ศุกร์ 10 ส.ค.2555--eFinanceThai.com :
BEC-RS มาแรงแซงทางโค้ง
BEC-RS มาแรง!!! Q2/55 โชว์ผลงานสวย ฟันกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รับอานิสงส์อุตสาหกรรมโฆษณาฟื้น-เป็นช่วงไฮซีซั่น ฟากผู้บริหาร การันตีผลงาน Q3/55 ดีต่อเนื่อง แถมธุรกิจกีฬายังเป็นดาวเด่น หลังคว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลาลีกาสเปนมาได้ถึง 3 ปีซ้อน ขณะที่วงการนักวิเคราะห์แนะแค่ถือ BEC เพราะหวั่นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อในอนาคต-PER สูงถึง 23.8 เท่า-อัพไซด์จำกัด แต่เลือก RS เป็นหุ้น Top Pick เหตุคาดธุรกิจทีวีดาวเทียมโตก้าวกระโดดใน 3 ปีข้างหน้า
***BEC การันตีผลงาน Q3/55 สวย หลัง Q2/55 นำร่องโชว์กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์
         นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่าแนวโน้มรายได้ในไตรมาส 3/2555 ของบริษัทฯ มีโอกาสออกมาดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน เพราะในไตรมาสดังกล่าวได้รับปัจจัยบวกจากการออกอากาศรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2 และการถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกปี2012 นอกจากนี้ผลประกอบการในไตรมาส 2/2555 ยังออกมาดี ซึ่งมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ได้อีกไตรมาสหนึ่ง โดยอยู่ที่ 1,244.1 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสก่อน 140.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% และเพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะกลุ่มบีอีซีเวิลด์ มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นจากการจัดแสดงมากขึ้นและสามารถควบคุมค้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ และยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้นิติบุคคลอีกด้วย
         'แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3 ปีนี้ก็ถือว่าปกติ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนก็มีโอกาสที่จะออกมาดีกว่า เพราะมีรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ โอลิมปิกที่สลับกันถ่ายทอด 4 ช่องเข้ามาสนับสนุนด้วย ' นายฉัตรชัย กล่าว
         ส่วนแนวโน้มรายได้ในปีนี้มีโอกาสออกมาในทิศทางที่ดีกว่าปี 2554 ที่ทำได้ 12,970.34 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ทำได้กว่าครึ่งหนึ่งของทั้งปีที่ผ่านมาแล้ว โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,348,101 ล้านบาท ขณะที่ปี 2554 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,530.35 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงประเมินว่าหุ้น BEC เป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยมีนโยบายไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามที่แสดงในงบการเงินรวมและมีประเพณีที่จะจ่ายปีละสองครั้ง ส่วนในปีนี้คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลงวดระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 1 บาท สำหรับกรณีที่นายประวิทย์ มาลีนนท์ ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BEC นั้น คงไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ เนื่องจากการดำเนินธุรกิจยังคงเป็นไปตามปกติ โดยบริษัทฯ ยังคงลงทุนปรับปรุงอุปกรณ์ในการดำเนินงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้เงินลงทุนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ถือว่า BEC เป็นบริษัทฯ ที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ฉะนั้นจึงเน้นการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ส่วนการปรับขึ้นค่าโฆษณาปัจจุบันปรับขึ้นทุกๆ เดือน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่มีนัยสำคัญใดๆ
