พฤหัสฯ 9 ส.ค.2555--eFinanceThai.com :
TRUE เหนื่อยยาวถึงปีหน้า

โบรกฯ ประสานเสียง TRUE ผจญวิบากกรรม คาดQ2 ขาดทุน 1.88 พันลบ.สั่งขายเชื่อทั้งปีขาดทุน 1 พันลบ. ลดลงจาก 4.5พันลบ.ในปีก่อน ด้านบัวหลวง ตอกย้ำปีหน้ายังขาดทุน ส่วนปัญหาสัญญา 3Gกับ CAT เอเซียพลัส ระบุ กระทบขยายฐานลูกค้าสะดุด แถมยังลูกผีลูกคนหลังบอร์ด CATเลื่อนถกเลิกสัญญาเป็น15 ส.ค.นี้ ฟากบิ๊กTRUE ลั่นลุยประมูล 3Gความถี่ 2.1 GHz ระบุใช้เงินกู้หากไม่พอพร้อมเพิ่มทุน
 * กูรู สั่งเลี่ยงลงทุน TRUE ชี้ขาดทุนต่อเนื่อง ไร้แววบวกจาก3G
     นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่าจากประเมินแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TRUE ในช่วงไตรมาส2/2555 คาดว่าจะยังขาดทุนต่อเนื่องใกล้เคียงกับ Q1/55 ที่ขาดทุนประมาณ 455.52 ล้านบาท แต่ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการของ TRUE ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากธุรกิจมือถือของค่ายทรู ได้ลงทุนในโครงข่าย 3G ไปมากแล้ว ซึ่งทาง TRUE เองก็ได้ตั้งเป้าหมายลูกค้าในปีนี้กว่า 4 ล้านราย โดยปัจจุบันมีลูกค้าแล้วมากกว่า 2 ล้านราย และยังมีลูกค้าเดิมที่เตรียมโอนย้ายมายังทรูมูฟเอช อีกจำนวนหนึ่ง
     ส่วนการเข้ารวมการประมูล 3G คลื่นความถี่ 2.1 เม็กกะเฮิร์ต โดยคาดว่าทาง TRUE จะต้องเข้าร่วมประมูลคลื่นดังกล่าว เพื่อรองรับโครงข่าย 3G ซึ่งมีโอกาสสูงที่ค่ายมือถือยักใหญ่ของประเทศทั้ง 3 แห่ง เช่น ADVANC , DTAC , และTRUE จะชนะการประมูล
     ทั้งนี้คาดว่าเรื่องการดำเนินการแก้ไขสัญญากับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) หรือ CAT จะมีผลต่อราคาของหุ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าข้อสรุปของการแก้สัญญาดังกล่าวจะออกมาในทางใด โดยทาง TRUE ต้องการแก้ไขสัญญาเป็นบางข้อ แต่ทาง CAT อยากที่จะยกเลิกสัญญาฉบับดังกล่าวไปเลย ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบสำหรับ TRUE หากผลเป็นไปตามที่ CAT ต้องการ
     นอกจากนี้คาดว่าผลประกอบการของ TRUE จะกลับมาฟื้นมีกำไร ก็ต่อเมื่อคลื่นความถี่เดิม 2G ที่ทาง TRUE ได้ทำสัญญากับ CAT ได้หมดอายุสัมปทานลง โดยสัมปทานดังกล่าวจะหมดอายุในปี 2556 ทั้งนี้ปัจจุบัน TRUE ต้องเสียค่าสัมปทานถึง 2 คลื่น ซึ่งเป็นค่าสัมปทาน 2G เดิมของ TRUE ที่ทำกับ CAT และค่าสัมปทานที่ TRUE ได้ซื้อกิจการของบริษัทฮัทชิสัน ซึ่งมีต้นทุนอยู่ถึง 2 คลื่นทำให้ผลประกอบการของบริษัทลดลง
     สำหรับราคาหุ้น TRUE เรามองว่ายังไม่ปัจจัยบวกเข้ามา แนะนำให้เลี่ยงการลงทุน เนื่องจากผลประกอบการยังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และยังไม่เห็นปัจจัยบวกที่ชัดเจนจากการประมูลคลื่นความถี่ 3G
* โบรกฯ คาด TRUE ผลงาน Q2/55 ขาดทุน 1.88 พันลบ.
     บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า TRUE จะมีผลประกอบการ 2Q/55 ขาดทุนสุทธิสูงกว่าที่ประเมินก่อนหน้า จาก 2 เหตุผล 1) กลุ่มธุรกิจ Mobile ยังไม่สามารถหยุดให้บริการ CDMA ตามแผน และ 2) True vision มีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มจากการเปลี่ยนกล่องใหม่และปัญหาฟุตบอล Euro 2012 รวมทั้งค่าใช้จ่ายโครงข่ายเพิ่มตามการขยายโครงข่ายกลุ่ม Mobile และ Broadband ส่งผลให้ EBITDA ลดลงจาก 1Q/55 และมี EBITDA margin 18.8% สำหรับครึ่งปีหลัง 55 มองว่าทุกธุรกิจในกลุ่ม TRUE จะฟื้นตัว และคาดว่าการแก้ไขสัญญากับ CAT จะไม่กระทบระยะเวลาคืนทุนของ TrueMove H นอกจากนี้แม้ TRUE จะเข้าร่วมประมูลคลื่น 2100 MHz เดือน ต.ค.นี้ แต่ยังไม่ระบุถึงแผนลงทุนใหม่ ทำให้เราไม่รวมประเด็นนี้ในปัจจัยพื้นฐาน TRUE อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันเหลือ Upside จำกัดจากมูลค่าเหมาะสมที่รวมสัญญา 3G HSPA ปรับคำแนะนำเป็น “ถือ”
     เราคาดว่าผลประกอบการ 2Q55 ของ TRUE จะขาดทุนสุทธิ 1,885 ล้านบาท หากไม่รวมผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนราว 300 ล้านบาท คาดว่าจะขาดทุน 1,595 ล้านบาท แย่ลงจาก 1Q/55 และ 2Q/54 ทั้งนี้ผลขาดทุนที่สูงกว่าการประเมินก่อนหน้า จาก 2 เหตุผล 1) กลุ่มธุรกิจ Mobile ยังไม่สามารถหยุดให้บริการ CDMA ของฮัทช์ ตามแผนใน 2Q/55 ทำให้ต้นทุนของธุรกิจ Mobile สูงกว่าที่คาด และ 2) ค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มจากการเปลี่ยนกล่อง True vision และค่าใช้จ่ายการตลาดจากปัญหาฟุตบอล Euro 2012 ส่วนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยใกล้เคียงกับ 1Q55 ขณะที่ค่าใช้จ่ายภาษีสูงขึ้น
     ใน 2Q/55 คาดว่า TRUE จะมีรายได้รวม 21,114 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% Y-O-Y แต่ลดลงเล็กน้อย 2% Q-O-Q ตามธุรกิจ Mobile และ True vision ที่เป็น low season ทั้งนี้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกว่ารายได้ จากการขยายโครงข่าย HSPA, โครงข่าย Broadband รวมทั้งค่าใช้จ่ายการตลาดทุกธุรกิจสูงขึ้น ส่งผลให้ Gross margin ลดลง Y-O-Y และ Q-O-Q เป็น 22.5% และคาดว่า TRUE จะมี EBITDA รวม 3,967 ล้านบาท ลดลง 16% Y-O-Y และ 7% Q-O-Q ขณะที่ EBITAD margin ลดลงเหลือ 18.8%
     ให้มุมมองต่อ True vision หลังเปลี่ยนระบบสัญญาณ และกล่องรับสัญญาณใหม่ ทำให้จำนวนลูกค้ากลุ่มบนโดยเฉพาะกลุ่ม Platinum และ Gold เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว นอกจากนี้ฟุตบอล “พรีเมียร์ลีก” ฤดูกาล 2012/2013 ที่จะเริ่มแข่งขันกลางเดือน ส.ค.นี้ พร้อมฟุตบอลลีกดังจากยุโรป เช่น ฟุตบอล “กัลโช่ เซเรีย อา” และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรป “ยูฟ่า” (UEFA Champions league) จะส่งผลบวกต่อรายได้ครึ่งปีหลัง 55 ของ True vision ส่วนกลุ่มธุรกิจ Mobile จะเริ่มเห็นผลของต้นทุนบริการชะลอลงจากการปิดโครงข่าย CDMA และค่าใช้จ่ายส่วนแบ่งรายได้ TrueMove ลดลงตามฐานลูกค้าที่จะย้ายไปใช้บริการ TrueMove H ขณะที่ธุรกิจ True Online มีโอกาสขยายฐานลูกค้า Broadband กว้างขึ้น จากการเปิดให้บริการโครงข่าย Broadband DOCSIS 3.0 ครอบคลุมพื้นที่ใหม่ เราคาดว่าจะหนุนรายได้ Broadband ดีต่อเนื่องครึ่งปีหลัง
