมหมดปีหน้า การันตีจ่ายเงินปันผลทันที เล็งดึง "ฉาย" นั่งบริหาร SLC เตรียมล้างขาดทุนสะสม 30 ล้านบาทหมดในปีหน้าพร้อมจ่ายเงินปันผลทันที ส่วนการขายหุ้นเพิ่มทุน 2.42 พันล้านหุ้น เผยผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 รายการันตีหากหุ้นไม่หมดรับซื้อเอง เล็งดึง "ฉาย บุนนาค" นั่งบริหาร หวังเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจ ส่วนปีนี้ยอมรับยังขาดทุน แต่ลดลงจากปีก่อน เล็งเทกโอเวอร์ธุรกิจหนังสือพิมพ์สรุปปลายปีนี้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น15-10-2010)
ข่าวต่างประเทศ
     * สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนส.ค.พุ่ง 8.8% หลังมูลค่าการนำเข้าสินค้าทะยาน กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่ายอดขาดดุลการค้าเดือนสิงหาคมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.8% จากเดือนกรกฎาคม แตะระดับ 4.63 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าสินค้าของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น รายงานของกระทรวงระบุว่า มูลค่าการนำเข้าสินค้าเดือนสิงหาคมพุ่งขึ้น 2.1% สู่ระดับ สู่ระดับ 2.002 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากการนำเข้าอาหาร เคมีภัณฑ์ และ ผลิตภัณฑ์อื่นเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการของสหรัฐขยับขึ้น 0.2% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 1.539 แสนล้านดอลลาร์ ทำสถิติสูงสูงสุดในรอบ 2 ปี เพราะได้แรงหนุนจากยอดขายสินค้าเกษตรและอื่นๆ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 15-10-2010)
     * สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วพุ่งเกินคาด 13,000 ราย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 9 ต.ค. พุ่งขึ้น 13,000 ราย แตะระดับ 462,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 445,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ พุ่งขึ้น 2,250 ราย แตะระดับ 459,000 ราย (ที่มา: อินโฟเควสท์ 15-10-2010)
     * สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเกินคาด 0.4% หลังราคาพลังงานพุ่ง กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% เนื่องจากต้นทุนราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง0.2% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.1% เนื่องจากต้นทุนราคายานยนต์ปรับตัวสูงขึ้น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 15-10-2010)
     * จีน: จีนเผยราคาอสังหาริมทรัพย์เดือนก.ย.พุ่งขึ้น 9.1% หลังรบ.ควบคุมเก็งกำไรตลาดอสังหาฯ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS)รายงานในวันนี้ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ใน 70 เมืองขนาดใหญ่ของจีนประจำเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 9.1% จากปีที่แล้ว หลังจากรัฐบาลจีนขยายมาตรการควบคุมการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และจำกัดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดภาวะฟองสบู่ในระบบเศรษฐกิจของจีน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 15-10-2010)