***RS โกยรายได้ Q2/55 กว่า 700 ลบ.กำไรโต 50%
         นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของอาร์เอส ในไตรมาส 2 ปี 2555 สามารถทำรายได้รวม 700.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 91.93 ล้านบาท โดยสามารถแบ่งสัดส่วนรายได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่กลุ่มมีเดียซึ่งประกอบไปด้วยสื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ และสื่อในห้างโมเดิร์นเทรด มีสัดส่วนอยู่ที่ 40% ในขณะที่กลุ่มคอนเทนต์ ซึ่งประกอบไปด้วยธุรกิจเพลง โชว์บิซ และกีฬา มีสัดส่วนอยู่ที่ 60% โดยรายได้ส่วนใหญ่เติบโตมาจากธุรกิจในกลุ่มมีเดีย (Media) โดยเฉพาะธุรกิจแซทเทลไลท์ทีวี ซึ่งในไตรมาส 2 นี้ ทำรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 36% และทำรายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 76% โดยแซทเทลไลท์ทีวีที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจทีวีของอาร์เอส ซึ่งประกอบไปด้วยช่องสบายดี ทีวี , YOU Channel , ช่อง 8 และ ย๊าค ทีวี ทำรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว อีกทั้งยังการันตีค่าความนิยมของผู้ชมได้จากผลการสำรวจของ เอจีบี นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช ที่พบว่าทั้ง 4 ช่องแซทเทลไลท์ของอาร์เอสติดอันดับช่องทีวีดาวเทียมที่มีจำนวนผู้ชมสูงที่สุด
         ส่วนช่องสบายดีทีวี (Sabaidee TV) ครองแชมป์อันดับ 1 ของช่องทีวีดาวเทียมทั้งหมด และยังครองอันดับ 1 ในกลุ่มมิวสิค ตามมาติดๆด้วยอันดับ 2 ช่องยู ชาแนล (YOU Channel) และช่องย๊าค (YAAK TV) ติดอันดับที่ 5 ในกลุ่มมิวสิค ขณะที่ช่อง 8 ( Channel 8) ก็ขึ้นแท่นมาเป็นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ วาไรตี้ ล่าสุดปรับค่าโฆษณาให้สอดคล้องกับความนิยมละคุณภาพของคอนเทนต์ โดยปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นประมาณ 50% โดยใช้กลยุทธ์การการันตีเรตติ้งให้ลูกค้าเพราะมั่นใจในศักยภาพช่องเทียบเท่าฟรีทีวี ซึ่งการปรับกลยุทธ์ในครั้งนี้ จะเป็นการนำร่องให้กับธุรกิจแซทเทลไลท์ทีวีของอาร์เอสต่อไป ในขณะที่ธุรกิจวิทยุ (Radio) โดย บริษัท สกายไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด ยังทำรายได้เดินหน้าต่อเนื่อง เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 32% โดยคลื่น Cool 93 Fahrenheit ยังครองเรตติ้ง (Rating) หรือค่าความนิยมเป็นคลื่นวิทยุอันดับ 1 ในกลุ่ม Easy Listening บนหน้าปัดวิทยุเมืองไทยมายาวนานต่อเนื่อง อีกทั้งยังสยายปีกในภาคเหนือ ด้วยการขยายคลื่นวิทยุเพิ่มเติมอีก 1 คลื่น FM 88 ภายใต้คอนเซ็ปต์ เชียงใหม่ COOL มาก ซึ่งก็ได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากผู้ฟังและลูกค้าผู้สนับสนุน และล่าสุดได้ขยายฐานการฟังสู่มือถือสมาร์ทโฟน โดยส่ง App Cool เข้าสู่ตลาด ก็ได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ด้วยยอดดาวน์โหลด พุ่งกว่า 7 แสน ดาวน์โหลด คาดว่าไม่เกินปลายปียอดดาวน์โหลดทะลุล้านแน่นอน
         สำหรับธุรกิจดาวรุ่งของอาร์เอสในปีนี้ก็คือธุรกิจกีฬา โดยบริษัทฯได้คว้าสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลาลีกาสเปนมาได้ถึง 3 ปีซ้อน (La Liga Spain 2012- 2015) และฟุตบอลโลก ปี 2014 แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งสามารถรับชมได้จาก SUNBOX กล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม โดยการจัดจำหน่ายของกลุ่ม BIG 4 ดีลเลอร์ขายจานดาวเทียมทั่วประเทศ ซึ่งตั้งเป้ายอดขาย 4 เดือนแรก (ก.ค.-ต.ค.) 5 แสนกล่อง โดยได้ร่วมกับพันธมิตรใจดี อย่างดีแทคมอบโปรโมชั่นพิเศษ ดูฟรี! โทรฟรี! เน็ตฟรี! ให้กับลูกค้าที่ซื้อกล่อง SUNBOX ภายใน31ตุลาคมนี้ และคาดว่าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านกล่อง ในปี 2014
