สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
สรรพากรรื้อโครงสร้างภาษี เลิกบีโอไอแลกลดนิติบุคคลรักษาฐานรายได้
คลังเตรียมรื้อโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ กรมสรรพากรเสนอหลายโมเดลเพื่อรักษาฐานรายได้ เช่นยกเลิกภาษีสิทธิประโยชน์บีโอไอแลกลดภาษีเงินได้นิติบุคคล กรมสรรสามิต ลั่นขอเลิกจัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่สร้างรายได้ หันไปเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษีสินค้ารายใหญ่แทน
ฝรั่งขนเงินกลับบ้านปิดบัญชีสิ้นปี ขายทั้งพันธบัตรทั้งหุ้นกระจาย สะเทือนใจหุ้นไทยหลุด 1,000 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 17 พ.ย. ว่า ในที่สุดแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติได้กดให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงอย่างหนักและหลุดแนวรับด้านจิตวิทยาที่สำคัญที่ระดับ 1,000 จุด โดยดัชนีลงไปต่ำสุดของวันที่ 978.52 จุด แต่ในช่วงท้ายตลาดมีแรงซื้อกลับจากนักลงทุนรายย่อยเข้ามาช่วยพยุงดัชนีมาปิดทำการที่ 990.13 จุด ลดลง 10.6 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 39,357.40 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,458.88 ล้านบาท ผสมโรงกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิ 1,781.58 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 4,960.48 ล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ 280.00 ล้านบาท ทั้งนี้แรงขายที่ถล่มออกมาในระหว่างวันเป็นผลจากความวิตกในประเด็นเดิมที่จีนเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อและชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ซึ่งเกรงกันว่าจะส่งผลกระทบมาถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียให้ชะลอตัวลงด้วย รวมทั้งยังมีความกังวลกับวิกฤติหนี้ยุโรป รอบใหม่ที่รอบนี้ถูกปะทุขึ้นจากปัญหาหนี้ของไอร์แลนด์
ดัชนีเชื่อมั่นสำลักน้ำท่วม
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยประจำเดือน ต.ค.53 อยู่ที่ระดับ 98.7 ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นใน 39 จังหวัดทั่วประเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไม่สามารถผลิตสินค้าหรือส่งสินค้าได้ทันตามกำหนด เพราะพนักงานต้องหยุดงานและการคมนาคมขนส่งในบางพื้นที่ต้องหยุดชะงักรวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ยังผันผวนและราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น
ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพมาบตาพุด "มาร์ค" พบปะมิตรรักแฟนเพลง
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามรายงานผลการแก้ไขปัญหาในพื้นที่มาบตาพุด และบริเวณใกล้เคียงจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 พ.ย.นี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงพื้นที่มาบตาพุด ซึ่งล่าสุดได้ติดตามความก้าวหน้าการแก้ปัญหาในพื้นที่พบว่าโครงการก่อสร้างขยายเขตจำหน่ายน้ำประปาพื้นที่อำเภอเมืองระยอง มีผลงาน 22% เร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ โครงการก่อสร้างปรับปรุงท่อและขยายเขตจำหน่ายน้ำพ้นที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด และเทศบาลเมืองบ้านฉาง มีผลงาน 14% เร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ อีกทั้งจังหวัดและการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) มีโครงการเพิ่มเติมสำหรับชุมชนที่ตกสำรวจครอบคลุมครัวเรือนในพื้นที่อำเภอเมืองระยอง เทศบาลเมืองมาบตาพุด และเทศบาลเมืองบ้านฉาง มากกว่า 7,000 ครัวเรือน รวมงบประมาณกว่า 140 ล้านบาท ที่จะต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเพิ่มเติม ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานมอบรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ จำนวน 2 คัน ให้จังหวัดระยอง เพื่อตรวจสุขภาพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงบริเวณติดขอบรั้วโรงงานและอยู่ในเขตควบคุมมลพิษด้วย.
กทช.ปูพรมรับ กสทช.
