อังคาร 24 ก.ค.2555--eFinanceThai.com :
POST แรงเกินห้ามใจ

* สตอรี่เพียบ- หนุนหุ้นสิ่งพิมพ์วิ่งฉิว
         POST เดินหน้านำทีมหุ้นสื่อสิ่งพิมพ์มาแรง 5 วันทำการบวก 171.38% รับกระแสข่าวกลุ่มทุนการเมือง เล็งเทคโอเวอร์กิจการ หนุนจิตวิทยาการลงทุนหุ้นในกลุ่ม ทั้ง MATI - WAVE และกลุ่ม NMG ขณะที่บริษัทออกโรงแจง ไม่มีอะไรในกอไผ่ ด้านโบรกเกอร์ชี้กลุ่มนี้มีข่าวดีหนุนจากธุรกิจทีวีดาวเทียม เลือก MAJOR - RS เป็นหุ้นเด่น
* POST พุ่งรับข่าวกลุ่มทุนการเมืองเข้าเทคโอเวอร์
         เพียงแค่ 5 วันทำการเท่านั้น ราคาหุ้น บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) หรือ POST ก็ปรับเพิ่มขึ้นถึง 171.38% เมื่อนับจากราคาปิด 3.04 บาท เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2555 จนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม 2555 ราคาหุ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 8.25 บาท หรือ 171.38% ดังกล่าว ก่อนจะปิดอ่อนตัวลงเล็กน้อยที่ 7.55 บาท หลังจากมีกระแสข่าวว่ากลุ่มทุนจากทางการเมืองสนใจเข้าซื้อกิจการ โดยหวังจะซื้อหุ้น POST จากบรรดาผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั่นก็คือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) (GRAMMY)
         ขณะที่ POST ได้ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่ปรากฏข่าวในหนังสือพิมพ์ว่าผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งของบริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อเจรจาขายหุ้นของบริษัทนั้นบริษัทขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้รับการติดต่อ ในเรื่องดังกล่าว
* แจงการเปิดตัว M2F- การผลิตข่าวผ่านวิทยุ-โทรทัศน์ เป็นพัฒนาการที่สำคัญของบริษัทฯ
         ในเวลาไล่เลี่ยกันนี้ POST ได้ชี้แจงให้ทราบถึงพัฒนาการที่สำคัญของบริษัท ซึ่งให้ความหมายว่าอาจมีผลต่อราคาหุ้นนั้น มาจากกรณีที่บริษัทได้เปิดตัวหนังสือพิมพ์ M2F ในเดือนตุลาคม 2554
         โดย M2F เป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทยแจกฟรี มีขนาดกระทัดรัด ออกทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ 5 วันต่อสัปดาห์โดยได้รับการตรวจสอบเพื่อรับรองยอดพิมพ์และแจกจ่ายจำนวน 400,000 ฉบับต่อวัน ตามจุดแจกจ่ายประมาณ 250 แห่งในกรุงเทพมหานคร แม้ว่าบริษัทจะไม่คาดหวังว่าหนังสือพิมพ์ M2F จะสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทในปีแรกของการดำเนินงานแต่บริษัทคาดว่าจะเริ่มมีกำไรภายในปีที่สองหรือปีที่สามเป็นต้นไป บริษัทหวังว่า M2Fจะเป็นธุรกิจที่ทำรายได้ และสร้างผลกำไรหลักในห้าปีข้างหน้า
         บริษัทยังคงดำเนินการผลิตข่าวที่มีคุณภาพ และสิ่งที่น่าสนใจทั่วไปทางรายการโทรทัศน์ตามกลยุทธของบริษัทที่จะสื่อข่าวและข้อมูลผ่านทุกสื่อปัจจุบันบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์และวิทยุผ่านรายการโทรทัศน์ช่อง 5 ทีเอ็นเอ็น 24 รายการวิทยุคลื่น FM101 และร่วมผลิตรายการข่าวสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11
* GRAMMY แจงยังไม่ได้จ้าง FA ขายหุ้นใน POST แต่อย่างใด
         สำหรับ GRAMMY เอง ได้รายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกัน โดยระบุว่า จากกรณีข่าวในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม 2555 หัวข้อข่าว แกรมมี่เล็งขายโพสต์ โดยเนื้อข่าวได้ระบุเกี่ยวกับการขายหุ้นของ บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด(มหาชน) (โพสต์ พับลิชชิง ) ที่ถือโดยบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) นั้น
         บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า ณ ปัจจุบัน บริษัทยังคงถือหุ้นอยู่ในโพสต์ พับลิชชิง และยังมิได้มีการตกลงว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวซึ่งในเบื้องต้นนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาและศึกษาในรายละเอียดต่างๆ และยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใดทั้งนี้หากมีความคืบหน้าประการใด บริษัทจะชี้แจงให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไป
         ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ GRAMMY ออกมาระบุว่า ณ ปัจจุบัน บริษัทยังคงถือหุ้นอยู่ในโพสต์ พับลิชชิง และยังมิได้มีการตกลงว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวซึ่งในเบื้องต้นนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาและศึกษาในรายละเอียดต่างๆ และยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด
* บิ๊ก NBC ชี้ชัดกลุ่มทุนการเมืองเข้ามาบริหารงานช่องทีวีดาวเทียมแล้ว 6-7 ช่อง
         นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น หรือ NBC เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวไม่ขอให้ความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ แต่ยืนยันว่าปัจจุบันกลุ่มทุนการเมืองบางกลุ่มเข้ามาบริหารงานในช่องทีวีดาวเทียมเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว โดยที่พอจะนับได้ในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 6-7 ช่อง
         นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคาดว่าธุรกิจทีวีดาวเทียมในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะประชาชนเริ่มติดตั้งกล่องรับสัญญาญดาวเทียมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้ทีวีดาวเทียมสามารถเข้าถึงทุกครัวเรือนไทยได้กว่า 60-70% ทำให้ได้รับความสนใจจากสินค้าและเอเยนซี่ ในการจัดสรรงบประมาณในการลงโฆษณา ประกอบกับผู้ประกอบการธุรกิจทีวีดาวเทียมปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้นเช่น กล่องGMMZ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือกล่องซันบล็อก ของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
         ขณะเดียวกัน บริษัทฯ จะพยายามทำผลงานในช่วงครึ่งปีหลังให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนทั้งปีนี้บริษัทฯ คาดว่ารายได้จะเติบโต 15%จากปีก่อนที่ทำได้ 668 ล้านบาท หลังจากที่คาดว่างบโฆษณาของบริษัทสินค้าและเอเยนซี่ในช่วงไตรมาส 3 ถึงไตรมาส4 จะปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสอื่น หากไม่มีปัจจัยจากน้ำท่วมในปีนี้เข้ามากระทบ
* ระบุไม่ทราบสาเหตุหุ้นกลุ่มเนชั่นปรับขึ้น
         นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่ราคาหุ้นในกลุ่มเนชั่น ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แต่ในช่วงนี้บริษัทฯ ไม่ได้เปิดตัวอะไรใหม่เป็นพิเศษ แต่ราคาหุ้นในกลุ่มธุรกิจสื่อปรับตัวขึ้นมาทั้งกลุ่ม อย่างไรก็ตามบริษัทฯ คาดว่ารายได้ในช่วงไตรมาส 2/2555 ยังดีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารายการของเนชั่นฯ ที่ออกอากาศทางช่อง 9 จำนวน 2 รายการ คือ เช้าข่าวข้น และ ข่าวข้น คนข่าว จะถูกถอดออกจากผังทางช่อง 9 หลังทีวีดาวเทียมได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชม
         "ในช่วงไตรมาส3/2555 บริษัทฯ จะนำทั้ง 2 รายการ คือ 'เช้าข่าวข้น' และ 'ข่าวข้น คนข่าว' ที่ถูกถอดออกจากผังทางช่อง9 มาลงในผังของช่องเนชั่น แชนแนล และกับกลุ่มสื่อทีวีดาวเทียมของเนชั่นฯ 3 ช่อง คือ เนชั่น แชนแนล แมงโก้ ทีวี ระวังภัย 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีค่าโฆษณาทางทีวีดาวเทียมปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้จะไม่เท่ากับที่ออกอากาศทางฟรีทีวี" นายอดิศักดิ์ กล่าว
