อังคาร 12 ต.ค.--รู้ทันหุ้น :
ที่มา : บมจ.เคจีไอ

แนะนำซื้อช่วงตลาดหุ้นย่อลง
     KGI ประเมินหุ้นไทยวันอังคารมีช่วงย่อหลังพุ่งแรงเกินคาดเมื่อวานนี้ ให้เข้าซื้อช่วงอ่อนตัว โดยจิตวิทยาต่างประเทศเป็นกลาง เนื่องจากความคาดหวังต่อมาตรการซื้อสินทรัพย์ของธ. กลางสหรัฐฯ (QE) เข้าไปอยู่ในราคาหุ้นค่อนข้างมาก ส่งผลให้ QE ทำได้เพียงประคองหุ้นสหรัฐฯ ให้ทรงตัวแต่ไม่ได้วิ่งแรงแต่อย่างใด เรามองว่าจนถึงการประชุมเฟดในวันที่ 2-3 พ.ย. นี้นั้น การตอบสนองของตลาดหุ้นโลกต่อ QE จะน้อยลง (คือยังเป็นข่าวบวกอยู่แต่ไม่มาก) โดยขนาดการซื้อสินทรัพย์และเงื่อนเวลาในการเข้าซื้อ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องตามในต้นเดือน พ.ย. และจะเป็นตัวกำหนดว่าหุ้นโลกจะขึ้นต่อไปเลย หรือจะมีแรงขายรับข่าวออกหนึ่งรอบก่อนจะปรับตัวขึ้น
     ส่วนปัจจัยเด่นในประเทศยังเป็นมาตรการภาษีพันธบัตร 15% ซึ่งรัฐบาลพยายามจะนำเข้า ครม. ให้ทันในวันนี้ โดยยังมีความไม่ชัดเจนใน 2-3 ประเด็นกล่าวคือ i) จะเป็นการเก็บภาษีกำไรหรือภาษีดอกเบี้ย ii) จะใช้มาตรการยาวนานแค่ไหน และ iii) การเก็บภาษีดังกล่าวทำได้หรือไม่ หลังมีข่าวใน นสพ. ข่าวหุ้นว่ากรมสรรพากรชี้ว่าการเก็บภาษีบริษัทข้ามชาตินั้นเป็นการเก็บภาษีซ้อน อย่างไรก็ดี ภาพใหญ่ของตลาดหุ้นยังเป็นทางขึ้น เนื่องจากค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าจะไม่มีมาตรการคุมตลาดหุ้น และมาตรการใดๆ สำหรับตลาดพันธบัตรนั้นไม่น่าจะเปลี่ยนทิศทางของบาทแข็งจากดอลล่าร์ฯ อ่อน แต่อย่างใด
     กลยุทธ์ : รอซื้อหุ้นใหญ่ในกลุ่มธนาคารและพลังงานในช่วงปรับฐาน (ถ้าไม่ลงให้รอ ไม่แนะให้ซื้อ) มองแนวรับที่ 972-970 จุด และถัดไปที่ 963 จุด ในเชิงกลยุทธ์มองว่าหุ้นธนาคารขนาดเล็กจะมีจิตวิทยาที่ดี หลัง TISCO* แจ้งกำไรไตรมาส 3/53 ดีกว่าที่คาด 7% ออกมาที่ 730 ล้านบาท   
ความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
     CK เตรียมเซ็นสัญญาในโครงการฝายน้ำล้นไซยะบุรี มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาทในช่วงเดือนต.ค-พ.ย นี้ : การเซ็นสัญญาดังกล่าว คาดจะช่วยหนุนให้มูลค่างานในมือ ณ สิ้นปี 2553 เติบโตสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1 แสนล้านบาท เปรียบเทียบกับมูลค่างานในช่วงครี่งปี 2553 ที่ระดับ 12,346 ล้านบาท ทั้งนี้ การเซ็นสัญญาที่เกิดขึ้นเป็นไปตามคาดการณ์ และทำให้การรับรู้รายได้ในช่วง 8 ปีข้างหน้าของบริษัทเติบโตมั่นคง  โดยเราประเมินรายได้ปี 2554 จะเพิ่มขึ้นโดดเด่นถึง 151% YoY เป็น 16,007 ล้านบาท และส่งผลต่อเนื่องให้ผลการดำเนินงานปี 2554 พลิกจากแนวโน้มรายงานผลขาดทุนที่ 190 ล้านบาทในปี 2553 เป็นกำไรสุทธิ 920 ล้านบาท ดังนั้น แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมปี 2554 เท่ากับ 11.50 บาท/หุ้น
     กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCB* กรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กล่าวว่าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อจะอยู่ในช่วง 7-10% ในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 7-8 หมื่นล้านบาท ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยเป็นการขยายตัวในทุกอุตสาหกรรม  SCB ตั้งเป้าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อปีนี้ไว้ที่ 7.5% และ NIM 3.5% ซึ่งคาดว่าน่าจะไปถึงได้ (ที่มา: The Nation) ทาง KGI คาดว่าอัตราการขยายตัวสินเชื่อและ NIM ของ SCB จะอยู่ที่ 7.4% และ 3.46% ตามลำดับ เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ SCB โดยมีราคาเป้าหมายที่ 108.50 บาท (PBV ที่ 2.2x, BVPS ที่ 48.80 บาท สำหรับประมาณการผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2554)
     AP เตรียมเปิด 2 คอนโด ภายใต้แบรนด์ใหม่ "Aspire" โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นราชการพลเรือน Apire พระราม 4 ตั้งอยู่บนถนนอาจณรงค์ ใกล้กรมศุลกากร และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ประกอบไปด้วย 1,432 ยูนิต ขนาด 28-46.5 ตรม. ราคาเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท Apire งามวงศ์วาน อยู่ใกล้ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ประกอบไปด้วย 1,458 ยูนิต ขนาด 28-29.5 ตรม. ราคาเริ่มต้น 1.36 ล้านบาท ทั้ง 2 โครงการใหม่จะเปิดตัวในช่วงเดือน พ.ย. และธ.ค. นี้ คงคำแนะนำซื้อ AP ราคาเป้าหมาย 9.10 บาท
     มิตซูบิชิมอเตอร์ (ประเทศไทย) ขอความร่วมมือจากผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้ลดราคาชิ้นส่วนฯลง 5-10% เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน  หลังจากกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เราประเมินว่าการร้องขอความร่วมมือของมิตซูบิชินั้นสมเหตุสมผล และไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบของผู้ผลิตชิ้นส่วนฯนั้นได้รับอานิสงค์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเช่นกัน เรายังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มฯ "เท่ากับตลาด"
จิตวิทยาตลาดวันนี้:  --- กรอบดัชนี SET ที่ 963-979 จุด
     ดัชนี SET มีต้านสั้นที่ 979 จุด ปิดเหนือต้าน 979 จุดได้ จะเกิดแรงผลักขึ้นทดสอบต้านที่ 987 จุด และอาจดีดสู่ต้านที่ 995 จุดได้ตามลำดับ แต่หาก SET ยืนเหนือต้าน 979 จุดไม่ได้ จะอ่อนลงสู่รับสั้นที่ 963 จุด.
     แนวรับวันนี้:          963/956              แนวต้านวันนี้:         979/987/995
     แนวโน้มดัชนี SET ระยะกลาง:  จะเริ่มต้นขาลง ?  เป้าหมายระยะกลาง:    875/---