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการในคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กทช.ได้มอบหมายให้ตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานเตรียมการจัดทำร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ตารางกำหนดคลื่นความถี่ แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม และมอบหมายให้นายพนา ทองมีอาคมกรรมการ กทช.เป็นหัวหน้าคณะทำงานร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ แผนความถี่วิทยุ โดยคาว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.2554 เพื่อเตรียมการไว้รองรับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หลังจาก พ.ร.บ.องค์การจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ พ.ร.บ.กสทช.ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว "การยกร่างแผนแม่บท เป็นการเตรียมการไว้รองรับ กสทช.ชุดใหม่ให้ทำงานได้ราบรื่นถ้า กสทช.ชุดใหม่คิดว่าเหมาะสม ก็นำไปใช้ ถ้าไม่เหมาะสมก็ปรับใหม่ได้ การเตรียมการดังกล่าวจะร่นเวลาการทำงานของกสทช.ได้ ซึ่งกฎหมายระบุว่า กสทช.จะต้องจัดทำร่างแผนแม่บทให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี"
เตือนนักลงทุนระวังหุ้น "ทรู-ดีแทค"
นายอธึก อัศวานันท์ รองประธานกรรมการและหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกฎหมาย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ปรากฎข่าวว่าคณะกรรมการของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) อนุมัติให้บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี ด้วยเทคโนโลยี HSPA ในเชิงพาณิชย์นั้น ทางทรู ในฐานะบริษัทแม่ของทรูมูฟขอชี้แจงว่ายังไม่ได้รับแจ้งจาก กสท เกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด
ผู้บริโภคกระอักรับปีใหม่ "พาณิชย์" ปล่อยผีสินค้ายกแผงขึ้นราคา
พาณิชย์จ่อปล่อยผีสินค้าขึ้นราคาปีหน้า ทั้งเหล็ก ทั้งปูนซีเมนต์ ปุ๋ย หลังต้นทุนนำเข้าพุ่ง พร้อมกล่อมเหล็กทำกระป๋องลดราคาช่วยผู้ส่งออกตันละ 6,500 บาท จี้กรมการค้าภายในตั้งศูนย์เฝ้าระวังราคาสินค้าปัจจัยการเกษตรให้เกษตรกรเช็กราคารายวันป้องกันถูกผู้ค้าโกง ด้านน้ำตาลมีปัญหาไม่เลิกโยนอุตสาหกรรมแก้ปัญหาขาดแคลน-หาซื้อยาก
ธุรกิจปั๊มแก๊สผุดเป็นดอกเห็ด
นายพีระพล สครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ปั๊มแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ทั่วประเทศมีทั้งสิ้นประมาณ 865 แห่ง แบ่งเป็นต่างจังหวัด 657 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ 208 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 200 แห่ง โดยปีที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 665 แห่ง แยกเป็นต่างจังหวัด 469 แห่ง และ กทม. 196 แห่ง ขณะที่มีเอกชนขอยื่นเป็นผู้ค้าแอลพีจีมาตรา 7 เพิ่มเป็น 13 ราย จากปีที่ผ่านมามีผู้ค้าเพียง 6 รายเท่านั้น โดยรายล่าสุดคือบริษัทยูไนเต็ดแก๊ส ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา
ไทยเบฟเมินเสริมสุข พัฒนาระบบขนส่งเอง
นายอวยชัย ตันทโอภาส กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยเบฟฯ เน้นพัฒนาระบบขนส่งและทีมกระจายสินค้าภายใน โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไทยเบฟฯ ดำเนินนโยบายที่จะพัฒนาระบบขนส่งสินค้าและบุคลากรกระจายสินค้าให้กับธุรกิจเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันได้ลงทุนไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท ในการสร้างศูนย์กระจายสินค้าในภาคต่าง ๆ ที่ได้สร้างเสร็จและเปิดทำการแล้ว 3 แห่ง อยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ชลบุรี และนครราชสีมา
เซ็ง ครม.ดองแอร์พอร์ตลิงค์ จัดตั้งบริษัทบริหารรถไฟฟ้า!
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทรถไฟฟ้า รฟท.จำกัด เพื่อบริหารโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารในเมือง (แอร์พอร์ตลิงค์) ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 500 ล้านบาท เป็น 2,000ล้านบาท เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน คาดว่าภายในสิ้นปี 2553 นี้จะสามารถจดทะเบียนเพื่อจัดตั้งบริษัทดังกล่าวได้
ยอดผลิตรถยนต์สูงสุดรอบ 50 ปี สอท.ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตทะลุ 1.7 ล้านคัน
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์ในเดือน ต.ค.53 อยู่ที่ระดับ 15,689 คัน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 32.72% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงสุดในประวัติศาสตร์การผลิตรถยนต์ของไทยในรอบ 50 ปี ตั้งแต่มีโรงงานผลิตรถยนต์ในไทยปี 04 เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและประเทศคู่ค้า ประกอบกับค่ายรถยนต์มีโปรโมชั่นจูงใจลูกค้าที่หลากหลายทั้งด้านการดาวน์รถยนต์ในอัตราต่ำและผ่อนนาน เป็นต้น ส่งผลให้ยอดขายผลิตรถยนต์ช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) อยู่ที่ 1.35 ล้านคัน เพิ่ม 76.08%--จบ--
