พุธ 24 พ.ย.--eFinanceThai.com :
PTTEP กระอัก!!มอนทาร่าพุ่งชน
          "ปตท.สผ."ลุ้นระทึก!!ออสเตรเลียจ้องเพิกถอนสัมปทานขุดเจาะปิโตรเลียม หลังผลสอบกรณีมอนทาร่ารั่วไหลออกมาไม่สวย เหตุพบมาตรการป้องกันภัยย่อหย่อน คาดผลการพิจารณาใบอนุญาตได้ข้อสรุปปลายปีนี้ ด้านผู้บริหาร PTTEP แจงเร่งแก้ไขปัญหาเต็มที่แล้ว ยันระบบสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้มาตรฐาน มั่นใจได้ไฟเขียวให้ขุดเจาะต่อไป ขณะที่หุ้นในกระดานดิ่ง 5% หลังนักลงทุนแพนิก โบรกฯหวั่นมูลค่าหายวับ 25 บาท
          ปัญหาแหล่งขุดเจาะมอนทาร่าในออสเตรเลียรั่วไหล ยังคงตามหลอกหลอนหุ้นบริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ PTTEP ไม่เลิก ล่าสุดมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลออสเตรเลียอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนการให้สัมปทานสิทธิขุดเจาะน้ำมันในออสเตรเลียทั้งหมดของ PTTEP หลังเคยเกิดเหตุน้ำมันทั่วไหลที่แหล่งมอนทาร่าเมื่อปี 52 ที่ผ่านมา และปรากฏผลสอบสวนในกรณีดังกล่าวว่ามาตรการป้องกันภัยของ PTTEP มีความย่อหย่อน
          ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวกดดันให้ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลดลงแรงในการซื้อขายวันนี้(24 พ.ย.53) ทั้งๆที่หุ้น PTTEP ควรจะตอบรับข่าวดีหลังจากที่บริษัทได้เข้าร่วมลงทุนในแหล่ง Oil Sands Kai Kos Dehseh (KKD) ในประเทศแคนาดาสัดส่วน 40% มูลค่าเงินลงทุนกว่า 2.28 พันล้านเหรียญ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทในอาคต โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ระดับ 180 บาท หลังจากนั้นปรับตัวลดลงและปิดที่ระดับต่ำสุดของวันที่ 171 บาท ลดลง 9 บาท หรือลดลง 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.16 พันล้านบาท
          ขณะที่หุ้นบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)หรือ PTT ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ PTTEP ก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงถึง 12 บาท มาปิดที่ 310 บาท หรือลดลง 3.73% มีมูลค่าการซื้อขาย 5.08 พันล้านบาท
          ด้านนักวิเคราะห์มองกรณีดังกล่าวถือเป็นความเสี่ยงของหุ้น PTTEP แม้จะมั่นใจว่าบริษัทจะได้รับอนุญาตให้สำรวจและขุดเจาะในแหล่งมอนท่าร่าต่อไป แต่เตือนให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังมากขึ้น เพราะปัจจัยดังกล่าวยังคงกดดันหุ้น PTTEP ต่อไป และในกรณีเลวร้ายสุดหากบริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ขุดเจาะแหล่งมอนทาร่าอีกจะทำให้มูลค่าหุ้น PTTEP ลดลงประมาณ 25 บาท
***** ออสเตรเลียเล็งทบทวนสัมปทานแหล่งมอนทาร่า
          รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า กระทรวงพลังงานออสเตรเลียอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนการให้สัมปทานสิทธิขุดเจาะน้ำมันในออสเตรเลียของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ PTTEP หลังเคยเกิดเหตุน้ำมันทั่วไหลที่แหล่งขุดเจาะปิโตรเลียมมอนทาร่าเมื่อปี 2009
          โดยนายมาร์ติน เฟอร์กูสันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออสเตรเลีย กล่าวว่า กระทรวงฯกำลังพิจารณาแผนป้องกันการเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลของ PTTEP เพื่อพิจารณาว่า PTTEP ควรได้สิทธิขุดเจาะน้ำมันในออสเตรเลียต่อไปหรือไม่ หลังเคยเกิดปัญหาน้ำมันรั่วไหลมาแล้ว ซึ่งการพิจารณาดังกล่าวจะเสร็จในสิ้นปีนี้
          การสอบสวน ซึ่งเผยแพร่โดยรัฐบาลออสเตรเลีย พบว่า มาตรการป้องกันภัยของ PTTEP มีความย่อหย่อน' นายเฟอร์กูสันกล่าว
          ปัจจุบัน PTTEP มีสัมปทานขุดเจาะน้ำมันในออสเตรเลียอยู่ 7 สัมปทาน และมีสัมปทานการผลิตน้ำมัน 5 สัมปทาน
***** PTTEPแจงแก้ปัญหามอนทาร่าเต็มที่ ยันระบบสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้มาตรฐานสากล
          บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ PTTEP ชี้แจงว่า จากการที่วันนี้(24 พ.ย.53)กระทรวงทรัพยากรและพลังงาน (Ministry of Resources and Energy) ของประเทศออสเตรเลีย ได้เปิดเผยรายงานของคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์มอนทารา (Montara Commission of Inquiry’s Final Report and Findings) ซึ่งอ้างถึงความสามารถในการเป็นผู้ดำเนินการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ พีทีทีอีพี เอเอ ในประเทศออสเตรเลียนั้น
