ศุกร์ 21 ต.ค.2554--INSTANT VIEW : ความเห็นนักวิเคราะห์ต่อตัวเลขส่งออก ก.ย.โต 19.1%
ที่มา : โดย ทีมข่าวรอยเตอร์ รายงาน; สะตะวสิน สถาพรชาญชัย เรียบเรียง--บร--

          กระทรวงพาณิชย์ เผยการส่งออกเดือน ก.ย.54 มีมูลค่า 21,511 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน เป็นตัวเลขสองหลักเป็นเดือนที่ 23 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่ม 21% ขณะที่การนำเข้าในเดือน ก.ย. มีมูลค่า 21,273 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 41.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้ไทยเกินดุลการค้าราว 238 ล้านเหรียญสหรัฐ
          ตัวเลขนำเข้าดังกล่าว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะขยายตัว 32.5% ส่วนดุลการค้าเดือนก.ย.เป็นการเกินดุลต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะเกินดุล 1.67 พันล้านเหรียญสหรัฐ
          กระทรวงพาณิชย์ คาดอีกว่า การส่งออกของไทยในไตรมาส 4/54 จะหดตัว 13% หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในไทย แต่ทั้งปีนี้ ยังเชื่อว่า มูลค่าการส่งออกยังโตได้ 15%
          ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ การส่งออกขยายตัวแล้ว 25.5% ขณะที่การนำเข้า ขยายตัว 30.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้ไทยมียอดเกินดุลการค้า 5.28 พันล้าน เหรียญสหรัฐ
          ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าการส่งออกปี 54 จะเติบโตราว 15% แต่ต่อมาได้ปรับเพิ่มเป็นอาจขยายตัวได้ 20.0% โดยเป็นประมาณการก่อนที่ภาวะน้ำท่วม ซึ่งเริ่มเมื่อปลายเดือนก.ค. และขยายวงกว้างขึ้น
          เมื่อปี 53 ไทยมีมูลค่าส่งออกโต 28.14% ด้วยมูลค่า 1.95 แสนล้านเหรียญ สหรัฐ ขณะที่การนำเข้า โต 36.5% ทำให้ไทยเกินดุลการค้าราว 1.29 หมื่นล้านเหรียญ สหรัฐ
ความเห็นของนักวิเคราะห์ ต่อตัวเลขส่งออกเดือน ก.ย.เป็นดังนี้:-
          นางสาวพิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
          "แม้ว่าตัวเลขการส่งออกในเดือนกันยายน จะชะลอตัวลงมา แต่ก็ยังมีการ เติบโตที่ดีอยู่ แต่ในระยะข้างหน้า เราคาดว่าจะได้เห็นผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใน นิคมอุตสาหกรรม ทำให้เรามองว่าจะเห็นการปรับตัวลงของการส่งออกในไตรมาสสุดท้าย"
          "ถ้ามองไปยังภาคอุตสาหกรรมแล้ว ชิ้นส่วนเล็กทรอนิกส์จะถูกกระทบจากน้ำท่วม มากที่สุด ตามมาด้วยยานยนต์ เหล็ก และผลิตภัณฑ์อาหาร"
          "ส่วนมุมมองต่ออัตราดอกเบี้ยนโยบาย เรายังคงมองตัวเลขสิ้นปีนี้ไว้ที่ 3.50% แต่เราก็เห็นการปรับขึ้นของแรงกดดันเงินเฟ้อด้วย เพราะน้ำท่วมจะทำให้ราคารสินค้า หลายๆตัว ปรับเพิ่มขึ้น และก็เป็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นทั่วอาเซียน ซึ่งจะเป็นแรง ผลักดันการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในปีหน้า ให้อยู่ในระดับสูง"
          "การที่แบงก์ชาติ จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงเมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับ ความรุนแรงของผลกระทบจากน้ำท่วม แม้ตอนนี้จะเริ่มมีผลกระทบค่อนข้างมากแล้วก็ตาม"
          นางสาวอุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธ.สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด(ไทย)
          "ดุลการค้าในเดือนกันยายน ที่เกิดดุลต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ แสดงให้เห็น ถึงผลกระทบจากน้ำท่วมในขณะนี้ ที่มีต่อภาคการส่งออก"
          "มองไปข้างหน้า เราคาดว่าจะเห็นการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ของการ ส่งออกในเดือนตุลาคม จากการที่น้ำท่วมกระทบต่อซัพพลาย เชน ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะทำให้การส่งออกสินค้าในหมวดดังกล่าวล่าช้าออกไป"
          "ในมุมมองของเรา แบงก์ชาติมีทางเลือกหลายทาง ในการบรรเทาผลกระทบ จากน้ำท่วม ที่มีต่อเศรษฐกิจจ ซึ่งอาจจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง หรือ อาจจะพักการชำระหนี้ไว้ชั่วคราว เพื่อช่วยผู้บริโภคและผู้ประกอบการ"
           "แม้ว่าการปรับลดดอกเบี้ย จะไม่ใช่มุมมองหลักที่เรามองไว้ แต่ก็ยอมรับว่า แบงก์ชาติอาจจะตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยลงสัก 0.25% เพื่อช่วยพยุง sentiment ของ การบริโภค และภาคธุรกิจ"
          "เราเชื่อว่า การบริโภคในประเทศจะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งในไตรมาส แรกของปีหน้า ท่ามกลางการฟื้นฟูของภาคเอกชนและภาครัฐ ดังนั้น แบงก์ชาติไม่น่าจะ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง"
- ผลกระทบต่อตลาดหุ้น-ตลาดพันธบัตร-เงินบาท
          * ดัชนีหุ้นไทยเมื่อพักเที่ยง เพิ่มขึ้น 0.11% มาที่ 910.08 จุด
          * บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดอยู่ที่ 31.05/14 จาก 31.08/12 เมื่อเช้านี้
- ข้อมูล/ความเห็นเศรษฐกิจไทยก่อนหน้านั้น
          * ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนหยุดชะงัก และจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในไตรมาสที่ 4 ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้มาก ขณะที่ข้อมูลเบื้องต้นในไตรมาส 3 ชี้ว่า เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัว แต่เริ่ม มีสัญญาณการแผ่วลงของการส่งออก ซึ่งสอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง
          *นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยจะหดตัวลง 1.1% ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบรายปี อันเนื่องจากภาวะอุทกภัย ขณะที่เติบโต 3.7% ใน ไตรมาส 3 พร้อมระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้จะสูงกว่า 2% เล็กน้อย โดยได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม --จบ--