พฤหัสฯ 18 พ.ย.--เดลินิวส์ : สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ยอดผลิตรถสูงสุดรอบ 50 ปี ปีทองเล็งปรับเป้า 1.7 ล้านคัน
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณรางกูร รองประธานอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์ ในเดือน ต.ค. 53 อยู่ที่ระดับ 152,689 คัน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 32.72%ซึ่งเป็นอัตราที่สูงสุดในประวัติศาสตร์การผลิตรถยนต์ของไทยในรอบ 50 ปี ตั้งแต่มีโรงงานผลิตรถยนต์ในไทยปี 40 เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของไทยและประเทศคู่ค้าประกอบกับค่ายรถยนต์มีโปรโมชั่นจูงใจลูกค้าที่หลากหลายทั้งด้านการดาวน์รถยนต์ในอัตราต่ำ และผ่อนนาน เป็นต้น ส่งผลให้ยอดการผลิตรถยนต์ช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) อยู่ที่ 1.35 ล้านคัน เพิ่ม 76.08%
เอ็มเอไอฟุ้งระดมทุนสูงสุด
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้มีแนวโน้มที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอจะใช้ตลาดทุนระดมทุนถึง 2,500 ล้านบาท จากปัจจุบัน 2,000 ล้านบาท เนื่องจากช่วงที่เหลือของปียังมีหุ้นที่เตรียมเสนอขายให้กับประชาชน (ไอพีโอ) ที่จะเข้ามาระดมทุน อีก 2 บริษัท คือ บริษัทเออาร์ไอพีและบริษัท ผลธัญญะ อีกทั้งยังรอลุ้นอีก 1 บริษัทว่าจะทันเข้ามาระดมทุนปีนี้หรือไม่ ซึ่งมูลค่าระดมทุนในปีนี้ถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่จัดตั้งตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอมา 12 ปี เพราะก่อนหน้านี้แต่ละปีจะมีมูลค่าระดมทุนเฉลี่ยกว่า 1,000 ล้านบาท
กล่อมเหล็ก-สังกะสีลดราคา
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯได้ขอความร่วมมือเพิ่มเติมไปยังกลุ่มผู้ผลิตเหล็กกระป๋อง เช่น แผ่นเหลือเคลือบโครเมียม แผ่นเหล็กเคลือบดีบุกและผู้ผลิตสังกะสี ให้ลดราคาสินค้าลงเพื่อช่วยเหลือลดค่าครองชีพแก่ประชาชนและลดต้นทุนแก่ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย และผลกระทบจากการผันผวนของค่าเงินบาท โดยผู้ผลิตเหล็กที่ใช้ทำกระป๋อง ให้ความร่วมมือ ลดราคาจำหน่ายลงมาตันละ 6,500 บาท จาก 59,160 บาท เหลือตันละ 52,660 บาท หรือลดลง 12% เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ผลิตผัก ผลไม้และอาหารสำเร็จรูปบรรจุกระป๋อง เพื่อส่งออก มีผลตั้งแต่เดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้
เฝ้าระวังโคมลอย-บั้งไฟ บินไทยผวาเลิกเที่ยวบิน
นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมเทศกาลลอยกระทงว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เฝ้าระวัง และแจ้งเตือนการเล่นบั้งไปและการปล่อยโคมลอย เพื่อไม่ให้กระทบกับการบิน ซึ่งที่ผ่านมามีมาตรการดูแลอยู่แล้ว เช่น ก่อนการจุดบั้งไฟ หรือปล่อยโคมลอย ในจังหวัดทางภาคเหนือ และอีสาน ผู้ที่จะปล่อยโคมลอย หรือจุดบั้งไฟ ต้องขออนุญาตจากนายอำเภอในท้องที่ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงตารางบิน
คลังรอชงผ่าโครงสร้างภาษี ขี้ยา-คอทองแดงกระอัก
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรกำลังศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างภาษี เพื่อเตรียมเสนอต่อนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังพิจารณาในเดือน ม.ค. 54 ที่จะถึง โดยมีรูปแบบหลัก 3 แนวทาง คือการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7% ลดภาษีเงินได้ ทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลแนวทางต่อมาคือ การคงภาษีแวตไว้ แล้วลดภาษีเงินได้และลดภาษีการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) บางส่วนหรือทั้งหมดสุดท้ายปรับขึ้นแวตลดภาษีเงินได้ และลดภาษีบีโอไอบางส่วน หรือทั้งหมด
ผวาจีนสกัดตลาดหุ้นร้อน
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา ดัชนียังคงผันผวนอย่างหนักตลอดการซื้อขาย ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังกลัวกรณีประเทศจีนอาจขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ รวมถึงไอร์แลนด์ที่ประสบปัญหาการเงิน และเงินดอลลาร์สหรัฐที่เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ทำให้นักลงทุนเริ่มเทขายทำกำไร เพื่อลดความเสี่ยง จึงกลายเป็นแรงกดดัน ฉุดให้ระหว่างวันหุ้นไทยร่วงลงกว่า 20 จุดก่อนดีดตัวขึ้นมาปิดตลาด ที่ 990.13 จุด ลดลง 10.60 จุด หรือ 1.06%
เปิดจองเหรียญ ที่ระลึกครบ 60 ปี
นายมั่น พัธโนทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย.-20 ธ.ค.นี้ กรมธนารักษ์เปิดให้สั่งจองเหรียญที่ระลึก 60 ปี ราชาภิเษกสมรส เนื่องในโอกาสมหามงคล 60 ปี ราชาภิเษกสมรสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยจัดทำทั้งสิ้น 4 ชนิด คือ ทองคำพ่นทรายราคาเหรียญละ 25,000 บาท เงินรมดำพ่นทรายพิเศษ เหรียญละ 1,000 บาท ทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษเหรียญละ 1,200 บาท และทองแดงรมดำพ่นทรายเหรียญละ 100 บาท ซึ่งจะผลิตตามจำนวนสั่งจองเท่านั้น และรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย--จบค่ะ--