พุธ 13 ต.ค.--Daily Focus :
ที่มา : บมจ.ฟินันเซีย ไซรัส

Today's Report : Special report, Entertain sector, CPF, KK
Our Portfolio Oct 2010 : BANPU, PTTEP, SCB, TUF, STEC
ยังลุ้นตลาดแกว่งขึ้นได้โดยจุดถัดไปที่ต้องระวังแรงขายคือ 986-996 !!
     แนวโน้ม: คาดว่า SET จะยังคงแกว่งตัวผันผวนขึ้น-ลงภายในกรอบ 970-980 จุด อยู่ หลังมาตรการของกระทรวงการคลังยังไม่สามารถทำให้ค่าเงินบาทชะลอการแข็งค่าลงได้ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนยังกังวลต่อมาตรการของแบงก์ชาติที่อาจจะต้องมีออกมากดดันค่าเงินบาทอีกครั้ง แม้ว่าล่าสุดเมื่อวานนี้หลังการประชุมนัดพิเศษของ กนง. จากแบงก์ชาติจะยังไม่มีข้อสรุปเรื่องมาตรการใดๆ ออกมา โดยกล่าวเพียงว่าจะรอดูผลของมาตรการจากคลังก่อนว่าจะสามารถชะลอการแข็งค่าของเงินบาทได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม FSS ยังมองว่าเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างประเทศจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะเข้ามาในตลาดหุ้นมากขึ้นได้ หลังทางการเรียกเก็บภาษีในตลาดพันธบัตร ดังนั้นจังหวะอ่อนตัวลงของตลาดเราจึงยังมองเป็นจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้ออยู่เช่นเดิม
     กลยุทธ์ : หุ้นที่ยังน่าสนใจเทรดดิ้งในช่วงนี้ได้แก่ SCB, KBANK, BBL, CK, STEC, ITD, TASCO, TTCL, AMATA, IRPC, ESSO, PTTEP, PTTAR, BANPU, BCP, GLOW, SEAFCO, SITHAI, VNG, KCE, HANA, CCET เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
     (0) ธ.กลางในเอเชียส่งสัญญาณแทรกแซงค่าเงิน การเก็บภาษี ณ ที่จ่าย 15% สำหรับพันธบัตรที่ถือโดยต่างชาติ (หลังจากยกเว้นเฉพาะต่างชาติมา 3 ปี) เริ่มวันนี้ เป็นการบ่งบอกว่ารัฐบาลได้เข้ามาทำอะไรบ้าง แต่ได้ผลน้อยในทางปฏิบัติเพราะปริมาณการซื้อขายของต่างชาติคิดเป็นเพียง 3.5% ของมูลค่าตลาดพันธบัตร และเม็ดเงินที่จะไหลออกจากพันธบัตรมาเข้าตลาดหุ้นก็อาจมีจำกัดเพราะมาตรการไม่มีผลย้อนหลังกับผู้ที่ถือพันธบัตรอยู่แล้ว(แต่อย่างน้อยก็ไม่เป็นลบกับตลาดหุ้น) จะเห็นว่าวานนี้ค่าเงินบาทก็ยังแข็งค่าต่อ แต่หุ้นไทยตอบสนองในทางลบเพราะธ.กลางเอเชียเริ่มส่งสัญญาณแทรกแซงค่าเงิน
     (+) รายงานการประชุม Fed ชี้ว่า Fed ใกล้จะออกมาตรการ QE2 ใน ต้นเดือนหน้า แม้สมาชิกบางคนจะไม่เห็นด้วยแต่ทั้งประธานและรองประธานFed ค่อนข้างเห็นด้วยกับการเพิ่มสภาพคล่องให้ระบบ และแม้ว่าราคาของสินทรัพย์เสี่ยง (หุ้น น้ำมัน ทอง) จะปรับตัวขึ้นไปสะท้อนข่าวดังกล่าวล่วงหน้าไปบ้างแล้ว แต่เชื่อว่าหาก QE2 มีปริมาณไม่น้อยจนเกินไป ตลาดหุ้นในเอเชียยังจะปรับขึ้นไปได้อีกในระยะถัดไป
     (0) นายกฯ ยืนยันไม่ปรับ ครม. แม้ไม่พอใจผลงานของ รมว. บางคน
     (0) CPF คาดกำไร 3Q10 เพิ่มเล็กน้อย 2.4% Q-Q และเป็นกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนจะลดลง 25% - 30% Q-Q ใน 4Q10 ตามฤดูกาล กำไรปีหน้าคาดโตเพียง 3% เรายังคงเป้าหมาย 25 บาท และแนะนำเพียงถือ
