อังคาร 16 ส.ค.--eFinanceThai.com
หุ้นหลักทรัพย์โชว์กำไรโค้ง 2 โต 80%
          เปิดงบการเงินโค้ง 2 กลุ่มหลักทรัพย์ พบกำไรรวมพุ่ง 81.57% นำโดย PHATRA โชว์กำไร Q2/54 สวยสุด 232.58 ล้านบาท เพิ่ม 39.16% ตามรายได้ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ ZMICO กำไรลดลงมากสุด 63.86% ด้านกูรูยังเชียร์ซื้อเก็งกำไร PHATRA-BLS ในระยะสั้น แต่ระวังระยะยาวถูกกดดันจากแผนเปิดเสรี
          ตามรอยหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์หลังประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/54 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2554 ในภาพรวมปรากฏว่ามีกำไรสุทธิดีขึ้น โดยล่าสุดทั้งกลุ่มมีกำไรสุทธิรวม 835.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 375.27 ล้านบาท จากไตรมาส 2/53 ที่มีกำไรรวม 460.03 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 81.57%
* PHATRA กำไรเด่น 232.58 ลบ.
          โดยบริษัทหลักทรัพย์ที่ผลการดำเนินงานสูงสุด ได้แก่ บมจ.ทุนภัทร หรือ PHATRA ที่มีกำไรสุทธิ 232.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.46 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/53 ที่มีกำไร 167.12 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 39.16% ส่วน
          ขณะที่ บล.ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO ที่มีกำไรสุทธิเพียง 3.66 ล้านบาท ลดลง 6.47 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/53 ที่มีกำไรสุทธิ 10.13 ล้านบาท ถือเป็นการลดลง 63.86%
* GBX เปลี่ยนแปลงดีสุด กำไรพุ่งกระฉูด 1,186.55%
          แต่ทั้งนี้ หากพิจารณาจากการอัตราเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจะพบว่า บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ หรือ GBX มีการเปลี่ยนแปลงดีที่สุด โดยมีกำไรสุทธิ 23.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.07 ล้านบาทจากไตรมาส 2/53 ที่มีกำไรสุทธิ 1.86 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 1,186.55% ส่วน บมจ.ซีมิโก้ หรือ ZMICO กำไรสุทธิลดลงมากสุด 63.86%
* แจงกำไรพุ่งตามรายได้นายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น
          ทั้งนี้ PHATRA ชี้แจงว่าในไตรมาสล่าสุดนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 39.26% และมีส่วนแบ่งการตลาดที่ไม่รวมบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 4.61% รวมทั้งมีรายได้จากการเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาล่วงหน้า 16.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 13.30 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน
          ส่วน GBX ชี้แจงว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายทองคำแท่งงวดไตรมาส 2/2554 จำนวน 2,054.03 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 559.19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.41% กำไรจากการซื้อขายตราสารอนุพันธ์เพิ่มขี้น 15.23 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 101.60% และรายได้ค่านายหน้าธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทย่อยงวดไตรมาส 2/2554 จำนวน 121.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.92% รายได้ค่านายหน้าจากซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของบริษัทย่อย 27.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.99 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 106.31% เทียบกับงวดเดียวันของปีก่อน
* กำไรลดจากรายได้ที่ลดลง
          ด้าน ZMICO ชี้แจงสาเหตุที่กำไรลดลงว่า สืบเนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้รวมลดลง 6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 26 สาเหตุเกิดจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม บล. เคทีซีมิโก้ จำกัด ลดลง 4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26 เกิดจาก บล. เคที ซีมิโก้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมมีผลกำไรประจำไตรมาสที่สองปี 2554 จำนวน 25 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากไตรมาสที่สองปี 2553 ซึ่งมีผลกำไร 34 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรลดลง
          โดยไตรมาสที่สองปี 2554 บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามวิธีส่วนได้เสียร้อยละ 49.54 เป็นเงิน 12 ล้านบาทเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนรับรู้กำไร 16 ล้านบาท บริษัทรับรู้กำไรลดลง 4 ล้านบาทในขณะที่รายได้ประเภทอื่นของบริษัทในไตรมาสที่สองลดลง อาทิ เช่น รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 1 ล้านบาท และรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลจากหลักทรัพย์ลดลง 1 ล้านบาท