     ปัจจุบัน CAT กับกลุ่ม TRUE อยู่ระหว่างแก้ไขสัญญาร่วมให้บริการ 3G HSPA ตามความเห็นของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค) มีกำหนดเสร็จใน 30 วัน หรือราวต้นเดือน ส.ค.นี้ รวมทั้งไม่มีการคุยกันถึงการเขียนสัญญาใหม่ตามที่เป็นข่าว ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่ CAT จะขอขยายเวลาออกไปอีก 30 วัน ซึ่งผู้บริหาร TRUE ยืนยันไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขค่าอุปกรณ์โครงข่ายที่ CAT จ่ายให้ BFKT และค่าคลื่นความถี่ที่ TrueMove H จ่ายให้ CAT รวมทั้งไม่กระทบการให้บริการของ TrueMove H ปัจจุบัน TrueMove H มีลูกค้าจำนวน 1.8 ล้านราย และยังมีเลขหมายทำตลาดอีกราว 2-3 ล้านเลขหมาย ทำให้ปีนี้ TrueMove H จะมี
     ฐานลูกค้าตามเป้าหมาย 4 ล้านราย ส่วนโครงข่าย 3G HSPA ปัจจุบันมี 6,000-7,000 สถานี สามารถรองรับฐานลูกค้าได้ราว 6-7 ล้านราย ตามสัญญาฯ จะต้องขยายโครงข่ายเป็น 13,000 สถานีในปีนี้ ซึ่งจะรองรับลูกค้าได้เกินกว่า 12 ล้านราย เรายังคาดว่า TrueMove H จะ Breakeven ได้ปลายปีนี้-ต้นปีหน้า
     ผู้บริหาร TRUE ยืนยันเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz ที่กสทช. จะเปิดประมูลเดือน ต.ค.นี้ แต่ยังไม่ระบุถึงแผนลงทุนของกลุ่ม TRUE บนคลื่นฯ 2100 MHz ประกอบกับ TRUE มีภาระการเงินสูงจากการลงทุนภายใต้สัญญาฯ ใหม่กับ CAT และเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนใหม่มากกว่าคู่แข่ง ทำให้เรายังไม่รวมมูลค่าบน 3G 2100 MHz ในปัจจัยพื้นฐาน TRUE โดยรวมเพียงมูลค่าบนสัญญาร่วมให้บริการ 3G HSPA กับ CAT ทั้งนี้เราจะประเมินมูลค่ารวม 3G 2100 MHz ของกลุ่ม TRUE อีกครั้งหากได้ข้อมูลมากขึ้น ขณะเดียวกันราคาหุ้นปัจจุบันเหลือ Upside จำกัดจากมูลค่าเหมาะสมที่ 4.20 บาท (DCF WACC @ 10%) ปรับคำแนะนำเป็น “ถือ”
* กรุงศรี แนะขายเชื่อ ทั้งปีนี้ขาดทุน1 พันลบ.ลดลงจาก4.5 พันลบ.ในปีก่อน
     บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า คงคำแนะนำ “ขาย” TRUE จากแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอกว่ากลุ่ม คาดผลประกอบการ 2Q55 ยังขาดทุนต่อเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งการขยายโครงข่าย 3G และต้นทุนในการเปลี่ยนกล่องของ TrueVision โดยภาพรวมทั้งปี55 แม้คาดว่าผลการดำเนินงานจะขาดทุนลดลง YoY จากค่าใช้จ่ายที่ลดลง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการจากการโอนย้ายลูกค้า CDMA ที่ล่าช้ากว่าเป้าหมาย ในขณะที่ระยะยาวแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นในธุรกิจดาวเทียมที่อาจส่งผลลบต่อธุรกิจ TrueVision นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นที่ยังไม่รวมในประมาณการ อาทิ ประเด็นข่าวการแก้ไขสัญญา HSPA หรือการที่กรมสรรพสามิตมีแนวคิดจะเก็บภาษีธุรกิจโทรคมนาคม
     บริษัทให้ข้อมูลแนวโน้มผลประกอบการ 2Q55 ยังคงมีผลขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน เป็นผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละธุรกิจ โดย