     Fund Flow วานนี้ไหลออกตลาดหุ้นภูมิภาคเป็นครั้งแรก หลังไหลเข้าต่อเนื่อง 22 วันติดต่อกัน แต่ปริมาณไม่มาก ซึ่งเราถือว่าเป็นปกติที่จะเกิดการขายทำกำไรระยะสั้นบาง เนื่องจากความตึงเครียดเกี่ยวกับการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของสกุลเงินในภูมิภาคเอเชียอาจนำไปสู่การออกมาตรการสกัดกั้นกระแสเงินทุนไหลเข้าได้ ประกอบกับนักลงทุนส่วนใหญ่ยังเฝ้ารอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐที่คาดว่าจะประกาศอัดฉีดเม็ดเงินในไม่ช้านี้หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าอ่อนแอ หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้อยู่เชื่อว่า Fund Flow ยังไหลเข้าแม้จะชะลอตัวบาง ค่าเงินบาทเช้านี้ก็ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง มาตรการลดผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งเป็นแค่น้ำจิ้มทำให้ไม่สามารถผืนกระแสตลาดได้
     * ดัชนีดาวโจนส์ดีดกลับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนแถว 11053 จุดได้ในช่วงท้ายชั่วโมงการซื้อขาย ก่อนจะหย่อนลงมาปิดที่ 11020 จุดโดยเป็นบวก 10.06 จุด หลังแนวโน้มการจ้างงานที่ลดลงในเดือน ก.ย. ยังสนับสนุนโอกาสที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะที่ผลประกอบการของ อินเทล คอร์ป ดีตามคาด
     * ตลาดหุ้นในยุโรปปรับตัวลง จากแรงขายในหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะอ่อนตัวลง
     * ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงอีก 0.54 ดอลลาร์อยู่ที่81.67 ดอลลาร์ หลังกลุ่มโอเปกส่งสัญญาณว่าจะตรึงเป้าหมายการผลิตไว้ตามเดิม
     * ราคาทองคำ COMEX เดือน ธ.ค. ปรับลดลง 7.70 ดอลล์ อยู่ที่ 1,346.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังยังไม่มีความชัดเจนจากเฟดเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
     * BDI Index ปิดที่ 2719 จุดกลับมาบวก 24 จุด โดยเป็นการกลับมาบวกขึ้นต่อเนื่องอีกครั้งหลังชะลอตัวไปวันก่อน
ข่าวภายในประเทศ
     * DTAC ข้ามห้วยซบทีโอที ดิ้นพล่านกลัวตกขบวน 3G มั่นใจสัปดาห์นี้ได้ข้อสรุป ึ มึนกสทฯ ขาดทุน 1.6 พันล้าน "ดีแทค" ลั่นไม่รอเอชเอสพีเอแล้ว เดินหน้าเจรจาทีโอทีทำ 3 จีบนคลื่น 1900 ให้เสร็จสัปดาห์นี้ รับทนรอ กสทฯ เดินเครื่องไม่ไหว หากช้าเดินตามหลัง AIS อีกก้าวแน่ "จิรายุทธ" อ้างทุกอย่างช้าเพราะติดขัดประเด็นข้อกฎหมายคณะกรรมการมาตรา 22 ขอเอกสารเพิ่ม ขณะที่ 8 เดือน กสทฯขาดทุนบักโกรก 1,680 ล้านบาท ทั้งที่รับค่าสัมปทานไปกว่า 18,600 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-10-2010)
     * DELTA เด่นยุโรปซื้อโซลาร์ทะลัก DELTA ลอยลำธุรกิจโซลาร์เซลล์เติบโตเกินคาด "อนุสรณ์" ลั่นยุโรปลุยออเดอร์งานเข้าเพียบ ชี้ไตรมาส 3 งบสวยหรูไม่เลิก ฟากวงการชี้ธุรกิจโซลาร์ไปได้สวย ยิ่งหนุนบริษัทเติบโตก้าวกระโดดในระยะยาว เชื่อกำไรไตรมาส 3 พุ่งทะลุเกิน 1,000 ล้านบาท อัพไซด์เหลือบาน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-10-2010)