          PTTEP ขอแจ้งว่าบริษัท พีทีทีอีพี ออสตราเลเซีย หรือ พีทีทีอีพี เอเอ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTTEP และเป็นผู้ดำเนินการของแหล่งมอนทารา ได้เสนอแผนการปรับปรุงแก้ไขประสิทธิภาพในการทำงานของ พีทีทีอีพี เอเอ (Action Plan) ให้แก่รัฐบาลออสเตรเลีย หลังจากสิ้นสุดการสอบสวนและได้ดำเนินการตามแผนการปรับปรุงแก้ไขนี้มาอย่างต่อเนื่อง
          โดยได้นำเสนอผลความคืบหน้าต่อรัฐบาลออสเตรเลียเป็นระยะๆ มาโดยตลอด ซึ่งแผนการปรับปรุงแก้ไขนี้ได้รับคำชมเชยจากหัวหน้าคณะสอบสวน (Commissioner) ว่าเป็นแผนที่มีความสมบูรณ์และน่าชื่นชม และครอบคลุมจุดอ่อนของการปฏิบัติงานของ พีทีทีอีพี เอเอ ที่คณะกรรมการสอบสวนได้ระบุไว้อย่างครบถ้วน และรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรและพลังงานได้แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมา เพื่อประเมินผลการดำเนินงานตามแผนการปรับปรุงแก้ไข โดยจะรายงานผลการประเมินนี้ต่อรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาความสามารถในการเป็นผู้ดำเนินการของ พีทีทีอีพี เอเอ ต่อไป
          แผนการปรับปรุงแก้ไขซึ่ง พีทีทีอีพี เอเอ ได้ดำเนินการอยู่นั้น ครอบคลุมเรื่องการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย ระบบการบริหารจัดการด้านการขุดเจาะ ระบบการบริหารจัดการความรู้ความสามารถของบุคลากร และการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานใหญ่ ปตท.สผ. ที่กรุงเทพฯ และพีทีทีอีพี เอเอ ในประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้ เพื่อให้พีทีทีอีพี เอเอ มีระบบการปฏิบัติงานที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลของอุตสาหกรรมธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
          ทั้งนี้ การดำเนินงานตามแผนการปรับปรุงแก้ไขนี้มีความคืบหน้าและประสบความสำเร็จไป มากพอสมควร เช่น การตรวจสอบสภาพความปลอดภัยของหลุมเจาะที่เหลือทั้งหมดในแหล่งมอนทาราได้ เสร็จสิ้นลงแล้วและได้รับการรับรองจากรัฐบาลออสเตรเลียแล้ว การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรและบุคลากรในหน่วยงานขุดเจาะของพีทีทีอีพี เอเอ ก็ได้ดำเนินงานไปเกือบเสร็จสิ้นแล้ว เป็นต้น
          นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่า “ปตท.สผ. มั่นใจว่า พีทีทีอีพี เอเอ สามารถพัฒนาแหล่งมอนทาราต่อเนื่องได้ เนื่องจากได้มีการปรับปรุงแก้ไขประสิทธิภาพในการทำงานมาโดยตลอดเกือบ 12 เดือนแล้ว และได้นำเสนอผลความคืบหน้าต่อรัฐบาลออสเตรเลียเป็นระยะๆ ซึ่งเรามีความมั่นใจว่าผลการปฏิบัติตามแผนการปรับปรุงแก้ไขนี้ จะสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่รัฐบาลออสเตรเลียได้ว่าพีทีทีอีพี เอเอ เป็นผู้ดำเนินการที่สามารถปฏิบัติงานด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้ตาม มาตรฐานสากลและมีความสามารถที่จะดำเนินงานในประเทศออสเตรเลียต่อไป ปตท.สผ. มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ประกอบการที่ดีระดับสากลในประเทศออสเตรเลียและ มองออสเตรเลียเป็นฐานการลงทุนในระยะยาว”
          นายอนนต์กล่าวเพิ่มเติมว่า “คณะกรรมการสอบสวนชมเชยว่าในระหว่างเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลจากแหล่งมอนทาราในปี 2552 พีทีทีอีพี เอเอ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์และแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที และได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี ซึ่งในการควบคุมสถานการณ์นี้ บริษัทได้ทำการอพยพพนักงานจำนวน 69 คน ออกจากแท่นเจาะอย่างปลอดภัย ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
          รวมทั้งประสบความสำเร็จในการเจาะหลุมควบคุมความดัน (relief well) เพื่อสกัดกั้นการรั่วไหลของน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ทำให้ผลกระทบอยู่ในวงจำกัดดังผลการศึกษาวิจัยที่ยืนยันว่า คราบน้ำมันไม่ได้เข้าสู่ชายฝั่งทั้งของประเทศออสเตรเลียและประเทศ อินโดนีเซียและไม่พบการปนเปื้อนของคราบน้ำมันตลอดชายฝั่งออสเตรเลีย รวมถึงได้ศึกษาและเฝ้าสังเกตการณ์ด้านความหลากหลายและจำนวนสัตว์ทะเลขนาด ใหญ่ในระหว่างและหลังเกิดเหตุการณ์มอนทารา”