         "สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของอาร์เอส บริษัทฯจะเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งควบคู่กันไปทั้งกลุ่มมีเดียและคอนเทนต์ แต่ในปีนี้จะให้ความสำคัญกับธุรกิจแซทเทลไลน์ทีวีและกีฬาเป็นพิเศษ เนื่องจากบริษัทฯคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลลาลีกาสเปนมาได้ถึง 3 ปีซ้อน พร้อมกับเปิดช่องอาร์เอส สปอร์ต ลาลีกา โดยมีสปอนเซอร์มาร่วมสร้างกิจกรรมดีๆ และโปรโมชั่นต่างๆมากมาย โดยมั่นใจว่าปลายปีจะทำรายได้รวมตามที่ตั้งเป้าไว้ 3,200 ล้านบาท ได้อย่างไม่ยากนัก นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทฯยังอนุมัติให้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.10 บาท เพื่อเป็นข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้นอาร์เอสอีกด้วย " นายดามพ์ กล่าว
***บล.เกียรตินาคิน แนะขาย BEC หวั่นอนาคตเปลี่ยนภูมิทัศน์สื่อกระทบ
         บล.เกียรตินาคิน เปิดเผยว่าคงคำแนะนำขายหุ้น BEC เพราะกังวลผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อในอนาคต แม้ว่าผลประกอบการปี 2555 จะมีแนวโน้มเติบโตด้วยความแข็งแรงของ Content รายการบันเทิงและรายการการเล่าข่าวของบริษัท อย่างไรก็ตามฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าในอนาคต BEC มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อทำให้การแข่งขันสูงขึ้น ซึ่งเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อสื่อโฆษณาของเอเจนซี่มากขึ้นในปีนี้ และ ราคาหุ้น BEC สูงกว่าราคาเหมาะสมที่ประเมินแล้ว ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น BEC เท่ากับ 47.60 บาทต่อหุ้น (P/E Multiple by Gordon Growth Model ~20 เท่า)
***บล.ทิสโก้ แนะถือ BEC เหตุอัพไซด์จำกัด
         บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่าผลประกอบการ 1H55 ของ BEC อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% YoY คิดเป็น 50% จากประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ โดยรายได้จากการโฆษณาเพิ่มขึ้น 10% สำหรับ 1H55 จากการปรับตารางเวลาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 53.5% ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากต้นทุนรายการที่สูงขึ้น โดยฝ่ายวิเคราะห์ได้รวมการปรับลดส่วนลดของ BEC ซึ่งจะทำให้ราคาเพิ่มขึ้น 7-10% ต่อปีในประมาณการแล้ว และประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 1 บาทสำหรับการดำเนินงานในช่วง 1H55 โดยจะขึ้น XD ในวันที่ 20 สิงหาคมและจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 กันยายนคิดเป็นผลตอบแทน 2%ส่วนมูลค่าที่เหมาะสมของ BEC ประเมินไว้ที่ 58 บาทต่อหุ้น ซึ่งอ้างอิง DCF สำหรับปี 2556 โดยใช้อัตราคิดลด 9.3% และเบต้า 0.85 เท่า โดยมีอัพไซด์ที่จำกัดแนะนำให้ ถือ เนื่องจากเงินปันผลประมาณ 4-5% ต่อปี โดยมีความเสี่ยงในเชิงบวกจาก 1.ความล่าช้าในการเปิดดิจิตอลทีวีและการควบคุมทีวีผ่านดาวเทียม ในขณะที่ความเสี่ยงในเชิงลบมาจากความนิยมที่ลดลง การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และการบริโภคที่ลดลง
***MBKET เมินผลงาน Q2/55 ของ BEC สวย แนะถือ เหตุ PER สูงถึง 23.8 เท่า
         บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/2555 ของ BEC ทำสถิติสูงสุดตามคาด โดย BEC รายงานกำไรสุทธิ 1,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% QoQ และ 22% YoY เนื่องจากไตรมาสสองเป็นไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมโฆษณา และ การที่ช่อง 3 มีการขยายเวลาออกอากาศรายการที่มีค่าโฆษณาสูง อีกทั้งมีการปรับขึ้นค่าโฆษณา 5-7% สำหรับบางรายการเริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค.2555 และ ปรับขึ้นค่าโฆษณารายการข่าว 3 มิติ และ ภาพยนตร์เกาหลี 14% เป็น 3.3 แสนบาทต่อนาทีตั้งแต่เดือน มี.ค. 2555 นอกจากนั้น BEC ยังมีรายได้เพิ่มเติมจากการเป็นสถานีโทรทัศน์หลักในการถ่ายทอดฟุตบอลยูโร 2012 และ การออกอากาศรายการ Thailand’s Got Talent Season 2
         ขณะที่รายได้จากการจัดการแสดงและคอนเสิร์ตเพิ่มขึ้นถึง 226% YoY จากจำนวนการจัดการแสดงที่เพิ่มขึ้น และ คอนเสิร์ต เลดี้ กาก้า อัตรากำไรขั้นต้นของ BEC ลดลงจาก 56.4% ในไตรมาส 2/2554 เป็น 52.5% เนื่องจากการขยายเวลาออกอากาศรายการที่มีต้นทุนสูงและต้นทุนการจัดการแสดงที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายลดลงเนื่องจากค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ส่วนภาษีจ่ายลดลง 13% YoY จากมาตรการลดภาษี