     * GSTEEL แก้เงื่อนไขโปรแกรมบอนด์มีเฮไดลูทน้อยลง GSTEEL ปรับโปรแกรมBonds Exchange Program ใหม่ เอาใจเจ้าหนี้ งานนี้ขอเจรจากับเจ้าหนี้หุ้นกู้โดยตรง ส่วนผู้ถือหุ้นเตรียมเฮปรับใหม่ไดลูทน้อยกว่าเดิม ด้านกำลังผลิตไตรมาส 4 กลับมา 70% หลังเจ้าหนี้การค้าหนุนวัตถุดิบ พร้อมผลิตเหล็กในช่วงค่าไฟถูก ลดค่าใช้จ่ายได้ 400 ล้านบาทต่อปี ส่วนไตรมาส 3 ไม่มีตั้งสำรองหนี้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-10-2010)
     * LOXLEY กำไรทะลักดันบุ๊คแวลูพรวด 4 บ. LOXLEY ไตรมาส 3 กำไรพุ่ง 150 ล้านบาท หลังธุรกิจอยู่ช่วงขาขึ้น แถมเป็นผู้เช่าใช้โครงข่ายและทำตลาดในระบบ 3G บนเครือข่ายของทีโอที กูรูมั่นใจปีนี้ล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง หลังตั้งสำรองผลขาดทุนทางบัญชีจากการถือ TT&T แล้ว พลิกปันผลรอบ 3 ปี กำไรปีนี้ทะลุ 500 ล้านบาท ดันบุ๊คแวลูพุ่ง 4 บาท หากชนะคดีหวยออนไลน์บุ๊คปรับเพิ่มอีก 2.74 บาท รวม 6.74 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-10-2010)
     * TVOแรงดีพุ่ง 4.67% หลังโรดโชว์สิงคโปร์เชียร์ซื้อเป้า 29 บาท TVO วิ่งแรงสวนตลาด วานนี้พุ่ง 4.67% ก่อนปิดตลาด 25.75 บาท เชื่อกระแสตอบรับดีหลังโรดโชว์สิงคโปร์ พร้อมรับอานิสงส์บาทแข็ง โบรกฯ เชียร์ซื้อราคาเป้าหมาย 29 บาท คาดปันผลสูง 8% ส่วนแนวโน้มราคาถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้นตามดีมานด์ทั่วโลก เชื่อกำไรเติบโตในระดับ 17% ในช่วง 2 ปีข้างหน้า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-10-2010)
     * กลุ่มมาลีนนท์รับเละ 3,782 ล้าน บิ๊กล็อตขาย BEC 111 ล้านหุ้น หวังเพิ่มสภาพคล่อง "กลุ่มมาลีนนท์" รวยเละ 3,782 ล้านบาท ปล่อยบิ๊กล็อต BEC 111 ล้านหุ้น ด้าน "ฉัตรชัย" แจงผู้บริหารขายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องหุ้น พร้อมย้ำกลุ่มมาลีนนท์ไม่ขายเพิ่มอีกแน่ หลังเหลือหุ้นอยู่ในมือเพียง 51% ย้ำราคาขาย 34 บาท ต่ำกว่ากระดานเป็นเรื่องปกติที่ต้องให้ส่วนลด โบรกฯเชื่อธุรกิจขาขึ้น คาดกำไรปีนี้ทะลุ 3,000 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-10-2010)
     * SMT ปันผลครึ่งปีเกิน 0.14 บาท เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นพ.ย.นี้ SMT ส่งซิกปันผลครึ่งแรกปีนี้มากกว่า 0.14 บาท มั่นใจกำไรทั้งปีเติบโต 80% เตรียมขอมติผู้ถือหุ้นพ.ย.นี้ ส่วนไตรมาส 3 ดีกว่าไตรมาส 2 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจอิเล็คทรอนิกส์ ทุ่ม 300 กว่าล้านบาท ขยายธุรกิจส่งออกปีหน้า ร่วมกับพันธมิตร 3-4 ราย เสริมความแข็งแกร่งให้ปีหน้า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-10-2010)
ข่าวต่างประเทศ
     * ยุโรป: เยอรมนีเผยเงินเฟ้อเดือนก.ย.ขยับขึ้น 1.3% หลังราคาอาหาร-พลังงานสูงขึ้น สำนักงานสถิติเยอรมนีเปิดเผยว่า เงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนก.ย.ขยับขึ้น 1.3% หลังจากที่ราคาอาหารและพลังงานสูงขึ้น โดยราคาพลังงานพุ่งขึ้น 4.6% ส่วนราคาอาหารสูงขึ้น 3% อย่างไรก็ดี ตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% หากไม่นับรวมราคาพลังงานและอาหาร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของค่าใช้จ่ายในครัวเรือนแล้วอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีจะอยู่ที่ 0.7% เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารกลางยุโรปคาดว่า อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร จะอยู่ที่ประมาณ 1.6% ในปีนี้ และ 1.7% ในปีหน้า (ที่มา: อินโฟเควสท์ 12-10-2010)