          พีทีทีอีพี เอเอ ได้ร่วมมือกับรัฐบาลออสเตรเลียและให้การสนับสนุนเงินทุนในการจัดการศึกษา วิจัยและเฝ้าระวังผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งระยะสั้นและระยะยาว
***** "ประเสริฐ"คาด 2-3 เดือนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
          นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)หรือ PTT กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออสเตรเลียกำลังพิจารณาแผนป้องกันการเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลที่แหล่งมอนทาร่าของ PTTEP เพื่อพิจารณาว่า ควรได้สิทธิขุดเจาะน้ำมันในออสเตรเลียต่อไปหรือไม่ ว่า ขณะนี้คาดว่าได้มีการแถลงข้อมูลจากผู้บริหารของ PTTEP เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คงต้องทำตามแผนการปรับปรุง Action Plan พร้อมทั้งประสานเรื่องไปยังกระทรวงพลังงานและรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อทำความเข้าใจต่อไป
          " โดยส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก และคาดว่าช่วง 2-3 เดือนนี้อาจยังไม่ได้ข้อสรุปเช่นเดียวกับกรณีการจ่ายค่าปรับ ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว" นายประเสริฐ กล่าว
***** โบรกฯมองหากชวดแหล่งมอนทาร่าราคาหุ้นหายวับ 25 บ.
          นักวิเคราะห์บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ผลกระทบจากการที่รัฐบาลออสเตรเลียได้ให้ PTTEP ชี้แจงแผนการปรับปรุงการดำเนินงานในมอนทารา ว่า น่าจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น ทำให้เป็นประเด็นที่นักลงทุนกังวลว่า PTTEP จะได้ดำเนินธุรกิจในมอนทาราต่อหรือไม่ สะท้อนได้จากราคาหุ้น PTTEP ที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามจากการที่ได้มีโอกาสคุยกับผู้บริหารมีความเชื่อมั่นว่า PTTEP มีโอกาสที่จะได้ดำเนินธุรกิจในมอนทาราต่อค่อนข้างสูง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลออสเตรเลียได้ให้ PTTEP ปรับปรุงแผนการแก้ไขปัญหาในมอนทารา ซึ่งเมื่อ PTTEP ได้ยื่นแผนที่ปรับปรุงเข้าไปยังรัฐบาลออสเตรเลีย ทางรัฐบาลก็ได้ยอมรับไปบางส่วนแล้ว
          ทั้งนี้จากกระแสข่าวที่ออกมาจึงต้องติดตามต่อไปว่า ผลของการทบทวนใบอนุญาตจะออกมาในรูปแบบใด ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยังมีความไม่แน่นอนว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่บริษัทฯมีมุมมองในเชิงบวกต่อ PTTEP ซึ่งปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา PTTEP ได้ให้นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็พบว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้มีนัยสำคัญมากนักที่จะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในชายฝั่งทะเล
          "เท่าที่ได้คุยกับบริษัท ทางผู้บริหารบอกว่ารัฐบาลออสเตรเลียขอเวลาศึกษาแผนที่ PTTEP เสนอเข้าไป จึงน่าจะเป็นประเด็นข่าวในเชิงบวกให้กับ PTTEP ได้ เพราะอ้างอิงจากผลการสำรวจ จึงมองว่าโอกาสที่ PTTEP จะได้ดำเนินงานต่อไปในมอนทารามีค่อนข้างสูง ซึ่งหากดูปริมาณการผลิตในมอนทารามีสัดส่วนอยู่ที่ 13% ของปริมาณการผลิตทั้งหมดของ PTTEP ในแต่ละปี" นักวิเคราะห์รายเดิมกล่าว
          ดังนั้นบริษัทฯจะไม่มีการปรับประมาณการผลงานของ PTTEP ใหม่ เพียงแต่ให้เงื่อนไขเพิ่มเติมเข้ามาอีก 1 ข้อ คือ ในกรณีที่ PTTEP ถูกสั่งเพิกถอนการทำธุรกิจที่มอนทาราจริง มูลค่าทางพื้นฐานอาจจะลดลงมา 25 บาท จากราคาตามมูลค่าทางพื้นฐานปีหน้าที่ให้ไว้ 235 บาท ทั้งนี้แนะนำซื้อ เพียงแต่จะต้องเพิ่มความระมัดระวังในประเด็นดังกล่าว เพราะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมาจากรัฐบาลออสเตรเลีย จึงอาจจะเป็นความเสี่ยงที่กดดันราคาหุ้นอยู่
          ขณะเดียวกันมองว่า PTT ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน PTTEP ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยในส่วนของราคาหุ้น แต่บริษัทยังคงแนะนำ ซื้อ เพราะ PTT มีธุรกิจอื่นๆที่ยังสร้างรายได้ให้บริษัท