     1) ธุรกิจกลุ่ม Mobile มีต้นทุนสัมปทานจ่ายที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 30% (เริ่มตั้งแต่ 4Q54) และ ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการตลาด และต้นทุนในการขยายโครงข่าย 3G ที่เพิ่มขึ้น
     2) TrueVision มีต้นทุนเพิ่มจากการเปลี่ยน Set top box ให้กับลูกค้าทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบใช้บริการจากกล่องเถื่อน ในขณะที่ฐานสมาชิกปรับลดลงจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจทีวีดาวเทียม
     แนวโน้มผลประกอบการใน 2H55 คาดว่าจะขาดทุนลดลงจาก 1H55 เนื่องจาก ไม่มีต้นทุนในการเปลี่ยนกล่องสัญญานของ TrueVision และฐานลูกค้าใหม่ของ TrueVision มีแนวโน้มกลับมาเป็นบวกภาพรวมปี 55 เราคาดบริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานลดลงจากปีก่อนที่ 4.5 พันล้านบาท เหลือ 1 พันล้านบาท เนื่องจากกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ประกอบการคาดจะถึงจุดคุ้มทุนในปลายปี 55 หลังจากที่บริษัทมีการปรับโครงสร้างธุรกิจ และบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากปีที่ผ่านมาบริษัทต้องแบกรับต้นทุนที่ซ้ำซ้อนทั้งด้าน network และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจากการเข้าซื้อธุรกิจของ HUTCH
*บัวหลวง ชี้ปีหน้า TRUE ยังขาดทุน
     บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่า คาดว่างบรวมของ TRUE จะยังคงแสดงผลขาดทุนสุทธิในปี 2556 เนื่องจากงบลงทุนใหม่จำนวนมากสำหรับใบอนุญาต 3 จีบนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ซ ทั้งนี้ คาดผลขาดทุนสุทธิไตรมาส 2/55 ที่ 1.77 พันล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 3% YoY และ 289% QoQ ในขณะที่เราคาดผลขาดทุนหลักที่ 1.47 พันล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 44% YoY และ 42% QoQ ผลขาดทุนหลักที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นกลบผลกระทบของรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น ส่วนผลขาดทุนหลักที่เพิ่มสูงขึ้น QoQ เนื่องจากเหตุผลปัจจัยด้านฤดูกาลและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องมาจาก 1) การเร่งขยายฐานลูกค้าของทรูมูฟเอช และ 2) การขยายตลาดอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพิ่มขึ้นเป็น 38 จังหวัด
     เราคาดรายได้รวมในไตรมาส 2/55 เพิ่มขึ้น 18% YoY ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากลูกค้าใหม่ของทรูมูฟเอชและทรูออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในส่วนของรายได้ทรูวิชั่นส์มีแนวโน้มทรงตัว YoY เราคาด EBIT ในไตรมาส 2/55 ที่ 627 ล้านบาท หรือลดลง 56% YoY และ 11% QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทรูมูฟเอชทำการติดตั้งสถานีฐานไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 7 พันแห่ง ณ สิ้นเดือนก.ค. (ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 6 พันแห่งจาก ณ สิ้นเดือนพ.ค.) ในขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการ 3 จีภายใต้ทรูมูฟเอชเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2 ล้านราย ณ ปัจจุบัน เราคาดว่า EBITDA สำหรับทั้งสามธุรกิจในไตรมาส 2/55 ได้แก่ ทรูออนไลน์ ทรูวิชั่นส์ และทรูโมบายมีแนวโน้มลดลง