     * สหรัฐอเมริกา: FED ออกรายงานยืนยันพร้อมใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายประจำวัน 21 ก.ย.ว่า เฟดมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหากจำเป็น "ข้อมูลที่คณะกรรมการเฟดรวบรวมได้บ่งชี้ว่า แม้โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่มีอยู่ไม่มาก แต่ผลผลิตทางเศรษฐกิจและตัวเลขจ้างงานขยายตัวในอัตราที่ช้าลง และมีแนวโน้มว่าตัวเลขดังกล่าวจะชะลอตัวลงอีกในระยะใกล้นี้" รายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 21 ก.ย.ซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) (ที่มา: อินโฟเควสท์ 13-10-2010)
     * จีน: สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนเผยยอดขายรถเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 16.9% สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในจีนอยู่ที่ 1,556,700 คันในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 16.9% จากปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่ยอดขายขยายตัวขึ้นในระดับตัวเลข 2 หลัก สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดขายรถในเดือนก.ย.นั้น ถือเป็นสถิติยอดขายรายเดือนที่สูงสุดเป็นอันดับ 3 ส่วนยอดขายรถใหม่ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ พุ่งขึ้น35.97% จากปีที่แล้ว แตะ 13,138,400 คัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เกือบจะเทียบเท่ากับยอดขายตลอดทั้งปี 2552 ที่ 13,644,800 คัน สำหรับผลผลิตรถของจีนตั้งแต่เดือนม.ค. - ก.ย. 2553 เพิ่มขึ้น 36.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะ 13.0827 ล้านคัน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 12-10-2010)
     * เอเชีย: ปธน.เกาหลีใต้ย้ำรัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในประเทศพุ่ง ประธานาธิบดีลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้ย้ำรัฐบาลเกาหลีใต้ควรจะดำเนินการ เพื่อควบคุมราคาสินค้าโภคภัณฑ์ภายในประเทศที่พุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับสถานการณ์ราคาพืชผักและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆที่พุ่งสูงขึ้นมาก ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า "ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่ประชาชนต้องซื้อสินค้าที่จำเป็นในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดโลก และรัฐบาลควรจับตาด้านราคา รวมทั้งปรับปรุงซัพพลายและลดราคาลง หากราคาสินค้าในประเทศสูงกว่าราคาในตลาดโลก" (ที่มา: อินโฟเควสท์ 12-10-2010)