         ส่วนกำไรในช่วง 1H55 คิดเป็น 52% ของ ประมาณการกำไรปีนี้ที่ 4,496 ล้านบาท (2.25 บาท/หุ้น) เติบโต 27% YoY ผลประกอบการใน 2H55 มีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดีจากการขยายตัวต่อเนื่องของอุตสาหกรรมโฆษณา คาดอัตราการใช้เวลาโฆษณายังคงหนาแน่น อีกทั้งมีการปรับขึ้นค่าโฆษณารายการ เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ 12% เป็น 2.9 แสนบาทต่อนาทีตั้งแต่เดือน ก.ค. สำหรับการร่วมกับทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012/2013 รวม 17 แมทช์ เริ่มกลางเดือน ส.ค. นี้ ถึงเดือน พ.ค. ปีหน้า ออกอากาศในช่วงไพร์มไทม์เวลา 18.00 น.,20.00 น. ,21.00 น. และ 22.00 น. คาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับ BEC เพียงส่วนหนึ่ง เนื่องจากโดยปกติรายการในช่วงไพร์มไทม์ขายนาทีโฆษณาได้เต็มอยู่แล้ว อีกทั้งต้องแบ่งรายได้ให้กับทรูวิชั่นส์ แต่การออกอากาศพรีเมียร์ลีก 2 ชั่วโมงต่อแมทช์ ทำให้สามารถขายนาทีโฆษณาที่ราคาสูงขึ้นกว่าการออกอากาศรายการปกติในช่วงเวลาหลัง 22.45 น.นอกจากนี้ BEC ยังมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ (Net cash) โดยได้ประกาศจ่ายเงินปันผล 1H55 เท่ากับ 1 บาท/หุ้น (XD 20 ส.ค.) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนครึ่งปี 1.9% แม้จะมีมุมมองเป็นบวกต่อ BEC แต่หุ้นซื้อขายที่ PER สูงถึง 23.8 เท่า จึงแนะนำถือ โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 53 บาทต่อหุ้น
***บล.เอเซีย พลัส เลือก RS เป็น Top Pick กลุ่มบันเทิง
         บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่าหุ้น BEC จากเดิมแนะนำขาย ฝ่ายวิเคราะห์เปลี่ยนเป็นแนะนำถือ อันเป็นผลมาจากกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/2555 ดีเกินคาด จากแรงหนุนของการปรับขึ้นค่าโฆษณา และขยายเวลารายการที่มีอัตราค่าโฆษณาสูงให้ยาวขึ้น รวมถึงรายได้เพิ่มเติมจากการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 และคอนเสิร์ต Lady Gaga ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 และ 2556 เฉลี่ยราวปีละ 5.5% พร้อมทั้งปรับ Fair Value ขึ้นจากเดิม 19% โดยมาอยู่ที่ 53.60 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ BEC จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรก 1 บาทต่อหุ้น (Div Yield 1.9%)
         ส่วน RS แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 5.10 บาทต่อหุ้น หลังกำไรงวดไตรมาส 2/2555 เพิ่มขึ้น 60% qoq เติบโตดีเกินคาด ด้วยปัจจัยบวกได้แก่ การปรับขึ้นค่าโฆษณาของสื่อวิทยุ และทีวีดาวเทียวที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง, ธุรกิจ Show Biz ที่ประสบความสำเร็จในการจัดคอนเสิร์ต ลิฟท์ กับออยยังคงคำแนะนำ ซื้อ มี Upside 15% และเลือกเป็น Top Pick ของกลุ่มบันเทิง
***บล.เกียรตินาคินชี้ธุรกิจทีวีดาวเทียมของ RS โตก้าวกระโดดใน 3 ปีข้างหน้า
         บล.เกียรตินาคิน เปิดเผยว่าแนะนำนักลงทุนซื้อหุ้น RS เพราะคาดว่าครึ่งปีหลังกำไรดีต่อเนื่อง และมีโอกาสเติบโตจากธุรกิจเพย์ทีวี บริษัทมีแผนจะปรับขึ้นค่าโฆษณาช่องทีวีดาวเทียมของบริษัทขึ้นราว 50-100% ในเดือน ส.ค. นี้ และในงวดไตรมาส 3/2555 ยังมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่อีก 2 คอนเสิร์ตของศิลปินดังในอดีตของบริษัท (ลิฟท์กับออย และเจมส์) รวมทั้งบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจเพย์ทีวี (RS Sport Laliga) เข้ามาในงวด 2H55 ทั้งรายได้จากการขายกล่องรับสัญญาณดาวเทียม Sunbox บางส่วนและรายได้ค่าสมาชิกช่อง RS Sport Laliga ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าธุรกิจเพย์ทีวีมีโอกาสสร้างการเติบโตให้กับบริษัทอย่างก้าวกระโดดในช่วง 3 ปีต่อจากนี้