ศุกร์ 7 ต.ค.2554--eFinanceThai.com :
หุ้นนิคมฯสำลักน้ำ * ROJNA อ่วมอรทัยหลังอยุธยาน้ำทะลัก!

        หุ้นนิคมฯ สำลักน้ำท่วม โดยเฉพาะ ROJNA หลังน้ำทะลัก 46 รง.ในอยุธยา เสียหายแสนลบ. โรงงานหลายแห่งปิดกิจการ ด้านกูรู ประสานเสียงน้ำท่วมกระทบ ศก. ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มนิคมฯ แนะนำเลี่ยงลงทุนหุ้น ROJNA ขณะที่ผู้บริหารเร่งเสริมคันดินป้องกันเต็มสูบ ด้าน รมว.สาธารณสุข ระดมกำลังป้องกันนิคมฯ ไฮเทค-สวนอุตสาหกรรมโรจนะ เหตุเป็นที่ตั้งของโรงงานขนาดใหญ่กว่า 100 แห่ง
***น้ำทะลักท่วม "46 รง.นิคมอุตฯ" อยุธยา !! เสียหายแสนลบ.
        เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2554 กระแสน้ำจากแม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรีและกระแสน้ำหลากตามทุ่งจาก จ. ลพบุรี ได้ไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ชุมชนสองฝั่งแม่น้ำและเขตทุ่งนา ใน 16 อำเภอของจังหวัด ทั้งนี้ ในจำนวนนี้มีถึง 14 อำเภอ ที่โดนน้ำท่วมอย่างหนักและบางอำเภอถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว เนื่องจากถนนถูกน้ำท่วมไม่สามารถสัญจรได้ เช่น อ.บ้านแพรก อ.มหาราช อ.ท่าเรือ อ.ผักไห่ ขณะที่ อ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.นครหลวง เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก โดยคันกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนคร ต.บางพระครู อ.นครหลวง ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้และพังลง ส่งผลให้น้ำเอ่อเข้าท่วม โรงงานขนาดใหญ่และขนาดกลางในนิคมกว่า 46 แห่ง โดยเกือบทุกโรงงานไม่สามารถที่จะขนย้ายสิ่งของได้ทัน โดยนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท นอกจากนี้กระแสน้ำยังไหลข้ามคันล้อมของเทศบาลเมืองอโยธยา และ อบต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธา เข้าท่วมสถานที่สำคัญในพื้นที่หลายแห่ง         นอกจากนี้น้ำยังเอ่อท่วมบนถนนโรจนะเส้นทางขาออกอยุธยา ตั้งแต่แยกวงเวียนกลางถนนถึงสี่แยกวัดพระญาติ โดยน้ำยังคงท่วมขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง
*** ROJNA เร่งเสริมคันดินป้องกันน้ำท่วม
        นางสาวอมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่าขณะที่บริษัทฯ กำลังเร่งเสริมคันดิน เพื่อป้องกันน้ำท่วม หลังจากที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมและพื้นที่หลายแห่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมหนัก นอกจากนี้ที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังได้ประสานงานไปยังผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมของโรจนะให้เตรียมความพร้อมรับมือเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
        "สถานการณ์น้ำท่วมปีนี้หนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยได้บอกให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมเตรียมรับมือแล้ว ส่วนตอนนี้ก็เร่งเสริมคันดินป้องกันให้สูงมากขึ้นแล้ว ตอนนี้ก็ช่วยกันอย่างเต็มที่ แต่เป้าหมายรายได้ปีนี้บริษัทฯ ก็ยังไม่ได้มีการทบทวนยังคงเป้าหมายเติบโต 8-10% จากปีก่อนเหมือนเดิม " นางสาวอมรา กล่าว
*** ASP มั่นใจ ROJNA รับมือสถานการณ์น้ำท่วมได้
        บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่าหลังจากที่ได้ทำการสอบถามกับทางผู้บริหารของบริษัทในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมจำนวน 3 บริษัท ซึ่งประกอบด้วย บริษัท อมตะคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA ,บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ HEMRAJ และบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA พบว่าปัจจุบันนิคมฯ แต่ละแห่งยังปลอดภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดย AMATA มีนิคมฯ จำนวน 2 แห่งคือ อมตะนคร จ.ชลบุรี และอมตะซิตี้ จ.ระยอง ขณะที่ HEMRAJ มีนิคมฯ จำนวน 6 แห่ง ซึ่งอยู่ใน จ.ระยอง 4 แห่ง คือ มาบตาพุด,อีสเทอร์ซีบอร์ด, เหมราชอีสเทอร์ซีบอร์ด และ RIL ส่วนที่เหลือคือเหมราชชลบุรี และ SIL จ.สระบุรี ด้าน ROJNA มีสวนอุตสาหกรรมจำนวน 2 แห่ง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ระยอง โดยนิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่สูงกว่าเขตอื่น และทางบริษัทมีแผนรองรับแล้ว จึงคาดว่าจะสามารถรับมือกับเหตุการณ์น้ำท่วมได้ในระดับหนึ่ง