         ขณะที่ปิดตลาด 24 กรกฎาคม 2555 หุ้น NBC ปิดที่ 5.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 3.81% มูลค่าการซื้อขาย 102.25 ล้านบาท, NMG ปิดที่ 1.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 10.95% มูลค่าการซื้อขาย 691.04 ล้านบาท, NINE ปิดที่ 5.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท หรือ 10.38% มูลค่าการซื้อขาย 154.63 ล้านบาท
         รวมไปถึง บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) หรือ MATI ที่มีกระแสว่ากลุ่มทุนการเมืองเข้าแทรกก่อนหน้านี้นั้น ได้ปิดที่ซิลลิ่งที่ระดับ 10.40 บาท เพิ่มขึ้น 2.40 บาท หรือ 30% มูลค่าการซื้อขาย 193.74 ล้านบาท และ บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE ปิดซิลลิ่งที่ 15.80 บาท เพิ่มขึ้น 3.60 บาท หรือ 29.51% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 125.34 ล้านบาท
         พร้อมกันนี้ WAVE ได้แจ้งว่าตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการสอบถามถึงพัฒนาการใดๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหลักทรัพย์ของ บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (WAVE) เนื่องจากพบว่าสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวันก่อนหน้าเพื่อให้ผู้ถือหุ้นและหรือผู้ลงทุนได้มีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วน
         บริษัทขอชี้แจงว่า บริษัทไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไป และไม่ทราบถึงสาเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขายหรือ
* บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มองกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ แนะนำเป็นบวก
         ด้านฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง วิเคราะห์หุ้นกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ว่า มองว่าอุตสาหกรรมโฆษณาเติบโตสูงสุดในรอบปี โดยเม็ดเงินโฆษณาในเดือน มิ.ย. มีอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 1 ปี โดยเพิ่มขึ้น 11.4% YoY เป็น 10,117 ล้านบาท (+6.4% YoY ใน 1H55) อุตสาหกรรมโฆษณายังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องใน 2H55 จากความต้องการซื้อโฆษณาที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจและการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
         ทั้งนี้ คาดผลประกอบการ 2Q55 ของกลุ่มสื่อเติบโต QoQ ตามผลของฤดูกาล แต่จะชะลอตัวลง YoY จากฐานกำไรที่สูงในปีก่อน เรายังเลือก MAJOR เป็นหุ้นแนะนำแม้คาดกำไรใน 2Q55 ลดลง YoY แต่ยังเติบโต QoQ และมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H55 โดยให้ราคาเป้าหมาย 23.50 บาท
* บล.เกียรตินาคิน ให้น้ำหนักการลงทุน Neutral
         ด้านฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน ให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นสื่อและสิ่งพิมพ์เป็น Neutral โดยระบุว่าสื่อทีวีดาวเทียมยังคงเป็นไฮไลต์ของอุตฯ สื่อโฆษณาในปี 2555 เพราะแม้เรามองว่าปี 2555 กลุ่ม MEDIA จะได้รับปัจจัยบวกจากกิจกรรมระดับโลกถึง 2 รายการ แต่อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในกลุ่มหลายตัวเข้าใกล้ราคาเหมาะสมที่เราประเมิน เราจึงคงคำแนะนำ “Neutral” กลุ่ม MEDIA ขณะที่การชะลอตัวของสื่อฟรีทีวีในเดือน มิ.ย. 55 แสดงให้เห็นถึงโอกาสของ สื่อทีวีดาวเทียม/เคเบิลทีวี มากขึ้นและยืนยันถึงแนวโน้มการเติบโตในอนาคต
         เราจึงยังคงเลือก RS เป็นหุ้น Top Pick ของกลุ่ม MEDIA เนื่องด้วยโอกาสการเติบโตจากธุรกิจทีวีดาวเทียมและธุรกิจการให้บริการเพย์ทีวีช่อง RS Sport Laliga ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือน ก.ค. 55 ที่ผ่านมา