     ผู้บริหารกล่าวว่าทรูมูฟเอชยังคงเป้าหมายของจำนวนผู้ใช้บริการที่ 4 ล้านราย ณ ปลายปี 2555 ถึงแม้ว่าจะมีประเด็นเรื่องการแก้สัญญาทรูฮัทช์จากเรื่องข้อกฎหมาย ในขณะที่กสท.ยังคงอยู่ระหว่างการทำร่างส่วนแก้ไขของสัญญาทรูฮัทช์ฉบับปัจจุบัน
     ผู้บริหารได้กล่าวชี้แนะว่าจุดคุ้มทุนของทรูมูฟเอชมีแนวโน้มเลื่อนไปเป็นครึ่งแรกของปี 2556 แทนที่จะเป็นไตรมาส 4/55 ดังเช่นที่คาดก่อนหน้าเนื่องจากจะต้องมีงบลงทุน 3 จีที่เพิ่มขึ้น เราคาดว่างบรวมของ TRUE ทั้งปี 2556 จะยังคงแสดงผลขาดทุนสุทธิเนื่องจากงบลงทุนในใบอนุญาต 3 จีบนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ซและการลงทุนใหม่ในโครงข่าย 3 จีบนคลื่นความถี่เดียวกัน
     เราจะทำการปรับผลขาดทุนหลักสำหรับปี 2555-2556 เพิ่มขึ้นหลังจากงบไตรมาส 2/55 ประกาศออกมาเนื่องจากผลขาดทุนหลักสำหรับครึ่งแรกของปี 2555 ที่มีแนวโน้มออกมาสูงกว่าคาด รวมถึงงบลงทุนใหม่ปี 2556 มีแนวโน้มสูงกว่าที่คาดก่อนหน้า
*เอเซียพลัส ชี้ปัญหาสัญญา 3Gกับ CAT กระทบขยายฐานลูกค้าสะดุด
     บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เป็นที่แน่ชัดว่าสัญญา 3G กับ CATไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากอ้างอิงข้อสรุปของคณะอนุกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ที่ระบุว่า นายจิรายุทธ รุ่งแสงทอง (กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT ระหว่างทำสัญญา) เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ทำให้สัญญาระหว่าง CAT กับ TRUE ขัดต่อกฎหมายและควรเป็นโมฆะ
     นอกจากนี้ การดำเนินงานของ บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) ยังชัดเจนว่า ไม่มีคุณสมบัติให้เช่าเครื่องและอุปกรณ์แก่ CAT เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 จาก กสทช. (ตามมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม) แนวคิดการยกเลิกสัญญาของ CAT ที่ชัดเจนมากขึ้น ยังขัดกับทิศทางของ TRUE ที่เพียงต้องการแก้ไขสัญญาตามมติกสทช. 6 ข้อ ซึ่งหลักๆ ระบุให้ CAT ในฐานะเจ้าของคลื่นความถี่ 850 MHz ต้องมีอำนาจควบคุมคลื่นอย่างสมบูรณ์ส่งผลให้คาดว่า ความขัดแย้งของ 2 ฝ่าย มีแนวโน้มต้องไปจบที่กระบวนการชั่นศาล ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 1-2 ปี
     แต่ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นบวกต่อ TRUE แต่อย่างใด เนื่องจากปัจจุบันการขอจัดสรรเลขหมายจาก กสทช. เพื่อมาให้บริการ True Move H ยังต้องอยู่ภายใต้หน้าที่ของ CAT ในฐานะเจ้าของคลื่นความถี่ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนเลขหมายมีเพียงราว 4 ล้านเลขหมายเท่านั้น ทำให้แม้การขยายฐานลูกค้าของ True Move H จะประสบความสำเร็จ คือ มีลูกค้าในระดับจุดคุ้มทุนที่ราว 4 ล้านราย ณ สิ้นปีนี้ แต่การขยายในปีถัดๆไป เชื่อว่าจะเป็นปัญหา เพราะคาด CAT มีแนวโน้มที่ชะลอการดำเนินงานทั้งหมดจนกว่าจะได้ข้อสรุป
     ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงเชื่อว่า TRUE จะเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตคลื่น 2.1 GHz ใหม่ ที่จะเปิดในราวไตรมาส 4/2555 นี้ เพื่อเป็นทางเลือกสำรองจากบริการ True Move H แต่ทั้งนี้ ภายใต้เม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 2.0-3.0 หมื่นล้านบาท (รวมค่าประมูลใบอนุญาต) ด้วยระดับอัตราส่วนหนี้สิน : ทุนปัจจุบันที่สูง 6 เท่า TRUE จึงเผชิญความเสี่ยงเพิ่มทุน นอกจากนี้ รายจ่ายการตลาดที่สูงมากของ True Move H ยังมีแนวโน้มกดดันให้ขาดทุนงวดไตรมาส 2/2555 อาจสูงถึง 1.8-2.0 พันล้านบาท มากกว่าคาด ฝ่ายวิจัยจึงอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ โดยยังคงคำแนะนำเพียงถือ
* บอร์ด CATเลื่อนถกเลิกสัญญา3Gของ TRUE เป็น15 ส.ค.นี้
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่คณะทำงานของ กสท.โทรคมนาคม (CAT) จะสรุปรายละเอียดแนวทางการยกเลิกสัญญาสัมปทานและบริการ 3G HSPA ระหว่าง CATและบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เพื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) CAT ชุดที่มีนายดุษฎี สินเจิมศิริ เป็นประธานฯ ในวันที่ 8 ส.ค. นี้พิจารณานั้น ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่าการประชุม บอร์ด CAT ดังกล่าวมีกำหนดเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 15 ส.ค.นี้
* กูรู สั่งขาย ชี้เสี่ยงต่อรายได้ในอนาคต กรณีบอร์ด กสท.เลิกสัญญา 3G
     บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า TRUE บอร์ด กสท. อนุมัติเบื้องต้นแนวทางยกเลิกสัญญา 3G กับ TRUE และทำสัญญาใหม่แทน จะประชุมอีกครั้ง 8 ส.ค. เราเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสัญญา 3G บนคลื่น 850 MHz กับกสท.อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อรายได้ในอนาคต ยังคงแนะนำขาย เป้าหมาย 3.62 บาท
*บิ๊กTRUE ลั่นลุยประมูล 3Gความถี่ 2.1 GHz ระบุใช้เงินกู้หากไม่พอพร้อมเพิ่มทุน
     นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตคลื่น 2.1CHz ใหม่ (3G) โดยในเบื้องต้นงบประมาณที่จะเข้าร่วมประมูลถือว่ามีความพร้อม ซึ่งคงจะนำมาจากเงินกู้ของสถาบันการเงิน อาทิ SCB และ KTB และอีกส่วนหนึ่งจะนำมาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือกับทางคณะกรรมการ หรือ บอร์ด ของบริษัทฯ แล้วว่าอาจจะมีแนวทางที่จะต้องเพิ่มทุนหากมีรายจ่ายที่ไม่เพียงพอ
     นอกจากนี้ยืนยันว่าหากบริษัทฯ สามารถได้รับใบอนุญาตสัมปทาน 3G ก็จะไม่กระทบกับการให้บริการของลูกค้าที่ใช้คลื่น Truemove H เพราะบริษัทฯ ก็จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ และคาดว่าค่าบริการภายหลังจากการประมูล 3G ก็จะสะท้อนถึงต้นทุนที่แท้จริง ทำให้ค่าบริการจะไม่สูงจนเกินไป
     "คาดว่าในปีนี้ความเป็นไปได้ที่จะประมูล 3G มีถึง 80-90% เพราะปัจจุบันยังไม่เห็นปัจจัยที่จะไม่ทำให้เกิดการประมูลเกิดขึ้น โดยเราก็มีความพร้อมในเรื่องของเงินทุนที่จะเข้าร่วมประมูล แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเตรียมเงินไว้เท่าไร ซึ่งหากมี 3G เกิดขึ้นก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในการพัฒนาอุตสาหกรรมการสื่อสารจริงๆ"นายศุภชัย กล่าว