*** ดีบีเอสฯ ระบุน้ำท่วมส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มนิคมฯ
        บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส เปิดเผยว่าจากกรณีที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา อาจส่งผลลบต่อหลักทรัพย์ที่มีโรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เพราะน้ำท่วมหนักทำให้นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครได้รับความเสียหายมาก เพราะมีโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ อาจส่งผลกระทบให้อุตสาหกรรมยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความเสียหายเรื่อง Supply chain ตามมา สำหรับหลักทรัพย์ที่ตั้งโรงงานหรือสถานที่ประกอบธุรกิจอยู่ จ.พระนครศรีอยุธยาและมีความเสี่ยงในเชิงลบ เพราะแม้น้ำไม่ท่วมโรงงาน แต่การที่คนงานไม่สามารถไปทำงานได้ หรือขาดชิ้นส่วนก็อาจต้องหยุดโรงงานได้ เช่น กรณี Honda เป็นต้น ส่วนหุ้นที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ROJNA, HANA, SMT, KCE, AH และ MCS
***โกลเบล็ก แนะเลี่ยงลงทุนหุ้น ROJNA
        บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่าในระยะสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นของ ROJNA เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมซึ่งจะทำให้ธุรกิจภายในนิคมฯ ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้น้ำท่วมยังเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนจะใช้พิจารณาในการเข้าซื้อ ที่ดินซึ่งอาจจะเลื่อนหรือยกเลิกการซื้อที่ดินกับ ROJNA ได้ ภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่และทำให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งต้อง หยุดการผลิตอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
***คันทรี่ กรุ๊ป หวั่นน้ำท่วมกระทบ ศก.
        บล.คันทรี่ กรุ๊ป เปิดเผยว่าจากกรณีที่เกิดปัญหาน้ำท่วมในหลายๆ จังหวัด ที่มีผลกับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่หลายแห่ง ความเสียหายตอนนี้ประเมินไว้ว่าอาจสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท (0.3% ของ GDP : คำนวณบนการขยายตัวของ GDP ที่ 4%) จะมีผลมาถึงหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น นอกจากนี้เริ่มมีการพูดถึงมากคือหุ้นที่จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของยุโรป โดยสัดส่วนการส่งออกของไทยไปยังโซนนี้คือ 14%
***ม.หอการค้าไทย หั่นจีดีพีปีนี้เหลือ 3.6% หลังน้ำท่วม- ศก.โลกป่วน
        ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ได้ปรับประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ปี 2554 ลงมาเหลือขยายตัวอยู่ที่ 3.6% จากเดิมที่คาดขยายตัว 4.4% ทั้งนี้เป็นผลจากการที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ทำให้ภาคการเกษตรไม่สามารถจำหน่ายข้าวเข้าโครงการรับจำนำได้ ซึ่งจะทำให้แนวโน้มการใช้จ่ายในไตรมาส 4 ไม่คึกคักนัก รวมทั้งยังส่งผลต่อภาคธุรกิจหลายส่วน เช่น ภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศ นอกจากนี้ สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลต่อความยั่งยืนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และประชาชนเกิดความกังวลต่อความมั่งคั่งทางบัญชีมากขึ้น หลังจากที่ความผันผวนในตลาดหุ้นและตลาดทุนเพิ่มมากขึ้น
        โดยคาดว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 3/2554 ของไทยจะขยายตัวอยู่ที่ 4.0% ซึ่งลดลงจากการคาดการณ์เดิมที่คาดว่าขยายตัว 4.5-5% แต่ยังถือเป็นการขยายตัวในทิศทางที่เพิ่มขึ้น 6 ไตรมาสติดต่อกัน นับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2552 โดยเป็นผลจากเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงมีสัญญาณการฟื้นตัว ด้านการบริโภคภายในประเทศมีสัญญาณที่ดีขึ้น และความต้องการสินค้าจากต่างประเทศยังขยายตัวดี อย่างไรก็ตามเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น รวมทั้งมองว่าเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่ยังไม่ชัดเจน จะทำให้เศรษฐกิจในไตรมาส 4 ขยายตัวที่ 4.5% จากเดิมที่คาดขยายตัว 5-6% ทั้งนี้หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมขังและขยายพื้นที่ความเสียหายเข้ามาถึงกรุงเทพฯ จะทำให้ความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก 20,000 ล้านบาท
***MCS แจงน้ำท่วม บางไทร ไม่กระทบบริษัท
        นายสมพงษ์ เมธาสถิตย์สุข กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MCS เปิดเผยว่าบริษัทฯขอแจ้งให้ทราบว่า ณ ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อบริษัทฯ ทางบริษัทฯ ยังสามารถผลิตงานได้ตามปกติ โดยขณะนี้ระดับน้ำอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าพื้นที่ของบริษัทฯประมาณ 60 เซ็นติเมตรและทางบริษัทได้ประสานกับเทศบาลให้ป้องกันพื้นที่รอบนอกเป็นอย่างดี อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีแผนป้องกันกรณีฉุกเฉินไว้พร้อม ดังนั้นส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมไม่มีผลกระทบต่อการผลิตและแผนงานส่งออกของบริษัทฯ