* กูรู ชี้หุ้นเด่นยังเป็น PHATRA-BLS
          นางสาวสิริณัฏฐา เตชะศิริวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นได้แก่ PHATRA และ BLS โดย PHATRA มีประเด็นของการประกาศจ่ายปันผล 1.30 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 3.9% ขึ้นเครื่องหมาย XD 24 ส.ค.นี้ จึงถือว่ามีความน่าสนใจ โดยราคาตามมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 3.80 บาท
          ส่วน BLS เป็นบริษัทที่มีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดย 7 เดือนมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 4.87% จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ที่ 4.41% ประกอบกับ BLS ได้เปรียบในด้านการแข่งขันหากมีการเปิดเสรี จุดแข็งของ BLS คือมีลูกค้าจากธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจะต่อยอดไปถึงดีลด้านวาณิชธนกิจไปด้วย ราคามูลค่าพื้นฐานอยู่ที่ 19 บาท
          นอกจากนี้ PHATRA เป็นอีกบริษัทที่มีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้น โดยปีที่แล้วอยู่ที่ 4.29% แต่ 7 เดือนปีนี้เพิ่มขึ้นมาที่ 4.96% จุดแข็งของ PHATRA คือมีความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับลูกค้า และมีจุดแข็งด้านวาณิชธนกิจด้วย
          ทั้งนี้ บริษัทฯ แนะนำซื้อเก็งกำไรทั้ง PHATRA เนื่องจากวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐาน พบว่าราคาหุ้นอาจขึ้นได้ดีกว่าตลาด
* ปัจจัยกดดันอยู่ที่ความไม่แน่นอนของการเปิดเสรี แต่เก็งกำไรสั้นๆ ได้
          นายทวีรัชต์ มัททวีวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ภาพรวมของหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ขณะนี้ถือว่ามีปริมาณการซื้อขายที่อยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการให้ดีขึ้น
          แต่อย่างไรก็ตาม กลับมีปัจจัยกดดันความกังวลของนักลงทุน ถึงความไม่แน่นอนในการเปิดเสรีของตลาดปี 2555 ทำให้ไม่สามารถประเมินทิศทางของธุรกิจได้ชัดเจนนัก โดยคาดว่าไม่น่าจะเห็นการเกิดการกำหนดอัตราค่านายหน้าคงที่เท่ากับ 0% แต่จะเป็นการแข่งขันของแต่ละบริษัทที่ต้องพยายามรักษาฐานลูกค้าไว้ให้มากที่สุดมากกว่า ดังนั้น ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม
          อย่างไรก็ตาม ในการลงทุนหุ้นในกลุ่มนี้ยังสามารถเก็งกำไรเป็นรอบได้ เนื่องจากมีแนวโน้มที่ราคาหุ้นจะรีบาวน์ขึ้นตามตลาดรวม ขณะที่การลงทุนในระยะยาวยังไม่แนะนำ
          "ตอนนี้หุ้นกลุ่มนี้ยังไม่มีประเด็น ดูแค่ทรงๆ แต่ปีหน้าจะเหนื่อย เพราะเปิดเสรีแล้วไม่รู้จะเป็นยังไง โบรกเกอร์ก็คงพยายามรักษาฐานลูกค้าไว้ แต่คงไม่มีใครดั้มลงมาเหลือ 0% และคงเป็นการแข่งขันแบบเอาตัวรอด ตอนนี้ยังเก็งกำไรได้ ถ้าหุ้นไม่ลงก็พร้อมจะรีบาวน์ตามตลาด แนะนำให้เล่นเป็นรอบๆ ดีกว่า" นายทวีรัชต์ กล่าว
************
ตารางแสดงผลการดำเนินงานกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ สิ้นสุด 30 มิ.ย.54 (ลบ.)
หลักทรัพย์ กำไร(Q2/54) กำไร(Q2/53) เปลี่ยนแปลง (ลบ.) คิดเป็น(%)
ASP          111.64          123.26            (11.62)           (9.24)
*BLS        101.21            90.48             10.73             11.85
*BSEC       15.36              9.48               5.88             62.02
CGS         112.55         (102.91)          215.46            209.36
**CNS      30.21            23.26               6.95              29.87
FSS            na                 na                  na                 na
GBX          23.93              1.86             22.07          1,186.55
KEST       181.86          134.83             47.03              34.88
KGI            na                  na                 na                 na
PHATRA   232.58         167.12              65.46             39.16
SSEC        na                  na                 na                  na
TNITY        22.30            2.52              19.78           784.92
US             na                na                  na                 na
ZMICO         3.66           10.13             (6.47)          (63.86)
รวม          835.30         460.03            375.27           81.57

หมายเหตุ * หมายถึงงบการเงินเฉพาะกิจการ
** หมายถึงงบ Q3/54 สิ้นสุด 30 พ.ค.54
na หมายถึง ไม่มีข้อมูล