จันทร์ 20 ส.ค.2555--เด็กแนว :
เด็กแนว : บล.คันทรี่ กรุ๊ป

       * TKT หุ้นที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนพลาสติก และชิ้นส่วนประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมหลายประเภทตอนนี้มีอยู่ด้วยกันหลายบริษัท ซึ่งอะไรก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถยนต์ก็จะเล่นตามๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น SALEE, APCS, PJW และต้องบอกว่าถ้าคำนวณค่า PE กันก็อยู่ถึงระดับ 12-14 เท่ากันไปบ้างแล้ว ถ้ามามอง TKT ในระดับนี้เด็กแนวว่าอาจจะต้องคิดกันใหม่ว่าหุ้นตัวนี้ควรจะมีมุลค่าเท่าไรกันแน่ อย่างแรกคือกำไร Q2 ขยายตัวเกินคาด ทำให้ครึ่งปีกำไร 51 ล้านบาทขณะที่ปีก่อนขาดทุนบักโกรก  ถ้ามองต่อในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งธุรกิจดีกว่าครึ่งแรกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งยานยนต์  และอิเล็กทรอนิกส์ฟื้นจากจมน้ำ แต่เด็กแนวประเมินแบบ conservative สุดๆ เอาว่าเติบโตเพียง 5% เราจะได้ EPS ทั้งปีของ TKT อยู่ประมาณ  0.50 บาท  และถ้าให้ค่า PE เพียง 12 เท่า  ก็จะได้มูลค่าที่เหมาะสมปาเข้าไประดับ 6 บาทแล้วครับท่านผู้ชม หรือมี up side จากราคากระดานเกือบ 70% เลยนะนั่นอ่ะ
       ด้านสัญญาณเทคนิคถือ่วาน่าสนใจต่อเนื่อง  และเด็กแนวก็ยังคงมีมุมมองเดียวกับที่เคยแนะนำไปตั้งแต่เดือนก่อน  นั่นก็คือการตั้งลำโค้งตัวเป็นกระทะใบใหญ่ของราคาหุ้นแบบนี้ โอกาสในการไหลขึ้นไปชนแนว high เดิมที่ 5 บาท มองว่ามีความเป็นไปได้สูง  ดังนั้นคนที่ดูเทคนิคต้องสะสมต่อไปไม่รีบขาย และเมื่อประเมินดูว่าเป็นหุ้นที่มีค่า PE ต่ำเพียง 7 เท่า มีโอกาสจ่ายปันผลระดับใกล้ 6% อีกตะหาก  แบบนี้ถือว่าครบเครื่องทั้ง story และ intrend ในกลุ่มยานยนต์  กราฟสวย และ undervalue แบบเนียะต้องซื้อนะถึงจะเอาอยู่

       *  SMM ชื่อเล่นว่าการ์ตูน  จัดเป็นหุนอีกตัวหนึ่งที่ผลประอบการในไตรมาส 2 ขยายตัวโดดเด่น โดยได้รับประโยชน์จากบอลยูโรเต็มๆ  เพราะมีการทำข่าวเรื่องกีฬา ทั้งหนังสือและรายการทีวีดาวเทียม   ....ผู้บริหารเผยว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในงวด Q3 จะยังดีต่อเนื่อง เพราะนอกจากการเติบโตของธุรกิจสิ่งพิมพ์และทีวีดาวเทียมที่ดีขึ้น ทางบริษัทยังเตรียมเพิ่มช่องทางทำรายได้เสริม ด้วยการนำหนังสือการ์ตูนที่มีความนิยมในระดับสูงมาตีพิมพ์วางขายใหม่ในรูปแบบที่น่าสะสมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีต้นทุนค่าใช้จ่ายของธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ลดลง เนื่องจากกระบวนการผลิตของสิ่งพิมพ์จะมีต้นทุนระดับสูงที่ค่าเพลท ดังนั้น เมื่อยอดขายสิ่งพิมพ์ทั้งการ์ตูนและพ็อคเก็ตบุ๊คดียิ่งขึ้น จึงส่งผลให้บริษัทสามารถผลิตงานได้คุ้มต้นทุนที่จ่ายออกไป ..  ฟังดูแล้วน่าชื่นใจ  มิน่าล่ะกำไรจึงโตขึ้นมาถึง 2300% กันเลย   ถ้าเราประเมินว่ากำไรในปีนี้ทุบสถิติถึง 70 ล้านบาท โดยใช้ตัวเลขครึ่งปีเป็นเกณฑ์ จะทำให้กำไรต่อหุ้นอยู่ 0.30 บาท ขณะที่ค่า PE ของกลุ่มนี้พุ่งไป 20 เท่าแล้ว 
       ถ้าจะประเมินมูลค่าแบบ conservative อีกนั่นแหละ เราก็ควรให้ค่า PE ที่ไม่สูงเกินไปสักประมาณ 12 เท่า ราคาหุ้นที่เหมาะสมจะอยู่ 3.60 บาท   ด้านกราฟถ้าประเมินโดยพิจารณาเทคนิคแบบราย week จะเห็นการฟอร์มตัวเป็นรูปคล้าย U-shape ซึ่งจะมีการไต่ระดับไปยังแนว 3.20 บาทได้ในระยะประมาณ 4 สัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าหุ้นตัวนี้มีโอกาสวิ่งได้อีกประมาณ 1 เดือน ก่อนที่จะพักตัว แต่ถ้าโวลุ่มแน่นทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปได้อีกก็จะมี pattern ที่แรงกว่าเดิม ต้องมาวัดใจกัน แต่ตอนนี้ รอบนี้น่าเล่นต่อแล้วกัน